กทม.ปลุกจิตสำนึกสร้างนิสัยรักการอ่านผ่านการแสดงหุ่นละครเล็ก นาฏยศาลา
วันนี้ (29 มี.ค.) นางนินนาท ชลิตานนท์ ปลัดกรุงเทพมหานคร(กทม.) เป็นประธานแถลงข่าว “โครงการรักการอ่าน สืบสานมรดกศิลป์ไทย” เพื่อส่งเสริมการอ่านและกระตุ้นให้นักเรียน กทม.มีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าภาพเมืองหนังสือโลก ณ ห้องเจ้าพระยา ศาลาว่าการ กทม.ว่า กทม.ได้ร่วมกับนาฏยศาลา หุ่นละครเล็ก (โจหลุยส์) ถ่ายทอดวรรณคดีไทยผ่านศิลปะการแสดงและศิลปะการสร้างสรรค์ประดิษฐ์หุ่นละคร ซึ่งเป็นสื่อสามมิติที่หลอมรวมองค์ความรู้และศิลปะไทย เป็นการกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดความสนใจศึกษาค้นคว้าและอ่านวรรณคดีไทยอันเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ ภายใต้ “โครงการรักการอ่าน สืบสานมรดกศิลป์ไทย” โดยจัด 2 กิจกรรม ประกอบด้วย กิจกรรม “จับบทเรียนมาเป็นบทละคร จับตัวอักษรมาสะท้อนเป็นการแสดง” กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ทั้ง 431 โรงเรียน เป็นการเลือกสรรบทละครเรื่องรามเกียรติ์ ตอนนารายณ์ปราบนนทุก ซึ่งมีเนื้อหาเรื่องราวที่สนุกสนาน สอดคล้องและเหมาะสมกับวัยของนักเรียน กำหนดจัดแสดง 100 รอบ รอบแรกในวันที่ 5 มิ.ย. 2556 ณ โรงเรียนวัดเบญจมบพิตร สำนักงานเขตดุสิต รอบสุดท้ายในวันที่ 24 ม.ค. 2557 ณ โรงเรียนเคหะชุมชนลาดกระบัง สำนักงานเขตลาดกระบัง และกิจกรรม “เพาะต้นกล้า งานศิลป์ไทย” กลุ่มเป้าหมายเป็นนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นทั้ง 106 โรงเรียน กำหนดจัดแสดง 30 รอบ รอบแรกในวันที่ 16 ก.ย. 2556 ณ โรงเรียนพระยามนธาตุราชศรีพิจิตร์ สำนักงานเขตบางบอน รอบสุดท้ายในวันที่ 10 ม.ค. 2557 ณ โรงเรียนคลองกุ่ม สำนักงานเขตบึงกุ่ม สำหรับกิจกรรม “เพาะต้นกล้า งานศิลป์ไทย” เน้นให้นักเรียนได้ชมนิทรรศการ อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติหุ่นไทย การประดิษฐ์หุ่น ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการแสดงหุ่นละครเล็ก เรื่อง พระอภัยมณีตอนกำเนิดสุดสาคร ซึ่งเป็นวรรณคดีที่อยู่ในหนังสือเรียน นอกจากนี้ นักเรียนจะได้ประดิษฐ์หุ่นละคร 10 ตัว ได้แก่ นางผีเสื้อสมุทร สินสมุทร ตาเงือก ยายเงือก นางเงือกน้อย พระฤๅษี สุดสาคร ชีเปลือย พระอภัยมณี และลูกศิษย์พระฤๅษี และฝึกการเชิดหุ่นตัวละครที่ประดิษฐ์ขึ้นโดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้วย
นางนินนาท กล่าวอีกว่า กทม.ได้มีการจัดกิจกรรมและโครงการต่างๆ รณรงค์ให้กทม.เป็นเมืองหนังสือโลกอย่างต่อเนื่องและจริงจัง โดยเฉพาะในโรงเรียนสังกัดกทม.ที่มีจำนวนนักเรียนมากกว่า 3 แสนคน การส่งเสริมการอ่านผ่านการแสดงหุ่นละครซึ่งเป็นศิลปะไทยที่ใช้ในการเล่าเรื่องเกี่ยวกับวรรณคดีไทยจะทำให้นักเรียนได้รับความสนุกสนานเพลิดเพลิน กระตุ้นให้เกิดความซาบซึ้งกับวรรณคดีไทย อยากรู้เรื่องราววรรณคดีไทยต่างๆ มีการศึกษาค้นคว้า อ่านเรื่องราวเพิ่มเติม ซึ่งนอกจากจะช่วยสร้างนิสัยรักการอ่านแล้วยังเป็นการส่งเสริมให้เด็กนักเรียนมีส่วนร่วมในการช่วยกันอนุรักษ์วรรณคดีไทยและวัฒนธรรมไทยไว้ให้คงอยู่คู่คนไทยสืบไป โดย กทม.จะดำเนินโครงการดังกล่าวให้ต่อเนื่องต่อไป
วันนี้ (29 มี.ค.) นางนินนาท ชลิตานนท์ ปลัดกรุงเทพมหานคร(กทม.) เป็นประธานแถลงข่าว “โครงการรักการอ่าน สืบสานมรดกศิลป์ไทย” เพื่อส่งเสริมการอ่านและกระตุ้นให้นักเรียน กทม.มีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าภาพเมืองหนังสือโลก ณ ห้องเจ้าพระยา ศาลาว่าการ กทม.ว่า กทม.ได้ร่วมกับนาฏยศาลา หุ่นละครเล็ก (โจหลุยส์) ถ่ายทอดวรรณคดีไทยผ่านศิลปะการแสดงและศิลปะการสร้างสรรค์ประดิษฐ์หุ่นละคร ซึ่งเป็นสื่อสามมิติที่หลอมรวมองค์ความรู้และศิลปะไทย เป็นการกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดความสนใจศึกษาค้นคว้าและอ่านวรรณคดีไทยอันเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ ภายใต้ “โครงการรักการอ่าน สืบสานมรดกศิลป์ไทย” โดยจัด 2 กิจกรรม ประกอบด้วย กิจกรรม “จับบทเรียนมาเป็นบทละคร จับตัวอักษรมาสะท้อนเป็นการแสดง” กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ทั้ง 431 โรงเรียน เป็นการเลือกสรรบทละครเรื่องรามเกียรติ์ ตอนนารายณ์ปราบนนทุก ซึ่งมีเนื้อหาเรื่องราวที่สนุกสนาน สอดคล้องและเหมาะสมกับวัยของนักเรียน กำหนดจัดแสดง 100 รอบ รอบแรกในวันที่ 5 มิ.ย. 2556 ณ โรงเรียนวัดเบญจมบพิตร สำนักงานเขตดุสิต รอบสุดท้ายในวันที่ 24 ม.ค. 2557 ณ โรงเรียนเคหะชุมชนลาดกระบัง สำนักงานเขตลาดกระบัง และกิจกรรม “เพาะต้นกล้า งานศิลป์ไทย” กลุ่มเป้าหมายเป็นนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นทั้ง 106 โรงเรียน กำหนดจัดแสดง 30 รอบ รอบแรกในวันที่ 16 ก.ย. 2556 ณ โรงเรียนพระยามนธาตุราชศรีพิจิตร์ สำนักงานเขตบางบอน รอบสุดท้ายในวันที่ 10 ม.ค. 2557 ณ โรงเรียนคลองกุ่ม สำนักงานเขตบึงกุ่ม สำหรับกิจกรรม “เพาะต้นกล้า งานศิลป์ไทย” เน้นให้นักเรียนได้ชมนิทรรศการ อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติหุ่นไทย การประดิษฐ์หุ่น ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการแสดงหุ่นละครเล็ก เรื่อง พระอภัยมณีตอนกำเนิดสุดสาคร ซึ่งเป็นวรรณคดีที่อยู่ในหนังสือเรียน นอกจากนี้ นักเรียนจะได้ประดิษฐ์หุ่นละคร 10 ตัว ได้แก่ นางผีเสื้อสมุทร สินสมุทร ตาเงือก ยายเงือก นางเงือกน้อย พระฤๅษี สุดสาคร ชีเปลือย พระอภัยมณี และลูกศิษย์พระฤๅษี และฝึกการเชิดหุ่นตัวละครที่ประดิษฐ์ขึ้นโดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้วย
นางนินนาท กล่าวอีกว่า กทม.ได้มีการจัดกิจกรรมและโครงการต่างๆ รณรงค์ให้กทม.เป็นเมืองหนังสือโลกอย่างต่อเนื่องและจริงจัง โดยเฉพาะในโรงเรียนสังกัดกทม.ที่มีจำนวนนักเรียนมากกว่า 3 แสนคน การส่งเสริมการอ่านผ่านการแสดงหุ่นละครซึ่งเป็นศิลปะไทยที่ใช้ในการเล่าเรื่องเกี่ยวกับวรรณคดีไทยจะทำให้นักเรียนได้รับความสนุกสนานเพลิดเพลิน กระตุ้นให้เกิดความซาบซึ้งกับวรรณคดีไทย อยากรู้เรื่องราววรรณคดีไทยต่างๆ มีการศึกษาค้นคว้า อ่านเรื่องราวเพิ่มเติม ซึ่งนอกจากจะช่วยสร้างนิสัยรักการอ่านแล้วยังเป็นการส่งเสริมให้เด็กนักเรียนมีส่วนร่วมในการช่วยกันอนุรักษ์วรรณคดีไทยและวัฒนธรรมไทยไว้ให้คงอยู่คู่คนไทยสืบไป โดย กทม.จะดำเนินโครงการดังกล่าวให้ต่อเนื่องต่อไป
