วันมาฆบูชา มีพุทธศาสนิกชนร่วมตักบาตร เวียนเทียน สนามหลวง วัดทั่วประเทศ จำนวนมาก อธิบดี ศน.ห่วงกระแสโพล เด็กไทยไม่รู้จักโอวาทปาฏิโมกข์ อ้อน ศธ.บรรจุวิชาศีลธรรม ไว้ในหลักสูตร มีแห่งเดียวของประเทศไทย ด้าน พระราชพิพัฒน์โกศล ถือฤกษ์วันมาฆะ เปิดพุทธอุทยานแห่งแรกของไทย สร้างจากมหาศรัทธาสาธุชน
วันนี้ (25 ก.พ.) เวลาประมาณ 7.00 น.ที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง กรมการศาสนา (ศน.) กระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับ กรุงเทพมหานคร และเครือข่ายทางพระพุทธศาสนา จัดพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 87 รูป เนื่องในวันมาฆบูชา ประจำปี 2556 โดยมีนพ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี เป็นประธาน มีนายปรีชา กันธิยะ อธิบดีกรมการศาสนา นางนินนาท ชลิตานนท์ ปลัดกรุงเทพมหานคร และพุทธศาสนิกชนจำนวนมาก เข้าร่วมพิธีในครั้งนี้
นายปรีชา กล่าวว่า ในวันมาฆบูชา ปีนี้ ได้เชิญ นพ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี เป็นประธาน โดยตั้งแต่เวลา 06.30 น.ได้มีพิธีบวงสรวงโครงการหุ้มทองคำยอดฉัตรพระมหาเจดีย์พุทธคยา ณ วัดมหาโพธิมหาวิหาร พุทธคยา รัฐพิหาร สาธารณรัฐอินเดีย เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา และเทิดพระเกียรติฉลองพระชันษา 100 ปี สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก 3 ตุลาคม 2556 นอกจากนี้ยังได้มีพิธีตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน 87 รูป เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา และถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งมีพุทธศาสนิกชนจำนวนมากเดินทางมาร่วมตักบาตร ทั้งนี้ ศน.ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมพระพุทธศาสนามาตั้งแต่วันที่ 21 ก.พ.ถึงวันนี้ จะเป็นวันสุดท้าย มีการจัดกิจกรรมที่หลากหลาย อาทิ การมาเวียนเทียนรอบพระบรมสารีริกธาตุ พระแก้วมรกตจำลอง การจัดนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับวันมาฆบูชา การทำบุญประจำวันเกิด เป็นต้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีโพลสำรวจคนรุ่นใหม่โดยเฉพาะวัยรุ่น ระบุว่า ไม่รู้จัก โอวาทปาฏิโมกข์ นายปรีชา กล่าวว่า โพลสำรวจว่า คนรุ่นใหม่ ไม่รู้จัก โอวาทปาฏิโมกข์ นั้น ถ้าหากเราจะมารณรงค์ เฉพาะช่วงวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา จะไม่ช่วยให้เด็กเข้าใจ เนื้อหาสำคัญในวันเหล่านี้ ตนคิดว่า ควรมีการบรรจุเนื้อหาพระพุทธศาสนาไว้ในหลักสูตรการศึกษาให้มากขึ้น โดยเฉพาะการให้ความรู้เรื่องวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาทั้งมาฆบูชา วิสาขบูชา อาสาฬหบูชา ว่ามีความสำคัญอย่างไร ควรปฏิบัติตัวเช่นไรในวันนี้ รวมทั้งมีการออกข้อสอบ พร้อมส่งเสริมการปฏิบัติจริงในสถานศึกษา เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้จริง ไม่เฉพาะเวลาใดเวลาหนึ่งจะทำให้เด็กเข้าใจง่าย และนำหลักธรรมเหล่านี้ไปใช้ในชีวิต เมื่อเติบโตขึ้น อย่างไรก็ตาม เราต้องยอมรับว่า การส่งเสริมศาสนาให้เข้าถึงจิตใจของเด็กและเยาวชนบ้านเรายังขาดอีกมาก ดังนั้น ตนอยากฝากถึงกระทรวงศึกษาธิการ ให้ช่วยดูแลส่งเสริมในเรื่องนี้ด้วย
“หลังจากผมได้ตักบาตรในช่วงเช้า ก็มีประชาชนเป็นจำนวนมากมาเวียนเวียนรอบพระบรมสารีริกธาตุและกราบพระแก้วมรกตจำลอง เพื่อความเป็นสิริมงคลอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ผมอยากฝากให้ประชาชนคนไทย ได้นำหลักธรรมของพระพุทธองค์ มาสู่การปฏิบัติจริง โดยเฉพาะการนำหลักโอวาสปาฏิโมกข์มาปฏิบัติ เริ่มตั้งแต่การทำความดี ละเว้นความชั่ว พร้อมมีสติ หากเรามีสติ ก็จะไม่เกิดความใจร้อน กระทำสิ่งที่ผิด หรือเรียกว่า ใจเป็นนายกายเป็นบ่าว หากคนไทยใช้หลักในข้อนี้ จะทำให้ชีวิตดำรงอยู่ได้อย่างเป็นสุข” อธิบดีกรมการศาสนา กล่าว
วันเดียวกัน ด้านพระวิจิตรธรรมาภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร กล่าวว่า ตั้งแต่เช้าได้มีพุทธศาสนิกชน จำนวนมากมาร่วมตักบาตรพระสงฆ์จำนวน 99 รูป ณ บรมบรรพตหรือภูเขาทองวัดสระเกศฯ พร้อมทั้งมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมพระพุทธศาสนา เช่น การร้องเพลงธรรมะ กิจกรรมพิเศษเปิดบาตร ดนตรีเปิดหมวก เป็นต้น ส่วนเวลา 19.00 น.พระพรหมสุธี กรรมการมหาเถรสมาคม(มส.) เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ โดยมีนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) นำพุทธศาสนิกชนเจริญพระพุทธมนต์ ณ พระอุโบสถวัดสระเกศฯ จากนั้นเวลา 20.00 น.นำเวียนเทียนขึ้นบรมบรรพต ภูเขาทอง โดยจะมีการถ่ายทอดสดผ่านสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 ให้ประชาชนได้รับชมและร่วมสวดมนต์พร้อมกันทั่วประเทศ นอกจากนี้ ประชาชนสามารถดาวน์โหลด จริยแอปพลิเคชัน ผ่านแอปสโตร์ และเว็บไซต์จริยธรรมดอทคอม ในการดาวน์โหลดบทสวดมนต์ได้อีกทางหนึ่งด้วย
“วัดสระเกศจัดการเวียนเทียนต่างจากที่อื่น โดยพาเวียนเทียนขึ้นภูเขาทอง ไปสักการะพระบรมสารีริกธาตุ ส่วนมากเป็นวัยรุ่น 80% ที่มาเวียนเทียน ฟังธรรมที่วัดสระเกศ สำหรับผลโพลที่บอกว่า เด็กไทยไม่รู้จักโอวาทปาฏิโมกข์ หากมาวิเคราะห์ตามโพล โดยต้องดูลักษณะของโพลด้วยว่า เจาะกลุ่มไหน ถ้าผลโพลเป็นจริง รัฐบาล และคณะสงฆ์ ต้องนำผลโพลมาวิเคราะห์ ว่าเกิดอะไรขึ้น เพื่อมาแก้ไข โดยเฉพาะเรื่องการปรับระบบการศึกษาในระดับชั้นมัธยมอาจจะมีปัญหา เนื่องจากวิชาศีลธรรมหรือพระพุทธศาสนาไม่ได้ถูกให้เป็นวิชาบังคับเหมือนแต่ก่อน สมัยก่อนเมื่อเป็นวิชาบังคับที่เด็กจะต้องเรียนในวิชาเหล่านี้ เด็กจะรู้จักเรื่องดังกล่าวมากกว่าปัจจุบัน ซึ่งมีผลต่อเด็กให้ไม่รู้จักหลักธรรม และเป็นผลส่วนบุคคลที่จะทำให้เด็กเกิดพฤติกรรมขาดการยับยั้งชั่งใจมากขึ้น เกิดอะไรกระทบก็ไม่รู้จักความอดทน จนเกิดกระแสความรุนแรงให้เห็นอยู่ในปัจจุบัน ดังนั้น เราต้องย้อนกลับมาดูว่า กระทรวงศึกษาธิการ คณะสงฆ์จะมีการนำหลักสูตรเหล่านี้กลับมาหรือไม่ ซึ่งวันสำคัญเหล่านี้เป็นพื้นฐานจะต้องรู้ หากไม่รู้แสดงว่าระบบการศึกษาของเรามีปัญหาแน่นอน” ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ ระบุ
ขณะที่ นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผอ.พศ. กล่าวว่า ช่วงเช้า ที่พุทธมณฑล ได้มีพิธีตักบาตรพระสงฆ์ 985 รูป โดยมีพระธรรมปริยัติเวที เจ้าคณะภาค 15 เจ้าอาวาสวัดพระปฐมเจดีย์ เป็นประธานในพิธีฝ่ายสงฆ์ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานฝ่ายฆราวาส สำหรับเวลา 16.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ นายอำพล เสนาณรงค์ องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ในการบำเพ็ญพระราชกุศลเนื่องในวันมาฆบูชาด้วย
ส่วนที่พุทธอุทยาน จ.นครนายก พระราชพิพัฒน์โกศล เจ้าอาวาสวัดศรีสุดาราม บางขุนนนท์ กรุงเทพฯ ในฐานะผู้จัดสร้างพุทธอุทยาน กล่าวว่า ได้ถือวันมาฆบูชานี้ เปิดพุทธอุทยาน ซึ่งเกี่ยวกับวันมาฆบูชาโดยตรง และมีแห่งเดียวของประเทศไทย โดยพุทธอุทยานแห่งนี้เกิดขึ้นจากมหาศรัทธาสาธุชนได้ร่วมสร้างพระอรหันต์ จำนวน 1,250 รูป จำลองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเนื่องในวันมาฆบูชาในสมัยพุทธกาล และเป็นการเฉลิมฉลองพุทธชยันตี 2600 ปี แห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ดังนั้น จึงมีพิธีเปิดเป็นครั้งแรกพร้อมจัดกิจกรรมมาฆบูชาอย่างยิ่งใหญ่ โดยนิมนต์พระสงฆ์นานาชาติ เช่น ไต้หวัน ศรีลังกา อินเดีย ลาว พม่า บังกลาเทศ เป็นต้น รวมจำนวน 1,250 รูป เท่ากับพระอรหันต์สาวกในสมัยพุทธกาลมาเจริญพระพุทธมนต์พร้อมกันตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.
พระราชพิพัฒน์โกศล กล่าวต่อว่า ตลอดทั้งวันพระสงฆ์นานาชาติได้สวดบทธัมมจักกัปปวัตตนสูตร และบทมาฆบูชาคาถา(โอวาทปาติโมกขคาถา) ซึ่งบทสวดธัมมจักกัปปวัตตนสูตร ถือว่าเป็นสุดยอดของบทสวดมนต์ โดยเป็นการสวดบทที่เกี่ยวกับเรื่องที่พระพุทธเจ้าได้แสดงธรรมสอนเกี่ยวกับอริยสัจ 4 และการสวดบทนี้นับเป็นครั้งแรกของประเทศอีกด้วย ขณะเดียวกันการสวดมนต์ในครั้งนี้ยังเป็นการถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์
“พุทธศาสนิกชนได้ร่วมสวดมนต์บทโอวาทปาติโมขคาถากับพระสงฆ์นานาชาติ เวียนเทียนรอบพระอรหันต์ 1,250 รูป ได้ถวายภัตตาหารเพล ถวายน้ำปานะแด่พระสงฆ์นานาชาติ ได้บำเพ็ญบุญถวายเป็นพระราชกุศลในหลวง พระราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ พร้อมกันนี้ยังได้ชมเครื่องประกอบการสวดมนต์ของสงฆ์จีน สงฆ์ญวนด้วย” พระราชพิพัฒน์โกศล กล่าว