“พงศ์เทพ” แบ่งรับแบ่งสู้ข้อเสนอยกเลิกคำสั่งเพิกถอน มอส.กรณีพิเศษ ชี้ขอดูรายละเอียดและ กม.ที่เกี่ยวข้อง รับในอดีตที่ผ่านมาไม่เคยมี ด้าน “กำจร” ชี้ทำได้ยาก และกฤษฎีกาเคยตีความยัน มอส.ไม่มีฐานะนิติบุคคล
นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวถึงกรณีที่ รศ.ดร.สุมนต์ สกลไชย ในฐานะผู้ชำระบัญชีมหาวิทยาลัยอีสาน (มอส.) จะเสนอให้ รมว.ศึกษาธิการ พิจารณายกเลิกคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตจัดตั้ง มอส.แบบมีเงื่อนไขพิเศษเพื่อคืนอำนาจให้ มอส.สามารถอนุมัติปริญญาแก่นักศึกษาที่เรียนครบหลักสูตรได้เท่านั้น แต่ไม่สามารถเปิดการเรียนการสอนได้ ว่า ตนยังไม่ทราบเรื่องดังกล่าว แต่เท่าที่ทราบในอดีตที่ผ่านมาไม่เคยมี และในส่วนของกฎหมายเท่าที่ตนได้ผ่านตา ก็ยังมองไม่เห็นว่ามีการเปิดช่องให้สามารถยกเลิกคำสั่งการเพิกถอนใบอนุญาตจัดตั้งได้ ดังนั้นคงต้องขอดูรายละเอียดก่อนรวมถึงดูว่าตนมีอำนาจที่จะทำให้ได้หรือไม่
“เท่าที่ฟังตามข้อเสนอของ รศ.ดร.สุมนต์ ต้องการให้ยกเลิกการเพิกถอนใบอนุญาตจัดตั้ง มอส.เพราะต้องการให้มีสถานะเป็นนิติบุคคล เพื่อให้มีอำนาจในการอนุมัติใบปริญญาเท่านั้น ไม่ได้เพื่อประโยชน์อื่นใดเลย ซึ่งที่ผ่านมาในส่วนของผู้ที่สำเร็จการศึกษาจาก มอส.เรามีกระบวนที่จะทำให้เขาได้รับปริญญาอยู่แล้ว แต่ไม่ใช่ปริญญาจาก มอส.เพราะขณะนี้ มอส.ไม่สามารถให้ปริญญาใครได้อีกแล้ว” รมว.ศึกษาธิการ กล่าวและว่า ส่วนกรณีนักศึกษาอีกจำนวน 1,649 คน ที่ไม่ประสงค์จะขอย้ายไปที่อื่นนั้น คงต้องขอดูรายละเอียดก่อน ถ้าข้อเสนอที่ รศ.ดร.สุมนต์ เสนอมามีทางเป็นไปได้ ก็คงพิจารณาเป็นทางเลือกหนึ่ง แต่ถ้ากฎหมายไม่เปิดทางจริงๆ ก็คงต้องพิจารณาแนวทางอื่นต่อไป
ด้าน รศ.นพ.กำจร ตติยกวี รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (รองเลขาธิการ กกอ.) กล่าวว่า ตนยังไม่เห็นเรื่องดังกล่าว แต่เท่าที่ทราบคงเป็นไปได้ยาก เพราะแม้แต่คณะกรรมการกฤษฎีกา ก็เคยตีความมาแล้วว่า มอส.ไม่มีสถานะเป็นนิติบุคคลแล้ว ดังนั้นจึงไม่มีอำนาจในการอนุมัติปริญญา ซึ่งสำหรับนักศึกษาที่เรียนจนครบหลักสูตรแล้ว แต่ไม่ประสงค์ขอย้ายไปที่อื่นนั้น ก็สามารถทำเรื่องขอรับเงินคืนได้จากผู้ชำระบัญชี ซึ่งจะขอคืนได้เฉพาะค่าเล่าเรียนที่เสียไป แต่หากต้องการมากกว่านั้น อาทิ ค่าเสียเวลา ฯลฯ นักศึกษาคงต้องร้องขอความเป็นธรรมตามกฎหมาย เพราะถือว่าเกินกว่าอำนาจของคณะกรรมการควบคุมฯ
นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวถึงกรณีที่ รศ.ดร.สุมนต์ สกลไชย ในฐานะผู้ชำระบัญชีมหาวิทยาลัยอีสาน (มอส.) จะเสนอให้ รมว.ศึกษาธิการ พิจารณายกเลิกคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตจัดตั้ง มอส.แบบมีเงื่อนไขพิเศษเพื่อคืนอำนาจให้ มอส.สามารถอนุมัติปริญญาแก่นักศึกษาที่เรียนครบหลักสูตรได้เท่านั้น แต่ไม่สามารถเปิดการเรียนการสอนได้ ว่า ตนยังไม่ทราบเรื่องดังกล่าว แต่เท่าที่ทราบในอดีตที่ผ่านมาไม่เคยมี และในส่วนของกฎหมายเท่าที่ตนได้ผ่านตา ก็ยังมองไม่เห็นว่ามีการเปิดช่องให้สามารถยกเลิกคำสั่งการเพิกถอนใบอนุญาตจัดตั้งได้ ดังนั้นคงต้องขอดูรายละเอียดก่อนรวมถึงดูว่าตนมีอำนาจที่จะทำให้ได้หรือไม่
“เท่าที่ฟังตามข้อเสนอของ รศ.ดร.สุมนต์ ต้องการให้ยกเลิกการเพิกถอนใบอนุญาตจัดตั้ง มอส.เพราะต้องการให้มีสถานะเป็นนิติบุคคล เพื่อให้มีอำนาจในการอนุมัติใบปริญญาเท่านั้น ไม่ได้เพื่อประโยชน์อื่นใดเลย ซึ่งที่ผ่านมาในส่วนของผู้ที่สำเร็จการศึกษาจาก มอส.เรามีกระบวนที่จะทำให้เขาได้รับปริญญาอยู่แล้ว แต่ไม่ใช่ปริญญาจาก มอส.เพราะขณะนี้ มอส.ไม่สามารถให้ปริญญาใครได้อีกแล้ว” รมว.ศึกษาธิการ กล่าวและว่า ส่วนกรณีนักศึกษาอีกจำนวน 1,649 คน ที่ไม่ประสงค์จะขอย้ายไปที่อื่นนั้น คงต้องขอดูรายละเอียดก่อน ถ้าข้อเสนอที่ รศ.ดร.สุมนต์ เสนอมามีทางเป็นไปได้ ก็คงพิจารณาเป็นทางเลือกหนึ่ง แต่ถ้ากฎหมายไม่เปิดทางจริงๆ ก็คงต้องพิจารณาแนวทางอื่นต่อไป
ด้าน รศ.นพ.กำจร ตติยกวี รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (รองเลขาธิการ กกอ.) กล่าวว่า ตนยังไม่เห็นเรื่องดังกล่าว แต่เท่าที่ทราบคงเป็นไปได้ยาก เพราะแม้แต่คณะกรรมการกฤษฎีกา ก็เคยตีความมาแล้วว่า มอส.ไม่มีสถานะเป็นนิติบุคคลแล้ว ดังนั้นจึงไม่มีอำนาจในการอนุมัติปริญญา ซึ่งสำหรับนักศึกษาที่เรียนจนครบหลักสูตรแล้ว แต่ไม่ประสงค์ขอย้ายไปที่อื่นนั้น ก็สามารถทำเรื่องขอรับเงินคืนได้จากผู้ชำระบัญชี ซึ่งจะขอคืนได้เฉพาะค่าเล่าเรียนที่เสียไป แต่หากต้องการมากกว่านั้น อาทิ ค่าเสียเวลา ฯลฯ นักศึกษาคงต้องร้องขอความเป็นธรรมตามกฎหมาย เพราะถือว่าเกินกว่าอำนาจของคณะกรรมการควบคุมฯ