พระนครศรีอยุธยา - ผอ.อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา พร้อมกำลัง จนท.เทศกิจเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา บุกเข้าตรวจสอบบริเวณป่าละเมาะตรงข้ามบ้านพัก จนท.อุทยานฯ ทลายขบวนการลักลอบเผาขยะ และเผาถ่าน ทำให้เกิดควันสร้างความเดือดร้อนให้ ปชช.-นักท่องเที่ยว สั่งดำเนินการขั้นเด็ดขาด
วันนี้ (9 ม.ค.) นายชัยนันท์ บุษยรัตน์ ผู้อำนวยการอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยนายกฤษณ์ เถี่ยนมิตรภาพ เลขานุการ ว่าที่ ร.ต.สมทรง สรรพโกศลกุล นายกเทศมนตรีนครพระนครศรีอยุธยา และเจ้าหน้าที่เทศกิจ ได้เข้าตรวจสอบบริเวณป่าละเมาะ และพื้นที่ว่างเปล่าตรงข้ามกับบ้านพักเจ้าหน้าที่อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา หมู่ 8 ต.ประตูชัย อ.พระนครศรีอยุธยา หลังจากที่พบว่ามีประชาชนร้องเรียนว่ามีการลักลอบเผาขยะ และเผาถ่าน ทำให้เกิดควันสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน และนักท่องเที่ยว พบว่า ทางเข้าด้านหน้ามีการใช้สังกะสีกั้นเป็นรั้วและมีข้อความประกาศห้ามเข้า และห้ามเผาขยะ รวมทั้งเผาถ่านภายในบริเวณดังกล่าวโดดเด็ดขาด โดยยังระบุว่า จะมีโทษปรับ 2 พันบาท ซึ่งพบว่าประตูด้านหน้าเปิดอยู่
เมื่อเดินเข้าไปบริเวณที่ดินว่างเปล่าล้อมด้วยต้นไม้ขึ้นเป็นป่ารก พบว่ามีท่อนไม้ใหญ่น้อยจำนวนมากถูกตัดด้วยเลื่อยยนต์เป็นท่อนกองเรียงกันอยู่ และยังพบว่า มีไม้จำนวนมากถูกเผา และปกคลุมด้วยดินเพื่อเผาเป็นถ่าน มีร่อยรอยการขุดเป็นหลุมเตาเผา จำนวน 5 หลุม บางหลุมยังไม่ได้มีการเผา แต่อยู่ระหว่างการเตรียมที่จะเผา ผู้อำนวยการอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่นำรถน้ำมาฉีดน้ำดับไฟที่กำลังไหม้กองไหม้ และยังได้สั่งการให้รื้อถอนท่อนไม้ที่เรียงกันออกจากหลุมเตาเผาทั้งหมด
นายชัยนันท์ บุษยรัตน์ ผู้อำนวยการอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า บริเวณดังกล่าวอยู่ในเขตโบราณสถาน และเป็นพื้นที่ดูแลของอุทยานประวัติศาสตร์ และอยู่ในแผนแม่บทที่ในอนาคตเตรียมที่จะสร้างเป็นหมูบ้านศูนย์แสดงศิลปหัตถกรรม มีเนื้อที่ประมาณ 200 ไร่เศษ ซึ่งปกติจะห้ามบุคคลภายนอกนำขยะมาเผา หรือห้ามเผาถ่านโดยเด็ดขาด เนื่องจากเคยตรวจพบมาแล้ว และครั้งนี้หลังรับร้องเรียนจึงเข้ามาดูก็พบไม้จำนวนมากที่เชื่อว่าน่าจะทำกันเป็นขบวนการ โดยนำไม้มาจากที่อื่นมาเผา เพื่อนำเป็นถ่านไปขาย หลังจากนี้จะได้นำรถแบ็กโฮมาเกลี่ยพื้นดิน และกลบเตาเผาถ่านทั้งหมด พร้อมทั้งเพิ่มความเข้มงวดรถเข้าออก และจะดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับผู้ที่ลักลอบเข้ามา หรือที่รู้เห็น
วันนี้ (9 ม.ค.) นายชัยนันท์ บุษยรัตน์ ผู้อำนวยการอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยนายกฤษณ์ เถี่ยนมิตรภาพ เลขานุการ ว่าที่ ร.ต.สมทรง สรรพโกศลกุล นายกเทศมนตรีนครพระนครศรีอยุธยา และเจ้าหน้าที่เทศกิจ ได้เข้าตรวจสอบบริเวณป่าละเมาะ และพื้นที่ว่างเปล่าตรงข้ามกับบ้านพักเจ้าหน้าที่อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา หมู่ 8 ต.ประตูชัย อ.พระนครศรีอยุธยา หลังจากที่พบว่ามีประชาชนร้องเรียนว่ามีการลักลอบเผาขยะ และเผาถ่าน ทำให้เกิดควันสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน และนักท่องเที่ยว พบว่า ทางเข้าด้านหน้ามีการใช้สังกะสีกั้นเป็นรั้วและมีข้อความประกาศห้ามเข้า และห้ามเผาขยะ รวมทั้งเผาถ่านภายในบริเวณดังกล่าวโดดเด็ดขาด โดยยังระบุว่า จะมีโทษปรับ 2 พันบาท ซึ่งพบว่าประตูด้านหน้าเปิดอยู่
เมื่อเดินเข้าไปบริเวณที่ดินว่างเปล่าล้อมด้วยต้นไม้ขึ้นเป็นป่ารก พบว่ามีท่อนไม้ใหญ่น้อยจำนวนมากถูกตัดด้วยเลื่อยยนต์เป็นท่อนกองเรียงกันอยู่ และยังพบว่า มีไม้จำนวนมากถูกเผา และปกคลุมด้วยดินเพื่อเผาเป็นถ่าน มีร่อยรอยการขุดเป็นหลุมเตาเผา จำนวน 5 หลุม บางหลุมยังไม่ได้มีการเผา แต่อยู่ระหว่างการเตรียมที่จะเผา ผู้อำนวยการอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่นำรถน้ำมาฉีดน้ำดับไฟที่กำลังไหม้กองไหม้ และยังได้สั่งการให้รื้อถอนท่อนไม้ที่เรียงกันออกจากหลุมเตาเผาทั้งหมด
นายชัยนันท์ บุษยรัตน์ ผู้อำนวยการอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า บริเวณดังกล่าวอยู่ในเขตโบราณสถาน และเป็นพื้นที่ดูแลของอุทยานประวัติศาสตร์ และอยู่ในแผนแม่บทที่ในอนาคตเตรียมที่จะสร้างเป็นหมูบ้านศูนย์แสดงศิลปหัตถกรรม มีเนื้อที่ประมาณ 200 ไร่เศษ ซึ่งปกติจะห้ามบุคคลภายนอกนำขยะมาเผา หรือห้ามเผาถ่านโดยเด็ดขาด เนื่องจากเคยตรวจพบมาแล้ว และครั้งนี้หลังรับร้องเรียนจึงเข้ามาดูก็พบไม้จำนวนมากที่เชื่อว่าน่าจะทำกันเป็นขบวนการ โดยนำไม้มาจากที่อื่นมาเผา เพื่อนำเป็นถ่านไปขาย หลังจากนี้จะได้นำรถแบ็กโฮมาเกลี่ยพื้นดิน และกลบเตาเผาถ่านทั้งหมด พร้อมทั้งเพิ่มความเข้มงวดรถเข้าออก และจะดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับผู้ที่ลักลอบเข้ามา หรือที่รู้เห็น