ภาคประชาชนจับตา “หมอประดิษฐ” เดินหน้านโยบายเมดิคัล ฮับ เอื้อ รพ.เอกชน หึ่ง! เตรียมเข้าร่วมงานเชิดชู “เศรษฐา ทวีสิน” บิ๊กแสนสิริ แก๊ง ว.5 โฟร์ซีซันส์นายกฯปู ด้าน รมว.สธ.ยันปฏิเสธเข้าร่วมงาน ย้ำแพทย์ได้เบี้ยเลี้ยงเหมือนเดิม แค่ปรับวิธีการจ่าย
แหล่งข่าวกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ขณะนี้ในแวดวงแพทย์โดยเฉพาะพื้นที่ชนบทต่างพูดถึงการออกนโยบายปรับเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายใหม่ โดยคิดเป็นตามภาระงาน (P4P : Pay for Performance) ล่าสุดได้มีการนำตัวแทนแพทย์ ทันตแพทย์ พยาบาล และเภสัชกร เดินทางมาเรียกร้องให้เลิกนโยบายดังกล่าว หากไม่ดำเนินการจะหยุดงานประท้วงในช่วงสงกรานต์ เพราะว่าเป็นการกระทำที่ส่อทำลายระบบสุขภาพในภาพชนบท ซึ่งมีประชาชนส่วนใหญ่เข้ารับบริการ เนื่องจากการหักเบี้ยเลี้ยงจะส่งผลกระทบต่อขวัญกำลังใจของคนทำงานในพื้นที่ห่างไกล และอย่าลืมว่าโรงพยาบาลชุมชนส่วนใหญ่ทำงานตามพื้นที่ เยี่ยมอาการชาวบ้าน ส่งเสริมสุขภาพ หากคิดตามค่า P4P ตรงนี้ต้องให้ชัดว่าจะรวมใน P4P หรือไม่
“ประเด็นที่น่าสนใจและมีกระแสให้จับตามองคือ รัฐกลับให้การสนับสนุนภาคเอกชน จากนโยบายเมดิคัล ฮับมาก โดยมีการพูดถึงให้ภาคเอกชนโดยเฉพาะจากต่างชาติสามารถถือหุ้นได้ถึงร้อยละ 70 ซึ่งหากเป็นจริงน่ากลัวมาก เพราะสุดท้ายแพทย์ในชนบทก็จะลาออก เพราะไม่มีแรงจูงใจเรื่องค่าเบี้ยเลี้ยงให้อยู่ในพื้นที่ แต่แห่ไปอยู่ รพ.เอกชนแทน ซึ่งชัดเจนว่านักการเมืองที่มาจากภาคเอกชนและต้องมาทำหน้าที่บริหารงานภาครัฐ ก็มักจะใช้วิธีแบบเอกชนในการบริหาร ซึ่งในเรื่องสุขภาพ เป็นเรื่องสาธารณะ ควรคิดถึงประชาชนมากกว่า” แหล่งข่าวกล่าว
แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า ล่าสุดยังเกิดคำถามถึงความเหมาะสมของ นพ.ประดิษฐ ที่มีความเกี่ยวข้องกับภาคธุรกิจ ซึ่งพบว่ามีหมายกำหนดการร่วมสัมภาษณ์พิเศษกลุ่มย่อย กรณีนายนายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ได้รับรางวัลระดับโลก ‘Basil Hetzel Award’ จากสภานานาชาติเพื่อการควบคุมโรคขาดสารไอโอดีน (ICCIDD) ในช่วงสัปดาห์หน้า ซึ่งภาคประชาชนเกิดความกังวลว่า การเปลี่ยนแปลงนโยบายด้านสาธารณสุขในครั้งนี้ จะมีการเอื้อไปถึงภาคเอกชน จึงมองว่า นพ.ประดิษฐ มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ บ.แสนสิริ ซึ่งมีความใกล้ชิดกับตระกูลชินวัตร โดยภาคประชาชนด้านสาธารณสุขกำลังจับตาอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง นพ.ประดิษฐ ก็ได้ตอบสั้นๆ ว่า ได้รับเชิญให้ไปงานดังกล่าวจริง แต่ได้ตอบปฏิเสธไปแล้ว เนื่องจากในวันดังกล่าวมีการประชุมคณะกรรมการสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ เมื่อผู้สื่อข่าวจะซักถามต่อถึงความเหมาะสมในความใกล้ชิดกับภาคธุรกิจ นพ.ประดิษฐ ได้ปฏิเสธที่จะตอบคำถามพร้อมกล่าวว่า ผมไม่ได้ไปแล้ว ไม่น่ามีอะไรต้องถาม
นพ.ประดิษฐ กล่าวด้วยว่า ส่วนเรื่องที่แพทย์ขู่จะหยุดงานประท้วงกรณีที่ สธ.ยกเลิกนโยบายปรับเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายใหม่เป็นคิดตามภาระงานนั้น ตนไม่ห่วงเรื่องที่แพทย์จะหยุดงาน เพราะเชื่อว่าแพทย์ทุกคนมีจรรยาบรรณ และยืนยันว่าแพทย์ทุกคนจะยังได้รับเบี้ยเลี้ยงเหมือนเดิม แต่จะมีการปรับกติกาให้เหมาะสมในแต่ละพื้นที่ และให้มีความชัดเจนมากขึ้น ทั้งนี้ ตนเชื่อว่าโรงพยาบาลชุมชนมีความเข้าใจถึงแนวทางดังกล่าว แต่ที่ผ่านมามีการไปทำให้เกิดความเข้าใจผิด นอกจากนี้ การปรับมาจ่ายเบี้ยเลี้ยงตามวาระงานนั้นจะใช้การเปรียบเทียบระหว่างโรงพยาบาลในระดับเดียวกัน เช่น โรงพยาบาลชุมชนกับโรงพยาบาลชุมชนจะไม่มีการนำไปเปรียบเทียบกับโรงพยาบาลที่ อยู่คนละระดับแน่นอน
แหล่งข่าวกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ขณะนี้ในแวดวงแพทย์โดยเฉพาะพื้นที่ชนบทต่างพูดถึงการออกนโยบายปรับเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายใหม่ โดยคิดเป็นตามภาระงาน (P4P : Pay for Performance) ล่าสุดได้มีการนำตัวแทนแพทย์ ทันตแพทย์ พยาบาล และเภสัชกร เดินทางมาเรียกร้องให้เลิกนโยบายดังกล่าว หากไม่ดำเนินการจะหยุดงานประท้วงในช่วงสงกรานต์ เพราะว่าเป็นการกระทำที่ส่อทำลายระบบสุขภาพในภาพชนบท ซึ่งมีประชาชนส่วนใหญ่เข้ารับบริการ เนื่องจากการหักเบี้ยเลี้ยงจะส่งผลกระทบต่อขวัญกำลังใจของคนทำงานในพื้นที่ห่างไกล และอย่าลืมว่าโรงพยาบาลชุมชนส่วนใหญ่ทำงานตามพื้นที่ เยี่ยมอาการชาวบ้าน ส่งเสริมสุขภาพ หากคิดตามค่า P4P ตรงนี้ต้องให้ชัดว่าจะรวมใน P4P หรือไม่
“ประเด็นที่น่าสนใจและมีกระแสให้จับตามองคือ รัฐกลับให้การสนับสนุนภาคเอกชน จากนโยบายเมดิคัล ฮับมาก โดยมีการพูดถึงให้ภาคเอกชนโดยเฉพาะจากต่างชาติสามารถถือหุ้นได้ถึงร้อยละ 70 ซึ่งหากเป็นจริงน่ากลัวมาก เพราะสุดท้ายแพทย์ในชนบทก็จะลาออก เพราะไม่มีแรงจูงใจเรื่องค่าเบี้ยเลี้ยงให้อยู่ในพื้นที่ แต่แห่ไปอยู่ รพ.เอกชนแทน ซึ่งชัดเจนว่านักการเมืองที่มาจากภาคเอกชนและต้องมาทำหน้าที่บริหารงานภาครัฐ ก็มักจะใช้วิธีแบบเอกชนในการบริหาร ซึ่งในเรื่องสุขภาพ เป็นเรื่องสาธารณะ ควรคิดถึงประชาชนมากกว่า” แหล่งข่าวกล่าว
แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า ล่าสุดยังเกิดคำถามถึงความเหมาะสมของ นพ.ประดิษฐ ที่มีความเกี่ยวข้องกับภาคธุรกิจ ซึ่งพบว่ามีหมายกำหนดการร่วมสัมภาษณ์พิเศษกลุ่มย่อย กรณีนายนายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ได้รับรางวัลระดับโลก ‘Basil Hetzel Award’ จากสภานานาชาติเพื่อการควบคุมโรคขาดสารไอโอดีน (ICCIDD) ในช่วงสัปดาห์หน้า ซึ่งภาคประชาชนเกิดความกังวลว่า การเปลี่ยนแปลงนโยบายด้านสาธารณสุขในครั้งนี้ จะมีการเอื้อไปถึงภาคเอกชน จึงมองว่า นพ.ประดิษฐ มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ บ.แสนสิริ ซึ่งมีความใกล้ชิดกับตระกูลชินวัตร โดยภาคประชาชนด้านสาธารณสุขกำลังจับตาอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง นพ.ประดิษฐ ก็ได้ตอบสั้นๆ ว่า ได้รับเชิญให้ไปงานดังกล่าวจริง แต่ได้ตอบปฏิเสธไปแล้ว เนื่องจากในวันดังกล่าวมีการประชุมคณะกรรมการสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ เมื่อผู้สื่อข่าวจะซักถามต่อถึงความเหมาะสมในความใกล้ชิดกับภาคธุรกิจ นพ.ประดิษฐ ได้ปฏิเสธที่จะตอบคำถามพร้อมกล่าวว่า ผมไม่ได้ไปแล้ว ไม่น่ามีอะไรต้องถาม
นพ.ประดิษฐ กล่าวด้วยว่า ส่วนเรื่องที่แพทย์ขู่จะหยุดงานประท้วงกรณีที่ สธ.ยกเลิกนโยบายปรับเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายใหม่เป็นคิดตามภาระงานนั้น ตนไม่ห่วงเรื่องที่แพทย์จะหยุดงาน เพราะเชื่อว่าแพทย์ทุกคนมีจรรยาบรรณ และยืนยันว่าแพทย์ทุกคนจะยังได้รับเบี้ยเลี้ยงเหมือนเดิม แต่จะมีการปรับกติกาให้เหมาะสมในแต่ละพื้นที่ และให้มีความชัดเจนมากขึ้น ทั้งนี้ ตนเชื่อว่าโรงพยาบาลชุมชนมีความเข้าใจถึงแนวทางดังกล่าว แต่ที่ผ่านมามีการไปทำให้เกิดความเข้าใจผิด นอกจากนี้ การปรับมาจ่ายเบี้ยเลี้ยงตามวาระงานนั้นจะใช้การเปรียบเทียบระหว่างโรงพยาบาลในระดับเดียวกัน เช่น โรงพยาบาลชุมชนกับโรงพยาบาลชุมชนจะไม่มีการนำไปเปรียบเทียบกับโรงพยาบาลที่ อยู่คนละระดับแน่นอน
