เหตุระเบิดงานพระธาตุนาดูน พบเสียชีวิต 4 ราย บาดเจ็บ 58 ราย สาหัส 5 ราย ขณะที่มือบึ้มอดีตทหารเกณฑ์แขนขาด เลือดไหลไม่หยุด แพทย์เร่งทำการผ่าตัด ด้านตำรวจถูกระเบิดที่ขา ส่งตัวเข้า รพศ.ขอนแก่นทำการต่อเส้นเลือดแล้ว เตือนประชาชนในเหตุการณ์ หากหูอื้อ ตาพร่ามัว แน่นหน้าอก หายใจขัด ขอให้ไปพบแพทย์
นพ.อภิชัย มงคล ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ประจำเขตสุขภาพที่ 7 ดูแล 4 จังหวัด ได้แก่ มหาสารคาม ขอนแก่น กาฬสินธุ์ และร้อยเอ็ด ให้สัมภาษณ์กรณีเหตุระเบิดระหว่างการแสดงคอนเสิร์ตโปงลางสะออน ในงานประเพณีนมัสการพระบรมธาตุนาดูน อ.นาดูน จ.มหาสารคาม เนื่องในวันมาฆบูชา เมื่อประมาณ 0.30 น.วันนี้ (25 ก.พ.) จนทำให้มีผู้เสียและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ว่า สธ.ได้ระดมทีมแพทย์พยาบาลและรถกู้ชีพฉุกเฉินจากโรงพยาบาลในจังหวัด 6 แห่ง ร่วมกับหน่วยกู้ชีพฉุกเฉินของท้องถิ่น ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บอย่างเต็มที่ สรุปเหตุการณ์ ณ เวลา 11.00 น.วันนี้ มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 4 ราย เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 ราย เด็ก 1 ราย บาดเจ็บรวมทั้งหมด 58 ราย ส่วนใหญ่มีบาดแผลจากถูกสะเก็ดระเบิด ซึ่งแพทย์ได้ทำการรักษาและให้กลับบ้านแล้ว 24 ราย รับตัวไว้นอนโรงพยาบาลจำนวน 29 ราย
นพ.อภิชัย กล่าวอีกว่า ผู้ป่วยที่รับตัวนอนโรงพยาบาลทั้ง 29 ราย อยู่ที่ รพ.มหาสารคาม 22 ราย นอนในหอผู้ป่วยสามัญ 17 ราย มีอาการสาหัสอยู่ในห้องไอซียู 5 ราย ในจำนวนนี้ 1 ราย เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ถูกสะเก็ดระเบิดที่ขา ทำเส้นให้เส้นเลือดที่ขาขาด เมื่อเช้าวันนี้แพทย์ส่งตัวไปรักษาต่อที่ รพศ.ขอนแก่น เพื่อทำการผ่าตัดจุลยศัลยกรรมต่อเส้นเลือด ขณะที่อีก 4 รายใช้เครื่องช่วยหายใจ อาการอยู่ในขั้นน่าเป็นห่วง 3 ราย รายที่ 1 เป็นผู้ที่ถือระเบิด แขนขาด เลือดไหลไม่หยุด แพทย์อยู่ระหว่างนำตัวเข้าห้องผ่าตัด รายที่ 2 ถูกสะเก็ดระเบิดเข้าที่สมอง หลังทำผ่าตัดแล้วเมื่อคืนนี้ แต่ยังไม่รู้สึกตัว รายที่ 3 ถูกแรงอัดระเบิดที่ช่องท้อง แพทย์กำลังทำการผ่าตัด ที่เหลืออีก 1 ราย เส้นเลือดที่ต้นขาฉีก แพทย์ผ่าตัดจนอาการพ้นขีดอันตรายแล้ว นอกนั้นอีก 7 ราย อาการไม่รุนแรง นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลวาปีปทุม 6 ราย โรงพยาบาลนาเชือก 1 ราย ได้กำชับให้ทีมแพทย์พยาบาล ดูแลผู้บาดเจ็บทุกรายอย่างเต็มที่ทั้งสุขภาพกายและด้านสุขภาพจิต โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย
“ผลจากระเบิดครั้งนี้อาจเป็นอันตรายกับประชาชนที่อยู่ในงานและอยู่ใกล้บริเวณ เนื่องจากเสียงและแรงอัดของระเบิดอาจเป็นอันตรายต่ออวัยวะภายในได้ เช่น แก้วหู ปอด ดังนั้นหากประชาชนมีอาการดังต่อไปนี้คือหูอื้อ ปวดหู หายใจขัด เจ็บแน่นหน้าอก สายตาพร่ามัว ขอให้ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ตลอด 24 ชั่วโมง” นพ.อภิชัย กล่าว
นพ.อภิชัย มงคล ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ประจำเขตสุขภาพที่ 7 ดูแล 4 จังหวัด ได้แก่ มหาสารคาม ขอนแก่น กาฬสินธุ์ และร้อยเอ็ด ให้สัมภาษณ์กรณีเหตุระเบิดระหว่างการแสดงคอนเสิร์ตโปงลางสะออน ในงานประเพณีนมัสการพระบรมธาตุนาดูน อ.นาดูน จ.มหาสารคาม เนื่องในวันมาฆบูชา เมื่อประมาณ 0.30 น.วันนี้ (25 ก.พ.) จนทำให้มีผู้เสียและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ว่า สธ.ได้ระดมทีมแพทย์พยาบาลและรถกู้ชีพฉุกเฉินจากโรงพยาบาลในจังหวัด 6 แห่ง ร่วมกับหน่วยกู้ชีพฉุกเฉินของท้องถิ่น ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บอย่างเต็มที่ สรุปเหตุการณ์ ณ เวลา 11.00 น.วันนี้ มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 4 ราย เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 ราย เด็ก 1 ราย บาดเจ็บรวมทั้งหมด 58 ราย ส่วนใหญ่มีบาดแผลจากถูกสะเก็ดระเบิด ซึ่งแพทย์ได้ทำการรักษาและให้กลับบ้านแล้ว 24 ราย รับตัวไว้นอนโรงพยาบาลจำนวน 29 ราย
นพ.อภิชัย กล่าวอีกว่า ผู้ป่วยที่รับตัวนอนโรงพยาบาลทั้ง 29 ราย อยู่ที่ รพ.มหาสารคาม 22 ราย นอนในหอผู้ป่วยสามัญ 17 ราย มีอาการสาหัสอยู่ในห้องไอซียู 5 ราย ในจำนวนนี้ 1 ราย เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ถูกสะเก็ดระเบิดที่ขา ทำเส้นให้เส้นเลือดที่ขาขาด เมื่อเช้าวันนี้แพทย์ส่งตัวไปรักษาต่อที่ รพศ.ขอนแก่น เพื่อทำการผ่าตัดจุลยศัลยกรรมต่อเส้นเลือด ขณะที่อีก 4 รายใช้เครื่องช่วยหายใจ อาการอยู่ในขั้นน่าเป็นห่วง 3 ราย รายที่ 1 เป็นผู้ที่ถือระเบิด แขนขาด เลือดไหลไม่หยุด แพทย์อยู่ระหว่างนำตัวเข้าห้องผ่าตัด รายที่ 2 ถูกสะเก็ดระเบิดเข้าที่สมอง หลังทำผ่าตัดแล้วเมื่อคืนนี้ แต่ยังไม่รู้สึกตัว รายที่ 3 ถูกแรงอัดระเบิดที่ช่องท้อง แพทย์กำลังทำการผ่าตัด ที่เหลืออีก 1 ราย เส้นเลือดที่ต้นขาฉีก แพทย์ผ่าตัดจนอาการพ้นขีดอันตรายแล้ว นอกนั้นอีก 7 ราย อาการไม่รุนแรง นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลวาปีปทุม 6 ราย โรงพยาบาลนาเชือก 1 ราย ได้กำชับให้ทีมแพทย์พยาบาล ดูแลผู้บาดเจ็บทุกรายอย่างเต็มที่ทั้งสุขภาพกายและด้านสุขภาพจิต โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย
“ผลจากระเบิดครั้งนี้อาจเป็นอันตรายกับประชาชนที่อยู่ในงานและอยู่ใกล้บริเวณ เนื่องจากเสียงและแรงอัดของระเบิดอาจเป็นอันตรายต่ออวัยวะภายในได้ เช่น แก้วหู ปอด ดังนั้นหากประชาชนมีอาการดังต่อไปนี้คือหูอื้อ ปวดหู หายใจขัด เจ็บแน่นหน้าอก สายตาพร่ามัว ขอให้ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ตลอด 24 ชั่วโมง” นพ.อภิชัย กล่าว
