“เนสท์เล่” เก้าอี้ร้อน! เข้าชี้แจงมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค พบพลาสติกในช็อกโกแลตเวเฟอร์ “คิทแคท” อ้างเป็นตัวนำฉีกที่ปลอดภัย สัมผัสอาหารได้ ไม่ใช่การปนเปื้อนในเนื้อขนม ด้านผู้บริโภคจี้เปลี่ยนแพกเกจ
วันนี้ (3 เม.ย.) ตัวแทนบริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด เข้าพบ น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค พร้อมยื่นหนังสือชี้แจงการพบพลาสติกสีแดงในผลิตภัณฑ์ช็อกโกแลตนมสอดไส้เวเฟอร์ ตราเนสท์เล่คิทแคท ว่า พลาสติกสีแดงนั้นเป็นส่วนหนึ่งของบรรจุภัณฑ์ ซึ่งเป็นตัวนำฉีกเพื่อให้ผู้บริโภคฉีกบรรจุภัณฑ์ได้ง่าย พร้อมทั้งระบุว่าพลาสติกที่ปลอดภัย สัมผัสอาหารได้ ซึ่งได้ผ่านการรับรองจาก FDA (UK) ซึ่งไม่ใช่การปนเปื้อนเศษพลาสติกในเนื้อขนม ที่ปนเปื้อนพลาสติกจากการขึ้นรูปช็อกโกแลตเหมือนที่เกิดขึ้นในอังกฤษ และช็อกโกแลตในไทยก็นำเข้ามาจากประเทศมาเลเซีย ไม่ได้นำเข้าจากยุโรป
น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า พลาสติกที่พบในซอง ซึ่งทางตัวแทนได้ชี้แจงมาว่าเป็นตัวนำฉีกบรรจุภัณฑ์เพื่อให้ง่ายนั้น ถึงแม้จะเป็นพลาสติกที่ไม่เป็นอันตรายและสัมผัสอาหารได้ แต่เมื่อช็อกโกแลตละลายเส้นพลาสติกก็จะเข้าไปปนอยู่ในเนื้อช็อกโกแลต และอาจมีผู้บริโภคบางรายบริโภคเข้าไปก็จะเป็นอันตรายได้
“เพื่อความปลอดภัยต่อผู้บริโภค ต้องเปลี่ยนรูปแบบแพกเกจบรรจุภัณฑ์ให้ปลอดภัย หากจะทำให้ฉีกง่ายต่อผู้บริโภค ก็ควรที่จะนำตัวนำฉีกมาไว้ด้านนอกให้สัมผัสกับอาหาร หากเปรียบเทียบกับซองบุหรี่ที่มีนำฉีกเช่นกันยังนำมาไว้ด้านนอกซอง และขอเรียกร้องให้บริษัท เนสท์เล่ ตรวจสอบด้วยกว่ามีการนำเข้าผลิตภัณฑ์ที่มีปัญหาเข้ามาในประเทศไทยหรือไม่ รวมทั้งดูว่าบริษัท เนสท์เล่ ที่มาเลเซียมีการนำผลิตภัณฑ์ที่มีปัญหาส่งออกไปขายประเทศอื่นหรือไม่ เพื่อความปลอดภัยต่อผู้บริโภค” เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าว
นายพชร แกล้วกล้า ผู้ประสานงานโครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งกลไกคุ้มครองผู้บริโภคความปลอดภัยด้านอาหารภาคประชาชน กล่าวว่า อีกหนึ่งประเด็นที่เห็นว่าควรจะปรับปรุงพร้อมๆ กับการเปลี่ยนรูปแบบบรรจุภัณฑ์คือการแสดงฉลากอาหารแบบเร็วเป็นสีเดียว (Monochrome) ที่ปัจจุบันสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้กำหนดให้ต้องแสดงในกลุ่มขนมห้าชนิด (ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง การแสดงฉลากของอาหารสำเร็จรูปที่พร้อมบริโภคทันทีบางชนิด (ฉบับที่ 2) โดยที่หนึ่งในห้านั้นคือ กลุ่มเวเฟอร์สอดไส้ ซึ่ง คิทแคท ก็เข้าข่าย ขนมกลุ่มนี้ แต่บนบรรจุภัณฑ์กลับไม่มีการแสดงฉลากนี้อย่างถูกต้องโดยมีเพียงการระบุ ปริมาณพลังงานเท่านั้น
“ทางเนสท์เล่น่าจะได้มีการปรับปรุงเรื่องนี้ และเมื่อจะมีการปรับปรุงการแสดงฉลากโภชนาการแล้ว จึงขอเสนอเพิ่มเติมให้ทางบริษัทดำเนินการติดฉลากโภชนาการแบบสีสัญญาณไฟจราจร แบบเดียวกับบรรจุภัณฑ์ที่จำหน่ายในประเทศอังกฤษ นำร่องโดยสมัครใจให้เป็นตัวอย่างกับบริษัทอื่นๆ และ อย.ไปในครั้งเดียวเลย” นายพชรกล่าว
ด้านตัวแทนบริษัท เนสท์เล่ รับปากจะนำเรื่องที่ร่วมหารือกันและรับข้อเสนอไปคุยกับทางทีมงาน เพื่อพัฒนาและปรับปรุงให้ปลอดภัยต่อผู้บริโภค และจะส่งหนังสือมาถึงมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคอีกครั้ง
วันนี้ (3 เม.ย.) ตัวแทนบริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด เข้าพบ น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค พร้อมยื่นหนังสือชี้แจงการพบพลาสติกสีแดงในผลิตภัณฑ์ช็อกโกแลตนมสอดไส้เวเฟอร์ ตราเนสท์เล่คิทแคท ว่า พลาสติกสีแดงนั้นเป็นส่วนหนึ่งของบรรจุภัณฑ์ ซึ่งเป็นตัวนำฉีกเพื่อให้ผู้บริโภคฉีกบรรจุภัณฑ์ได้ง่าย พร้อมทั้งระบุว่าพลาสติกที่ปลอดภัย สัมผัสอาหารได้ ซึ่งได้ผ่านการรับรองจาก FDA (UK) ซึ่งไม่ใช่การปนเปื้อนเศษพลาสติกในเนื้อขนม ที่ปนเปื้อนพลาสติกจากการขึ้นรูปช็อกโกแลตเหมือนที่เกิดขึ้นในอังกฤษ และช็อกโกแลตในไทยก็นำเข้ามาจากประเทศมาเลเซีย ไม่ได้นำเข้าจากยุโรป
น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า พลาสติกที่พบในซอง ซึ่งทางตัวแทนได้ชี้แจงมาว่าเป็นตัวนำฉีกบรรจุภัณฑ์เพื่อให้ง่ายนั้น ถึงแม้จะเป็นพลาสติกที่ไม่เป็นอันตรายและสัมผัสอาหารได้ แต่เมื่อช็อกโกแลตละลายเส้นพลาสติกก็จะเข้าไปปนอยู่ในเนื้อช็อกโกแลต และอาจมีผู้บริโภคบางรายบริโภคเข้าไปก็จะเป็นอันตรายได้
“เพื่อความปลอดภัยต่อผู้บริโภค ต้องเปลี่ยนรูปแบบแพกเกจบรรจุภัณฑ์ให้ปลอดภัย หากจะทำให้ฉีกง่ายต่อผู้บริโภค ก็ควรที่จะนำตัวนำฉีกมาไว้ด้านนอกให้สัมผัสกับอาหาร หากเปรียบเทียบกับซองบุหรี่ที่มีนำฉีกเช่นกันยังนำมาไว้ด้านนอกซอง และขอเรียกร้องให้บริษัท เนสท์เล่ ตรวจสอบด้วยกว่ามีการนำเข้าผลิตภัณฑ์ที่มีปัญหาเข้ามาในประเทศไทยหรือไม่ รวมทั้งดูว่าบริษัท เนสท์เล่ ที่มาเลเซียมีการนำผลิตภัณฑ์ที่มีปัญหาส่งออกไปขายประเทศอื่นหรือไม่ เพื่อความปลอดภัยต่อผู้บริโภค” เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าว
นายพชร แกล้วกล้า ผู้ประสานงานโครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งกลไกคุ้มครองผู้บริโภคความปลอดภัยด้านอาหารภาคประชาชน กล่าวว่า อีกหนึ่งประเด็นที่เห็นว่าควรจะปรับปรุงพร้อมๆ กับการเปลี่ยนรูปแบบบรรจุภัณฑ์คือการแสดงฉลากอาหารแบบเร็วเป็นสีเดียว (Monochrome) ที่ปัจจุบันสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้กำหนดให้ต้องแสดงในกลุ่มขนมห้าชนิด (ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง การแสดงฉลากของอาหารสำเร็จรูปที่พร้อมบริโภคทันทีบางชนิด (ฉบับที่ 2) โดยที่หนึ่งในห้านั้นคือ กลุ่มเวเฟอร์สอดไส้ ซึ่ง คิทแคท ก็เข้าข่าย ขนมกลุ่มนี้ แต่บนบรรจุภัณฑ์กลับไม่มีการแสดงฉลากนี้อย่างถูกต้องโดยมีเพียงการระบุ ปริมาณพลังงานเท่านั้น
“ทางเนสท์เล่น่าจะได้มีการปรับปรุงเรื่องนี้ และเมื่อจะมีการปรับปรุงการแสดงฉลากโภชนาการแล้ว จึงขอเสนอเพิ่มเติมให้ทางบริษัทดำเนินการติดฉลากโภชนาการแบบสีสัญญาณไฟจราจร แบบเดียวกับบรรจุภัณฑ์ที่จำหน่ายในประเทศอังกฤษ นำร่องโดยสมัครใจให้เป็นตัวอย่างกับบริษัทอื่นๆ และ อย.ไปในครั้งเดียวเลย” นายพชรกล่าว
ด้านตัวแทนบริษัท เนสท์เล่ รับปากจะนำเรื่องที่ร่วมหารือกันและรับข้อเสนอไปคุยกับทางทีมงาน เพื่อพัฒนาและปรับปรุงให้ปลอดภัยต่อผู้บริโภค และจะส่งหนังสือมาถึงมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคอีกครั้ง