วิจัยพบทำสมาธิวันละ 15 นาที ติดต่อกัน 2 เดือน ช่วยลดความดันในผู้ป่วยความดันโลหิตสูงได้ สธ.เร่งส่งเสริมทำสมาธิในทุกโรงพยาบาลทุกแห่ง หวังผู้ป่วยและญาติจิตใจผ่อนคลาย เพิ่มภูมิต้านทานโรค พร้อมชวนคนไทยใช้วันมาฆบูชาเริ่มทำสมาธิ
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันวิถีการดำเนินชีวิตของคนไทยมีแต่ความเร่งรีบ จนเกิดความกดดันจากปัญหาต่างๆ หากไม่สามารถปรับตัวและสภาพจิตใจได้ อาจกลายเป็นคนที่มีความเครียดสูงตลอดเวลา ส่งผลให้เกิดโรคเรื้อรังและปัญหาอื่นๆ ตามมา ในโอกาสวันมาฆบูชานี้ สธ.ขอเชิญชวนประชาชนทุกกลุ่มวัยใช้ฤกษ์ดีเป็นวันเริ่มการฝึกทำสมาธิ ซึ่งถือเป็นการดูแลสุขภาพวิธีหนึ่งในการผ่อนคลายความเครียดที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย แต่ใช้แก้ปัญหาได้ดี ลึกซึ้ง สอดคล้องกับวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของคนไทย เพราะเมื่อจิตใจสงบปราศจากความคิดที่ฟุ้งซ่าน จะทำให้เกิดสติปัญญาในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ลดอาการวิตกกังวล ความเศร้าโศก และความโกรธได้ หากทำสมาธิเป็นประจำ จะทำให้ระบบต่างๆ ในร่างกายเช่น ระบบทางเดินหายใจ การเผาผลาญพลังงาน ความดันโลหิต และคลื่นสมอง ทำงานเป็นปกติ จิตใจเบิกบาน อารมณ์เย็น สมองแจ่มใส ไม่เครียด
นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า สธ.มีนโยบายส่งเสริมให้โรงพยาบาลทุกระดับใช้เสียงตามสายประชาสัมพันธ์วิธีการฝึกสมาธิขั้นพื้นฐานง่ายๆ ให้แก่ประชาชนที่มารับบริการทั้งผู้ป่วยและญาติ รู้จักวิธีการทำสมาธิระหว่างรอรับบริการ ซึ่งใช้เวลาไม่มาก ส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวม ขณะนี้มีโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป และโรงพยาบาลชุมชนดำเนินการแล้วร้อยละ 65 นอกจากจะช่วยให้จิตใจสงบแล้ว ยังช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคต่างๆ โดยเฉพาะโรคที่เกิดจากความเครียด เช่น ไมเกรน โรคหัวใจ และโรคความดันโลหิตสูง เนื่องจากเมื่อร่างกายมีความเครียดจะทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น หากปล่อยให้ความดันโลหิตสูงเป็นเวลานาน หลอดเลือดแดงจะเกิดการเสื่อมสภาพ อาจทำให้หลอดเลือดแตกหรือตีบตัน โดยเฉพาะหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงสมอง นอกจากนี้ ยังทำให้หัวใจทำงานหนักขึ้น เกิดปัญหาหัวใจโต กล้ามเนื้อหัวใจหนา จนเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวหรือหัวใจวาย และเสียชีวิตได้
“การทำสมาธิจะทำให้สมองหลั่งสารเอ็นดอร์ฟิน (Endorphine) ซึ่งเป็นสารแห่งความสุข ช่วยให้ร่างกายสดชื่นมีภูมิต้านทานโรค จากผลวิจัยทางการแพทย์พบว่า ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงที่มีการฝึกทำสมาธิโดยการหายใจช้าและลึก วันละประมาณ 15 นาที ติดต่อกันเป็นเวลา 2 เดือน ค่าความดันโลหิตลดลงมากกว่าผู้ป่วยกลุ่มที่ไม่ได้เข้ารับการฝึกทำสมาธิ สธ.จึงสนับสนุนให้คนไทยทุกคนหันมาฝึกการทำสมาธิและควรทำต่อเนื่องเป็นประจำทุกวัน เริ่มจากวันละ 5 นาที เพิ่มเป็น 10 นาทีในวันต่อไป และเพิ่มเป็น 15 นาทีตามลำดับขึ้นไปเรื่อยๆ” รมช.สาธารณสุข กล่าว
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันวิถีการดำเนินชีวิตของคนไทยมีแต่ความเร่งรีบ จนเกิดความกดดันจากปัญหาต่างๆ หากไม่สามารถปรับตัวและสภาพจิตใจได้ อาจกลายเป็นคนที่มีความเครียดสูงตลอดเวลา ส่งผลให้เกิดโรคเรื้อรังและปัญหาอื่นๆ ตามมา ในโอกาสวันมาฆบูชานี้ สธ.ขอเชิญชวนประชาชนทุกกลุ่มวัยใช้ฤกษ์ดีเป็นวันเริ่มการฝึกทำสมาธิ ซึ่งถือเป็นการดูแลสุขภาพวิธีหนึ่งในการผ่อนคลายความเครียดที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย แต่ใช้แก้ปัญหาได้ดี ลึกซึ้ง สอดคล้องกับวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของคนไทย เพราะเมื่อจิตใจสงบปราศจากความคิดที่ฟุ้งซ่าน จะทำให้เกิดสติปัญญาในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ลดอาการวิตกกังวล ความเศร้าโศก และความโกรธได้ หากทำสมาธิเป็นประจำ จะทำให้ระบบต่างๆ ในร่างกายเช่น ระบบทางเดินหายใจ การเผาผลาญพลังงาน ความดันโลหิต และคลื่นสมอง ทำงานเป็นปกติ จิตใจเบิกบาน อารมณ์เย็น สมองแจ่มใส ไม่เครียด
นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า สธ.มีนโยบายส่งเสริมให้โรงพยาบาลทุกระดับใช้เสียงตามสายประชาสัมพันธ์วิธีการฝึกสมาธิขั้นพื้นฐานง่ายๆ ให้แก่ประชาชนที่มารับบริการทั้งผู้ป่วยและญาติ รู้จักวิธีการทำสมาธิระหว่างรอรับบริการ ซึ่งใช้เวลาไม่มาก ส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวม ขณะนี้มีโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป และโรงพยาบาลชุมชนดำเนินการแล้วร้อยละ 65 นอกจากจะช่วยให้จิตใจสงบแล้ว ยังช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคต่างๆ โดยเฉพาะโรคที่เกิดจากความเครียด เช่น ไมเกรน โรคหัวใจ และโรคความดันโลหิตสูง เนื่องจากเมื่อร่างกายมีความเครียดจะทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น หากปล่อยให้ความดันโลหิตสูงเป็นเวลานาน หลอดเลือดแดงจะเกิดการเสื่อมสภาพ อาจทำให้หลอดเลือดแตกหรือตีบตัน โดยเฉพาะหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงสมอง นอกจากนี้ ยังทำให้หัวใจทำงานหนักขึ้น เกิดปัญหาหัวใจโต กล้ามเนื้อหัวใจหนา จนเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวหรือหัวใจวาย และเสียชีวิตได้
“การทำสมาธิจะทำให้สมองหลั่งสารเอ็นดอร์ฟิน (Endorphine) ซึ่งเป็นสารแห่งความสุข ช่วยให้ร่างกายสดชื่นมีภูมิต้านทานโรค จากผลวิจัยทางการแพทย์พบว่า ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงที่มีการฝึกทำสมาธิโดยการหายใจช้าและลึก วันละประมาณ 15 นาที ติดต่อกันเป็นเวลา 2 เดือน ค่าความดันโลหิตลดลงมากกว่าผู้ป่วยกลุ่มที่ไม่ได้เข้ารับการฝึกทำสมาธิ สธ.จึงสนับสนุนให้คนไทยทุกคนหันมาฝึกการทำสมาธิและควรทำต่อเนื่องเป็นประจำทุกวัน เริ่มจากวันละ 5 นาที เพิ่มเป็น 10 นาทีในวันต่อไป และเพิ่มเป็น 15 นาทีตามลำดับขึ้นไปเรื่อยๆ” รมช.สาธารณสุข กล่าว