เจ้าคณะ กทม.เร่งเคลียร์ปัญหาพระปลอม หลังมีผู้ร้องเรียนอื้อ วอนประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตา
วันนี้ (9 เม.ย.) ที่ตำหนักสมเด็จฯ วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร มีการประชุมมหาเถรสมาคม (มส.) โดยก่อนการประชุมสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ คณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระพุฒาจารย์ เจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ในการมอบพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราชแต่งตั้ง พระพรหมดิลก (เอื้อน หาสธมฺโม) วัดสามพระยา กรรมการ มส.เป็นเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร พร้อมกันนี้ภายหลังการประชุม มส.ที่ประชุม มส.ยังมีมติเห็นชอบแต่งตั้งพระราชวรเวที (เฉลา เตชวนฺโต) วัดราชคฤห์ รองเจ้าคณะภาค 14 เป็นผู้รักษาการแทนเจ้าคณะภาค 14 แทนพระพรหมดิลก ที่ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร
พระพรหมดิลก เจ้าอาวาสวัดสามพระยา ในฐานะเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า หลังจากรับพระบัญชาแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะกทม.แล้ว จะมีการเชิญเจ้าคณะเขตทั้ง 50 เขต มาประชุมหารือแนวทางการปกครองคณะสงฆ์กรุงเทพมหานคร (กทม.) รวมทั้งรับฟังปัญหาการบริหารงานของคณะสงฆ์ กทม.ในเขตต่างๆ ว่า มีเรื่องใดสำคัญที่สุด ตามลำดับ ที่จะต้องดำเนินการแก้ไข โดยเฉพาะปัญหาที่มีการร้องเรียนบ่อยครั้ง คือ กรณีพระปลอมบวชที่มีอาจาระไม่เหมาะสม เราจะต้องสร้างเครือข่ายภาคพระวินยาธิการ ประชาชน เจ้าหน้าที่บ้านเมือง ช่วยกันเป็นหูเป็นตา หากพบเห็นพระปลอมเหล่านี้ ก็จะดำเนินการได้ทันท่วงทีเพื่อสร้างความเรียบร้อยในหมู่คณะสงฆ์ กทม.และศรัทธาให้แก่พุทธศาสนิกชนในพื้นที่
สิ่งสำคัญต้องมีการส่งเสริมการศึกษาสงฆ์ในเขตกรุงเทพฯ ทั้งการเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษาและแผนกธรรมบาลี เนื่องจากพระสงฆ์จะต้องมีความรู้ทั้งทางธรรม และทางโลก โดยเฉพาะเจ้าอาวาส จะต้องทำหน้าที่ส่งเสริมการศึกษาสงฆ์ และต้องเป็นผู้มีความรู้ทางด้านกฏหมายปกครองคณะสงฆ์ หากเจ้าอาวาสมีความรู้ ก็จะทำให้การบริหารงานคณะสงฆ์มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทั้งนี้สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ มีแนวนโยบายให้ส่งเสริมความรู้พระสังฆาธิการรุ่นใหม่ จะต้องมีความรู้ทั้งทางโลกและทางธรรม เพื่อจะได้เข้าใจสภาพสังคมในปัจจุบันมากขึ้น พร้อมทั้งจะต้องมีการเรียนรู้ว่า ในปี 2558 ประเทศไทยจะเข้าสู่ประชาคมอาเซียน พระสงฆ์ไทยจะต้องมีการปรับตัวอย่างไรกับสังคมที่เปลี่ยนไปด้วย
วันนี้ (9 เม.ย.) ที่ตำหนักสมเด็จฯ วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร มีการประชุมมหาเถรสมาคม (มส.) โดยก่อนการประชุมสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ คณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระพุฒาจารย์ เจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ในการมอบพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราชแต่งตั้ง พระพรหมดิลก (เอื้อน หาสธมฺโม) วัดสามพระยา กรรมการ มส.เป็นเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร พร้อมกันนี้ภายหลังการประชุม มส.ที่ประชุม มส.ยังมีมติเห็นชอบแต่งตั้งพระราชวรเวที (เฉลา เตชวนฺโต) วัดราชคฤห์ รองเจ้าคณะภาค 14 เป็นผู้รักษาการแทนเจ้าคณะภาค 14 แทนพระพรหมดิลก ที่ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร
พระพรหมดิลก เจ้าอาวาสวัดสามพระยา ในฐานะเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า หลังจากรับพระบัญชาแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะกทม.แล้ว จะมีการเชิญเจ้าคณะเขตทั้ง 50 เขต มาประชุมหารือแนวทางการปกครองคณะสงฆ์กรุงเทพมหานคร (กทม.) รวมทั้งรับฟังปัญหาการบริหารงานของคณะสงฆ์ กทม.ในเขตต่างๆ ว่า มีเรื่องใดสำคัญที่สุด ตามลำดับ ที่จะต้องดำเนินการแก้ไข โดยเฉพาะปัญหาที่มีการร้องเรียนบ่อยครั้ง คือ กรณีพระปลอมบวชที่มีอาจาระไม่เหมาะสม เราจะต้องสร้างเครือข่ายภาคพระวินยาธิการ ประชาชน เจ้าหน้าที่บ้านเมือง ช่วยกันเป็นหูเป็นตา หากพบเห็นพระปลอมเหล่านี้ ก็จะดำเนินการได้ทันท่วงทีเพื่อสร้างความเรียบร้อยในหมู่คณะสงฆ์ กทม.และศรัทธาให้แก่พุทธศาสนิกชนในพื้นที่
สิ่งสำคัญต้องมีการส่งเสริมการศึกษาสงฆ์ในเขตกรุงเทพฯ ทั้งการเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษาและแผนกธรรมบาลี เนื่องจากพระสงฆ์จะต้องมีความรู้ทั้งทางธรรม และทางโลก โดยเฉพาะเจ้าอาวาส จะต้องทำหน้าที่ส่งเสริมการศึกษาสงฆ์ และต้องเป็นผู้มีความรู้ทางด้านกฏหมายปกครองคณะสงฆ์ หากเจ้าอาวาสมีความรู้ ก็จะทำให้การบริหารงานคณะสงฆ์มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทั้งนี้สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ มีแนวนโยบายให้ส่งเสริมความรู้พระสังฆาธิการรุ่นใหม่ จะต้องมีความรู้ทั้งทางโลกและทางธรรม เพื่อจะได้เข้าใจสภาพสังคมในปัจจุบันมากขึ้น พร้อมทั้งจะต้องมีการเรียนรู้ว่า ในปี 2558 ประเทศไทยจะเข้าสู่ประชาคมอาเซียน พระสงฆ์ไทยจะต้องมีการปรับตัวอย่างไรกับสังคมที่เปลี่ยนไปด้วย
