อุบลราชธานี - ตำรวจเมืองอุบลราชธานี โชว์ฝีมือจับแก๊งตระเวนลักฆ้องและระฆังตามวัดชื่อดังหลายแห่งนำไปซื้อขายแลกเปลี่ยนกับวัดในจังหวัดอื่น คนร้ายอ้างรับซื้อฆ้องและระฆังจากแหล่งผลิตฆ้องรายใหญ่ของจังหวัด เบื้องต้นตั้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจร พร้อมประกาศให้วัดที่เคยถูกขโมยมาดูกลางได้ทุกวัน
ที่ สภ.เมืองอุบลราชธานี พระมหาสัมฤทธิ์ ศิริธรรมโม รองเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ต.กุดลาด อ.เมืองอุบลราชธานี พร้อมญาติโยมได้มาดูฆ้องและระฆังของวัดที่ถูกคนร้ายโจรกรรม ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ขณะนำระฆังและฆ้องจำนวน 5 ใบใส่รถบรรทุกกระบะโตโยต้า ทะเบียน บบ 9541 อุบลราชธานี เตรียมนำไปขายต่อให้กับวัดอื่น หลังเข้าตรวจดูพบระฆัง 1 ใน 4 ใบที่ถูกโจรกรรมไปเมื่อ 2 เดือนก่อน ที่เหลือเป็นของวัดอื่นซึ่งมีชื่อวัดติดอยู่ด้วย อาทิ วัดศรีบุญเรือง อ.ตระการพืชผล
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหาผู้ครอบครองฆ้องและระฆัง ซึ่งทราบชื่อต่อมาว่า นายวีระพล รุ่งเรือง อายุ 29 ปี และนายเทวพร ปัดเพชร อายุ 24 ปี ราษฎรบ้านทรายมูล ต.ทรายมูล อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นแหล่งผลิตฆ้องและระฆังรายใหญ่ของจังหวัด โดยทั้งสองอ้างว่ารับฆ้องและระฆังทั้ง 5 ใบมาจากช่างในหมู่บ้านทรายมูล นำไปตระเวนซื้อขายแลกเปลี่ยนกับวัดต่างๆ ไม่ได้เป็นผู้ขโมยแต่อย่างใด แต่เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อจึงตั้งข้อหาคนทั้งสองร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจร คุมไว้ตัวดำเนินคดี
ด้าน พระมหาสัมฤทธิ์ ศิริธรรมโม รองเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ผู้เสียหายเปิดเผยว่า ฆ้องที่พบเป็นฆ้องที่ญาติโยมสั่งทำให้วัดเป็นพิเศษจึงมีราคาแพงกว่าปกติและถูกคนร้ายเข้าโจรกรรมเมื่อคืนวันที่มีฝนตกหนักเมื่อประมาณ 2 เดือนก่อน ต่อมาติดตามได้คืนมาแล้ว 1 ใบ ส่วนวันนี้เป็นใบที่ 2 และยังเหลืออีก 2 ใบ
สำหรับการป้องกันไม่ให้ถูกโจรกรรมทำได้ลำบาก เพราะฆ้องและระฆังวัดจะติดตั้งไว้ในที่เปิดเผยให้ญาติโยมใช้ทำกิจกรรมทางศาสนา จึงขอให้ผู้ที่คิดขโมยเกรงกลัวต่อบาปที่กระทำไป รวมทั้งให้ญาติโยมช่วยกันสอดส่องดูแลคนแปลกหน้าที่เข้ามาวนเวียนในวัด เพื่อไม่ให้ทรัพย์สินของส่วนกลางต้องสูญหาบไป
สำหรับการลักขโมยฆ้องและระฆังที่ตั้งอยู่ในวัดเกิดขึ้นกับวัดชื่อดังหลายแห่ง ล่าสุดเกิดที่วัดบ้านตำแย ต.ไร่น้อย อ.เมืองอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 6 ก.ย.ที่ผ่านมา ทำให้วัดสูญฆ้องและระฆังอายุกว่า 80 ปี ที่ติดตั้งไว้บนหอระฆังไป 2 ใบ คิดเป็นมูลค่ากว่า 1 แสนบาท