วธ.เล็งติดตั้งไวไฟ นำร่อง 3 อุทยานประวัติศาสตร์ “สุโขทัย-ศรีสัชนาลัย-กำแพงเพชร” เพื่ออำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวเข้าถึงข้อมูลประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม
นายสนธยา คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า จากการประชุมโครงการพัฒนาเมืองวัฒนธรรมเพื่อการท่องเที่ยว อุทยานประวัติศาสตร์ ศรีสัชนาลัย ที่ประชุมได้มีการหารือถึงแนวทางการพัฒนาและอนุรักษ์อุทยานประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะเมืองมรดกโลกสุโขทัย ศรีสัชนาลัย และกำแพงเพชร นั้น ซึ่งขณะนี้ได้มีการสำรวจการพัฒนาพื้นที่แหล่งมรดกโลกของอุทยานประวัติศาสตร์ทั้ง 3 แห่งแล้ว เพื่อบูรณะ รวมทัังพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกของนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาศูนย์ข้อมูลความรู้ ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ การจัดตั้งโซนขายสินค้าทางวัฒนธรรม ซึ่งต่อไปจะทำงานแบบบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง องค์การบริหารส่วนจังหวัด สภาวัฒนธรรมประจำจังหวัด องค์กรภาคประชาชน ตลอดจนชุมชนและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เพื่อให้การดำเนินงานเป็นระบบและมีความชัดเจน มากยิ่งขึ้น
นายสนธยา กล่าวว่า การพัฒนาพื้นที่อุทยานประวัติศาสตร์นั้น ตนคิดว่าการวางแนวทางการตลาด ก็มีส่วนสำคัญ จึงมีแนวคิดที่จะนำระบบไวไฟ เข้าไปติด ตั้งภายในอุทยานประวัติศาสตร์ทั่วประเทศ แต่ในเบื้องต้นจะนำร่อง ในอุทยานประวัติศาสตร์ 3 แห่งนี้ก่อน โดยจะมีการประเมินค่าใช้จ่ายทั้งหมด เพื่อเสนอของบประมาณจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในเร็วๆ นี้
“ในปัจจุบันประชาชนเข้าถึงเทคโนโลยีได้ง่ายขึ้น ขณะเดียวกันในอุทยานประวัติศาสตร์ก็ได้มีการติดตั้งสื่อมัลติมีเดียอยู่แล้ว โดยการติดตั้งไวไฟจะช่วยอำนวยความสะดวกในการสืบค้นข้อมูลให้แก่นักท่องเที่ยวได้มากขึ้น เมื่อถามว่า ติดตั้งจะเกิดความคุ้มค่าหรือไม่ ผมคิดว่า ในช่วงแรกอาจจะยังวัดผลไม่ได้ แต่หากวัดจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาประเทศไทยในปีที่ผ่านมา มีมากถึง 22 ล้านคน และมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวภายในอุทยานประวัติศาสตร์ ถึง 1.2 ล้านคน หากเราสามารถพัฒนาพื้นที่ไว้รองรับนักท่องเที่ยวได้ ก็จะเป็นประโยชน์ได้มาก นอกจากนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีก็ได้มอบหมายให้มีการนำสื่ออื่นๆ เช่น ภาพยนตร์มาใช้ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวและการฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรมของประเทศด้วย” รมว.วธ.กล่าว
นายสนธยา คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า จากการประชุมโครงการพัฒนาเมืองวัฒนธรรมเพื่อการท่องเที่ยว อุทยานประวัติศาสตร์ ศรีสัชนาลัย ที่ประชุมได้มีการหารือถึงแนวทางการพัฒนาและอนุรักษ์อุทยานประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะเมืองมรดกโลกสุโขทัย ศรีสัชนาลัย และกำแพงเพชร นั้น ซึ่งขณะนี้ได้มีการสำรวจการพัฒนาพื้นที่แหล่งมรดกโลกของอุทยานประวัติศาสตร์ทั้ง 3 แห่งแล้ว เพื่อบูรณะ รวมทัังพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกของนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาศูนย์ข้อมูลความรู้ ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ การจัดตั้งโซนขายสินค้าทางวัฒนธรรม ซึ่งต่อไปจะทำงานแบบบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง องค์การบริหารส่วนจังหวัด สภาวัฒนธรรมประจำจังหวัด องค์กรภาคประชาชน ตลอดจนชุมชนและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เพื่อให้การดำเนินงานเป็นระบบและมีความชัดเจน มากยิ่งขึ้น
นายสนธยา กล่าวว่า การพัฒนาพื้นที่อุทยานประวัติศาสตร์นั้น ตนคิดว่าการวางแนวทางการตลาด ก็มีส่วนสำคัญ จึงมีแนวคิดที่จะนำระบบไวไฟ เข้าไปติด ตั้งภายในอุทยานประวัติศาสตร์ทั่วประเทศ แต่ในเบื้องต้นจะนำร่อง ในอุทยานประวัติศาสตร์ 3 แห่งนี้ก่อน โดยจะมีการประเมินค่าใช้จ่ายทั้งหมด เพื่อเสนอของบประมาณจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในเร็วๆ นี้
“ในปัจจุบันประชาชนเข้าถึงเทคโนโลยีได้ง่ายขึ้น ขณะเดียวกันในอุทยานประวัติศาสตร์ก็ได้มีการติดตั้งสื่อมัลติมีเดียอยู่แล้ว โดยการติดตั้งไวไฟจะช่วยอำนวยความสะดวกในการสืบค้นข้อมูลให้แก่นักท่องเที่ยวได้มากขึ้น เมื่อถามว่า ติดตั้งจะเกิดความคุ้มค่าหรือไม่ ผมคิดว่า ในช่วงแรกอาจจะยังวัดผลไม่ได้ แต่หากวัดจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาประเทศไทยในปีที่ผ่านมา มีมากถึง 22 ล้านคน และมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวภายในอุทยานประวัติศาสตร์ ถึง 1.2 ล้านคน หากเราสามารถพัฒนาพื้นที่ไว้รองรับนักท่องเที่ยวได้ ก็จะเป็นประโยชน์ได้มาก นอกจากนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีก็ได้มอบหมายให้มีการนำสื่ออื่นๆ เช่น ภาพยนตร์มาใช้ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวและการฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรมของประเทศด้วย” รมว.วธ.กล่าว