เผยรายชื่อล่าสุด 4 ขุนพล “จุมพล-ผุสดี-อัศวิน-อมร” ข้างกาย “สุขุมพันธุ์” พร้อมเตรียมลงนามแต่งตั้งรองผู้ว่าฯ กทม.ทั้ง 4 ต่อหน้าสื่อมวลชนและเปิดตัวในการประชุมสภา “เบญทราย” แย้มตั้งโฆษกหน้าใหม่ยกชุด ขณะที่เจ้าตัวเครื่องฟิตจัดประชุมผู้บริหารนัดแรกจัดเต็มมอบ 10 มาตรการเร่งด่วนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรีบดำเนินการ
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมผู้บริหาร กทม.ว่า ครั้งนี้เป็นการประชุมผู้บริหาร กทม.ครั้งแรกในวาระที่ 2 ในที่ประชุมรายงานความคืบหน้าของ 10 มาตรการเร่งด่วนตามนโยบายที่ได้หาเสียงไว้ โดยนโยบายทุกข้อมีความคืบหน้าทั้งหมด ได้แก่ 1.การติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (ซีซีทีวี) จำนวน 27,000 ตัว ซึ่งภายในปีนี้จะติดตั้งให้ครบ และได้สั่งการให้มีการสำรวจจุดเสี่ยงตามชุมชนต่างๆ เพิ่มเติมในปีงบประมาณ 2557 ส่วนไฟฟ้าส่องสว่างนั้นจะติดตั้งให้ครบ 20,000 จุดทั่วกรุงเทพฯ โดยได้ประสานไปยังการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ซึ่ง กฟน.สามารถติดตั้งได้ปีละ 7,000 จุด ต้องใช้เวลา 3 ปีจึงจะติดตั้งแล้วเสร็จ กทม.จะหารือกับ กฟน.เพื่อเร่งรัดติดตั้งให้ได้ปีละ 10,000 ตัว 2.การรับสมัครอาสาสมัครชุมชน ซึ่งภายในปี 2557 จะเพิ่มจำนวนอาสาสมัครให้ครบ 760 ชุมชน และในปี 58 จะมีให้ครบทุกชุมชนทั่วกรุงเทพฯ
3.การปรับลดค่าโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอสส่วนต่อขยาย จาก 15 บาท เป็น 10 บาท จะต้องมีการปรับระบบซอฟต์แวร์ โดยส่วนต่อขยายสายสุขุมวิท สถานีอ่อนนุช-แบริ่ง จะแล้วเสร็จทันเปิดภาคเรียนนี้ คือวันที่ 17 พ.ค.นี้แน่นอน สำหรับส่วนต่อขยายสายสีลม สถานีสะพานตากสิน-ตลาดพลู ทางสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) จะต้องใช้เวลาในการปรับซอฟต์แวร์ที่ซับซ้อนกว่าสายสุขุมวิท ซึ่งตนขอให้เสร็จภายใน 3 เดือน หรือไม่เกิน 6 เดือน ส่วนการลดค่าโดยสารรถเมล์บีอาร์ที จาก 10 บาท เหลือ 5 บาทตลอดสาย ต้องนำเรื่องเข้าที่ประชุมของคณะกรรมการขนส่งทางบกกลาง กระทรวงคมนาคม ซึ่งจะมีการประชุมในวันที่ 4 เม.ย.นี้
4.การปรับลดอัตราดอกเบี้ยสถานธนานุบาลของ กทม.โดยคิดอัตราดอกเบี้ยจาก 50 สตางค์ เป็น 25 สตางค์ จำนวนเงินไม่เกิน 5,000 บาทแรก นอกจากนี้ ยังมีอัตราดอกเบี้ยพิเศษสำหรับผู้ปกครองที่มีภาระเรื่องค่าใช้จ่ายในการเล่าเรียนของบุตรหลาน วงเงิน 70,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ย 50 สตางค์ ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.ถึง 31 พ.ค.นี้ โดยให้นำหลักฐานการเข้าเรียนของบุตรหลานมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่
5.การสอนภาษามลายูฟรี ซึ่งมีกำหนดจะเริ่มสอนที่โรงเรียนฝึกอาชีพ ทั้ง 10 แห่งของ กทม.ก่อน โดยเริ่มเปิดสอนรุ่นละ 25 คน ทั้งหมด 20 รุ่น 6.การปรับสถานะของอาสาสมัครดูแลเด็กเล็กให้เป็นลูกจ้าง กทม.ซึ่งขณะนี้กำลังแก้ไขระเบียบในเรื่องของค่าตอบแทนและสถานภาพ 7.การเปิดจุดบริการพิเศษงานทะเบียนราษฎรในห้างสรรพสินค้า จะเปิดเป็นแห่งแรกที่ศูนย์การค้าพาราไดซ์ เขตประเวศ ในเดือน มิ.ย.นี้ และจะเปิดอีก 7 แห่งทั่วทุกมุมเมืองภายในปีนี้
8.การติดตั้งระบบอินเทอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูง (ไวไฟ) 5,000 จุด กำลังดำเนินการอยู่ 9.การเพิ่มบริการเก็บขยะ ขณะนี้ให้สำนักสิ่งแวดล้อมมอบหมายงานให้ทุกสำนักงานเขตเข้าหารือกับชุมชนในพื้นที่เพื่อกำหนดจุดในการจัดเก็บขยะเพิ่มเติม และ 10.การเพิ่มรถแท็กซี่สำหรับผู้พิการ ให้กรุงเทพธนาคม (เคที) ดำเนินการอยู่ ขณะนี้มีอยู่แล้ว 10 คัน ส่วนอีก 90 คันที่เหลือจะต้องรอการจัดสรรงบประมาณ ซึ่งเฉลี่ยคันละ 1.4 ล้านบาท และค่าบริหารอีกประมาณ 200 ล้านบาท โดยอยู่ระหว่างการกำหนดกรอบวงเงินและกำหนดอัตราค่าโดยสาร ซึ่งภายใน 4 ปี จะดำเนินการให้ครบ 100 คัน
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวถึงการแต่งตั้งตำแหน่งรองผู้ว่าฯ กทม.ว่า ในบ่ายวันนี้ตนจะลงนามแต่งตั้งทีมงานการเมือง โดยเฉพาะตำแหน่งรองผู้ว่าฯ กทม.และจะแถลงอย่างเป็นทางการ พร้อมมอบหมายงานในวันพรุ่งนี้ (3 เม.ย.) ก่อนที่จะมีการเข้าประชุมสภา กทม.ในวันเดียวกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเดิมที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ จะลงนามแต่งตั้งรองผู้ว่าฯ กทม.ทั้ง 4 ตำแหน่งในบ่ายวันนี้นั้น ล่าสุดนางเบญทราย กียปัจจ์ เลขานุการส่วนตัว ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ให้สัมภาษณ์ว่า ทาง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ได้แจ้งกับตนเองว่าในวันนี้จะยังไม่มีการลงนามแต่งตั้งรองผู้ว่าฯกทม.แต่อย่างใด โดยผู้ว่าฯ กทม.จะลงนามแต่งตั้งต่อหน้าสื่อมวลชนในวันพรุ่งนี้ (3 เม.ย.) ก่อนการประชุมสภากรุงเทพมหานคร จากนั้นจะมีการเปิดตัวในที่ประชุมสภา กทม.ในส่วนทีมที่ปรึกษาซึ่งจะมาเป็นข้าราชการฝ่ายการเมืองนั้น ขณะนี้ยังไม่แล้วเสร็จคาดว่าจะสามารถลงนามแต่งตั้งได้ในวันถัด อย่างไรก็ตาม จะมีหน้าทั้งหน้าเก่าและใหม่ผสมกันเพื่อให้การทำงานทุกอย่างสามารถเดินหน้าต่อทันทีไม่ใช่จะมาเรียนรู้ใหม่ทั้งหมด ส่วนทีมโฆษกกทม.นั้นจะไม่ใช่คนเดิมคือ นายวสันต์ มีวงศ์ อดีตโฆษก กทม.และตนเองแต่จะเป็นชุดนอกโดยตัวโฆษกจะเป็นคนนอกพรรค
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับรายชื่อล่าสุดของผู้จะมาดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าฯ กทม.ทั้ง 4 คนได้แก่ นายจุมพล สำเภาพล อดีตรองปลัด กทม.ซึ่งได้ยื่นหนังสือลาออกต่อนางนินนาท ชลิตานนท์ ปลัด กทม.โดยในหนังสือระบุว่ามีความประสงค์ลาออกจากราชการ เพื่อไปดำรงตำแหน่งทางการเมืองในวันที่ 2 เมษายน เป็นต้นไป นางผุสดี ตามไท อดีต ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง อดีตผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และนายอมร กิจเชวงกุล กรรมการผู้อำนวยการบริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด วิสาหกิจของ กทม.
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ทางข้าราชการประจำที่ทำงานห้องนายจุมพล ได้ไปจัดเตรียมสถานที่ห้องทำงานใหม่ให้กับนายจุมพล ในฐานะรองผู้ว่าฯ กทม.โดยจะใช้ห้องทำงานเดิมของนายวัลลภ สุวรรณดี อดีตรองผู้ว่าฯ กทม.
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมผู้บริหาร กทม.ว่า ครั้งนี้เป็นการประชุมผู้บริหาร กทม.ครั้งแรกในวาระที่ 2 ในที่ประชุมรายงานความคืบหน้าของ 10 มาตรการเร่งด่วนตามนโยบายที่ได้หาเสียงไว้ โดยนโยบายทุกข้อมีความคืบหน้าทั้งหมด ได้แก่ 1.การติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (ซีซีทีวี) จำนวน 27,000 ตัว ซึ่งภายในปีนี้จะติดตั้งให้ครบ และได้สั่งการให้มีการสำรวจจุดเสี่ยงตามชุมชนต่างๆ เพิ่มเติมในปีงบประมาณ 2557 ส่วนไฟฟ้าส่องสว่างนั้นจะติดตั้งให้ครบ 20,000 จุดทั่วกรุงเทพฯ โดยได้ประสานไปยังการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ซึ่ง กฟน.สามารถติดตั้งได้ปีละ 7,000 จุด ต้องใช้เวลา 3 ปีจึงจะติดตั้งแล้วเสร็จ กทม.จะหารือกับ กฟน.เพื่อเร่งรัดติดตั้งให้ได้ปีละ 10,000 ตัว 2.การรับสมัครอาสาสมัครชุมชน ซึ่งภายในปี 2557 จะเพิ่มจำนวนอาสาสมัครให้ครบ 760 ชุมชน และในปี 58 จะมีให้ครบทุกชุมชนทั่วกรุงเทพฯ
3.การปรับลดค่าโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอสส่วนต่อขยาย จาก 15 บาท เป็น 10 บาท จะต้องมีการปรับระบบซอฟต์แวร์ โดยส่วนต่อขยายสายสุขุมวิท สถานีอ่อนนุช-แบริ่ง จะแล้วเสร็จทันเปิดภาคเรียนนี้ คือวันที่ 17 พ.ค.นี้แน่นอน สำหรับส่วนต่อขยายสายสีลม สถานีสะพานตากสิน-ตลาดพลู ทางสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) จะต้องใช้เวลาในการปรับซอฟต์แวร์ที่ซับซ้อนกว่าสายสุขุมวิท ซึ่งตนขอให้เสร็จภายใน 3 เดือน หรือไม่เกิน 6 เดือน ส่วนการลดค่าโดยสารรถเมล์บีอาร์ที จาก 10 บาท เหลือ 5 บาทตลอดสาย ต้องนำเรื่องเข้าที่ประชุมของคณะกรรมการขนส่งทางบกกลาง กระทรวงคมนาคม ซึ่งจะมีการประชุมในวันที่ 4 เม.ย.นี้
4.การปรับลดอัตราดอกเบี้ยสถานธนานุบาลของ กทม.โดยคิดอัตราดอกเบี้ยจาก 50 สตางค์ เป็น 25 สตางค์ จำนวนเงินไม่เกิน 5,000 บาทแรก นอกจากนี้ ยังมีอัตราดอกเบี้ยพิเศษสำหรับผู้ปกครองที่มีภาระเรื่องค่าใช้จ่ายในการเล่าเรียนของบุตรหลาน วงเงิน 70,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ย 50 สตางค์ ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.ถึง 31 พ.ค.นี้ โดยให้นำหลักฐานการเข้าเรียนของบุตรหลานมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่
5.การสอนภาษามลายูฟรี ซึ่งมีกำหนดจะเริ่มสอนที่โรงเรียนฝึกอาชีพ ทั้ง 10 แห่งของ กทม.ก่อน โดยเริ่มเปิดสอนรุ่นละ 25 คน ทั้งหมด 20 รุ่น 6.การปรับสถานะของอาสาสมัครดูแลเด็กเล็กให้เป็นลูกจ้าง กทม.ซึ่งขณะนี้กำลังแก้ไขระเบียบในเรื่องของค่าตอบแทนและสถานภาพ 7.การเปิดจุดบริการพิเศษงานทะเบียนราษฎรในห้างสรรพสินค้า จะเปิดเป็นแห่งแรกที่ศูนย์การค้าพาราไดซ์ เขตประเวศ ในเดือน มิ.ย.นี้ และจะเปิดอีก 7 แห่งทั่วทุกมุมเมืองภายในปีนี้
8.การติดตั้งระบบอินเทอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูง (ไวไฟ) 5,000 จุด กำลังดำเนินการอยู่ 9.การเพิ่มบริการเก็บขยะ ขณะนี้ให้สำนักสิ่งแวดล้อมมอบหมายงานให้ทุกสำนักงานเขตเข้าหารือกับชุมชนในพื้นที่เพื่อกำหนดจุดในการจัดเก็บขยะเพิ่มเติม และ 10.การเพิ่มรถแท็กซี่สำหรับผู้พิการ ให้กรุงเทพธนาคม (เคที) ดำเนินการอยู่ ขณะนี้มีอยู่แล้ว 10 คัน ส่วนอีก 90 คันที่เหลือจะต้องรอการจัดสรรงบประมาณ ซึ่งเฉลี่ยคันละ 1.4 ล้านบาท และค่าบริหารอีกประมาณ 200 ล้านบาท โดยอยู่ระหว่างการกำหนดกรอบวงเงินและกำหนดอัตราค่าโดยสาร ซึ่งภายใน 4 ปี จะดำเนินการให้ครบ 100 คัน
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวถึงการแต่งตั้งตำแหน่งรองผู้ว่าฯ กทม.ว่า ในบ่ายวันนี้ตนจะลงนามแต่งตั้งทีมงานการเมือง โดยเฉพาะตำแหน่งรองผู้ว่าฯ กทม.และจะแถลงอย่างเป็นทางการ พร้อมมอบหมายงานในวันพรุ่งนี้ (3 เม.ย.) ก่อนที่จะมีการเข้าประชุมสภา กทม.ในวันเดียวกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเดิมที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ จะลงนามแต่งตั้งรองผู้ว่าฯ กทม.ทั้ง 4 ตำแหน่งในบ่ายวันนี้นั้น ล่าสุดนางเบญทราย กียปัจจ์ เลขานุการส่วนตัว ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ให้สัมภาษณ์ว่า ทาง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ได้แจ้งกับตนเองว่าในวันนี้จะยังไม่มีการลงนามแต่งตั้งรองผู้ว่าฯกทม.แต่อย่างใด โดยผู้ว่าฯ กทม.จะลงนามแต่งตั้งต่อหน้าสื่อมวลชนในวันพรุ่งนี้ (3 เม.ย.) ก่อนการประชุมสภากรุงเทพมหานคร จากนั้นจะมีการเปิดตัวในที่ประชุมสภา กทม.ในส่วนทีมที่ปรึกษาซึ่งจะมาเป็นข้าราชการฝ่ายการเมืองนั้น ขณะนี้ยังไม่แล้วเสร็จคาดว่าจะสามารถลงนามแต่งตั้งได้ในวันถัด อย่างไรก็ตาม จะมีหน้าทั้งหน้าเก่าและใหม่ผสมกันเพื่อให้การทำงานทุกอย่างสามารถเดินหน้าต่อทันทีไม่ใช่จะมาเรียนรู้ใหม่ทั้งหมด ส่วนทีมโฆษกกทม.นั้นจะไม่ใช่คนเดิมคือ นายวสันต์ มีวงศ์ อดีตโฆษก กทม.และตนเองแต่จะเป็นชุดนอกโดยตัวโฆษกจะเป็นคนนอกพรรค
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับรายชื่อล่าสุดของผู้จะมาดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าฯ กทม.ทั้ง 4 คนได้แก่ นายจุมพล สำเภาพล อดีตรองปลัด กทม.ซึ่งได้ยื่นหนังสือลาออกต่อนางนินนาท ชลิตานนท์ ปลัด กทม.โดยในหนังสือระบุว่ามีความประสงค์ลาออกจากราชการ เพื่อไปดำรงตำแหน่งทางการเมืองในวันที่ 2 เมษายน เป็นต้นไป นางผุสดี ตามไท อดีต ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง อดีตผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และนายอมร กิจเชวงกุล กรรมการผู้อำนวยการบริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด วิสาหกิจของ กทม.
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ทางข้าราชการประจำที่ทำงานห้องนายจุมพล ได้ไปจัดเตรียมสถานที่ห้องทำงานใหม่ให้กับนายจุมพล ในฐานะรองผู้ว่าฯ กทม.โดยจะใช้ห้องทำงานเดิมของนายวัลลภ สุวรรณดี อดีตรองผู้ว่าฯ กทม.