ปชช.แห่สวดมนต์ข้ามปีล้นสนามหลวง ตั้งจิตภาวนาสวดมนต์เพื่อเป็นถวายเป็นพระราชกุศล หวังครอบครัว ประเทศมีความสุข “หมออุดมศิลป์” ชี้สวดมนต์ช่วยสร้างจิตให้เกิดกุศล เสริมสติ สมาธิ ปัญญา
วันนี้ (31 ธ.ค.) ที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง กรุงเทพมหานคร (กทม.) ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) มหาเถรสมาคม (มส.) สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า และอีกกว่า 30 องค์กร จัดกิจกรรม “สวดมนต์ข้ามปี เริ่มต้นดี ชีวิตดี” ครั้งที่ 3 มีประชาชนเข้าร่วมงานกว่า 2 แสนคน พร้อมกับวัดกว่า 2,000 แห่งทั่วประเทศ โดยบรรยากาศที่สนามหลวงมีประชาชนให้ความสนใจแต่งกายชุดขาวมาร่วมงานเป็นจำนวนมากต่างจับจองพื้นที่สวดมนต์จนเกือบเต็มท้องสนามหลวงตั้งแต่เวลา 18.00 น.
ต่อมาเวลา 19.00 น. นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ประธานในพิธีช่วงแรกเดินทางมาถึงสนามหลวง พร้อมกล่าวเปิดงานว่า การจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีเป็นก้าวสำคัญในการปรับเปลี่ยนค่านิยมเริ่มต้นปีใหม่ด้วยการลด ละ เลิกอบายมุขและปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เพื่อต้อนรับสิ่งดีๆ ที่จะเกิดขึ้นตลอดปี 2556 ปีนี้ เป็นปีมหามงคล ที่ประชาชนจะได้ร่วมฉลองเฉลิมปีพุทธชยันตี 2,600 ปีแห่งการตรัสรู้ และโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 85 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามกุฎราชกุมาร ทรงเจริญพระชนมพรรษา 60 พรรษา จึงถือเป็นนิมิตหมายที่ดีที่คนไทยจะร่วมกันเฉลิมฉลอง และสวดมนต์ถวายเป็นพระราชกุศลด้วยกัน
“เป็นที่น่ายินดีที่พบว่า ประชาชนถึงร้อยละ 74.9 อยากส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ด้วยการไหว้พระทำบุญและสวดมนต์ข้ามปี อธิษฐานให้ครอบครัวมีความสุข ซึ่งนอกจากจะเป็นการเสริมสิริมงคลให้แก่ตนเองและครอบครัวแล้ว ยังเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีของคนไทย ที่มีต่อพระองค์ผู้ทรงเป็นพ่อหลวงของเราชาวไทยทุกคนอีกครั้งหนึ่ง” รมว.สาธารณสุขกล่าว
ต่อมาเมื่อเวลา 22.40 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประธานในพิธีช่วงที่สอง กล่าวว่า กิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีทำให้ประชาชนได้ร่วมทำสิ่งที่ดีๆ ต้อนรับปีใหม่แทนการเลี้ยงฉลอง ซึ่งบางครั้งก็ทำให้เกิดอุบัติเหตุต่างๆ ขึ้น จึงถือเป็นนิมิตหมายที่ดีที่คนไทยทุกคนจะได้ร่วมกันเฉลิมฉลองปีพุทธชยันตี และร่วมสวดมนต์เพื่อถวายพระพรชัยมงคล ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร นอกจากนั้นยังเป็นการก้าวสู่ปีใหม่ด้วยความเป็นสิริมงคลทั้งต่อตนเองและแผ่นดินไทย
ศ.นพ.อุดมศิลป์ ศรีแสงนาม ประธานคณะกรรมการจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี สสส.กล่าวว่า มีประชาชนร่วมสวดมนต์ข้ามปีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากปีแรกมีประชาชนเข้าร่วมในส่วนกลางกว่า 3 พันคน เป็น 1 แสนคนในปีที่ 2 และน่าจะเพิ่มเป็น 2 แสนกว่าคนในปีนี้ ซึ่งนอกจาก สนามหลวง ยังจัดงานในวัดพระอารามหลวงทั้ง 4 ภูมิภาค ได้แก่ วัดเจดีย์หลวงวรมหาวิหาร จ.เชียงใหม่, วัดพระมหาธาตุแก่นนคร วัดหนองแวง จ.ขอนแก่น, วัดโสธรวรารามมวรวิหาร จ.ฉะเชิงเทรา และวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช และร่วมกับกรมราชทัณฑ์ กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จัดสวดมนต์ในทัณฑสถาน 192 แห่ง สถานพินิจฯ และศูนย์ฝึกอบรม 52 แห่งทั่วประเทศ
“การสวดมนต์เป็นมงคลหนึ่งในชีวิต ช่วยสร้างจิตให้เกิดกุศล จนก่อเกิดเป็นความสุข ช่วยสร้างพลังอำนาจทางจิตใจ ให้มีสติ สมาธิ ปัญญา และพินิจพิเคราะห์ถึงสิ่งต่างๆ เมื่อความคิดนิ่ง จะทำให้เราได้อยู่กับตนเองมาก และซึมซับเอาหลักคำสอนในบทสวดมนต์ไปปรับใช้และเปลี่ยนแปลงตนเองในทางที่ดีขึ้น และเสมือนเป็นการหลอมรวมใจของคนในชาติ สร้างความปรองดองสามัคคีให้เป็นหนึ่งเดียวกันทั่วประเทศ” ศ.นพ.อุดมศิลป์กล่าว
ด้าน นางศศิพิมพ์ คำดี อายุ 35 ปี มาพร้อมกับลูก 3 คน กล่าวว่า มาร่วมงานสวดมนต์ข้ามปีเป็นปีที่ 2 โดยตั้งใจมาร่วมสวดมนต์ที่สนามหลวง เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พ่อหลวง ปกติเป็นคนชอบทำบุญตักบาตร สวดมนต์เป็นประจำ การสวดมนต์ทำให้มีสติ สมาธิ หากลูกๆ ได้ร่วมสวดมนต์เชื่อว่าจะทำให้มีสมาธิ เรียนเก่งขึ้น ทั้งนี้ตนและลูกๆ ตั้งใจจะนอนค้างคืนที่สนามหลวงเพื่อตักบาตรพระในเช้าวันที่ 1 ม.ค.
นายรูอาร์ เฮนนิง ยูฮันเซน ชาวนอร์เวย์ เดินทางมาสนามหลวงพร้อมภรรยาชาวไทยชื่อนางวิไล ยูฮันเซน กล่าวว่า ปีใหม่นี้ตั้งใจจะมาเยี่ยมญาติของภรรยาที่ จ.บุรีรัมย์ และได้เห็นข่าวโทรทัศน์ว่ามีการจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีที่สนามหลวง จึงสนใจมาร่วมงานซึ่งเป็นการสวดมนต์ในคืนข้ามปีเป็นครั้งแรกของตน ซึ่งได้ร่วมสักการะพระพุทธชยันตี องค์ดำนาลันทา ซึ่งงดงามน่าเลื่อมใสมาก
สำหรับกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี มีกิจกรรมให้ประชาชนได้เข้าร่วมหลากหลาย เช่น การสักการะพระบรมเกศาธาตุ จากประเทศศรีลังกา พระพุทธชยันตีองค์ดำ นาลันทา จากประเทศอินเดีย พระพุทธรูปแกะสลักจากไม้ตะเคียนทอง วัดป่าเขาล้อม จ.ฉะเชิงเทรา การแสดง “พุทธะ ราชะ เดอะมิวสิคัล” แสดงพุทธประวัติผ่านละครเพลง ซึ่งมีดาราและนักร้องชื่อดังร่วมแสดงกว่า 100 ชีวิต การสวดมนต์บทโพชฌงคปริตร และบทสรรเสริญพระพุทธคุณ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล นำสวดโดยพระพรหมวชิรญาณ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดยานนาวา และพระพรหมบัณฑิต กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย และได้นิมนต์พระเถรานุเถระที่ประชาชนให้ความเคารพนับถืออีก 84 รูป มาร่วมเจริญพระพุทธมนต์ให้ศีลให้พรแก่ประชาชนที่มาร่วมงานด้วย
วันนี้ (31 ธ.ค.) ที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง กรุงเทพมหานคร (กทม.) ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) มหาเถรสมาคม (มส.) สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า และอีกกว่า 30 องค์กร จัดกิจกรรม “สวดมนต์ข้ามปี เริ่มต้นดี ชีวิตดี” ครั้งที่ 3 มีประชาชนเข้าร่วมงานกว่า 2 แสนคน พร้อมกับวัดกว่า 2,000 แห่งทั่วประเทศ โดยบรรยากาศที่สนามหลวงมีประชาชนให้ความสนใจแต่งกายชุดขาวมาร่วมงานเป็นจำนวนมากต่างจับจองพื้นที่สวดมนต์จนเกือบเต็มท้องสนามหลวงตั้งแต่เวลา 18.00 น.
ต่อมาเวลา 19.00 น. นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ประธานในพิธีช่วงแรกเดินทางมาถึงสนามหลวง พร้อมกล่าวเปิดงานว่า การจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีเป็นก้าวสำคัญในการปรับเปลี่ยนค่านิยมเริ่มต้นปีใหม่ด้วยการลด ละ เลิกอบายมุขและปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เพื่อต้อนรับสิ่งดีๆ ที่จะเกิดขึ้นตลอดปี 2556 ปีนี้ เป็นปีมหามงคล ที่ประชาชนจะได้ร่วมฉลองเฉลิมปีพุทธชยันตี 2,600 ปีแห่งการตรัสรู้ และโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 85 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามกุฎราชกุมาร ทรงเจริญพระชนมพรรษา 60 พรรษา จึงถือเป็นนิมิตหมายที่ดีที่คนไทยจะร่วมกันเฉลิมฉลอง และสวดมนต์ถวายเป็นพระราชกุศลด้วยกัน
“เป็นที่น่ายินดีที่พบว่า ประชาชนถึงร้อยละ 74.9 อยากส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ด้วยการไหว้พระทำบุญและสวดมนต์ข้ามปี อธิษฐานให้ครอบครัวมีความสุข ซึ่งนอกจากจะเป็นการเสริมสิริมงคลให้แก่ตนเองและครอบครัวแล้ว ยังเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีของคนไทย ที่มีต่อพระองค์ผู้ทรงเป็นพ่อหลวงของเราชาวไทยทุกคนอีกครั้งหนึ่ง” รมว.สาธารณสุขกล่าว
ต่อมาเมื่อเวลา 22.40 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประธานในพิธีช่วงที่สอง กล่าวว่า กิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีทำให้ประชาชนได้ร่วมทำสิ่งที่ดีๆ ต้อนรับปีใหม่แทนการเลี้ยงฉลอง ซึ่งบางครั้งก็ทำให้เกิดอุบัติเหตุต่างๆ ขึ้น จึงถือเป็นนิมิตหมายที่ดีที่คนไทยทุกคนจะได้ร่วมกันเฉลิมฉลองปีพุทธชยันตี และร่วมสวดมนต์เพื่อถวายพระพรชัยมงคล ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร นอกจากนั้นยังเป็นการก้าวสู่ปีใหม่ด้วยความเป็นสิริมงคลทั้งต่อตนเองและแผ่นดินไทย
ศ.นพ.อุดมศิลป์ ศรีแสงนาม ประธานคณะกรรมการจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี สสส.กล่าวว่า มีประชาชนร่วมสวดมนต์ข้ามปีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากปีแรกมีประชาชนเข้าร่วมในส่วนกลางกว่า 3 พันคน เป็น 1 แสนคนในปีที่ 2 และน่าจะเพิ่มเป็น 2 แสนกว่าคนในปีนี้ ซึ่งนอกจาก สนามหลวง ยังจัดงานในวัดพระอารามหลวงทั้ง 4 ภูมิภาค ได้แก่ วัดเจดีย์หลวงวรมหาวิหาร จ.เชียงใหม่, วัดพระมหาธาตุแก่นนคร วัดหนองแวง จ.ขอนแก่น, วัดโสธรวรารามมวรวิหาร จ.ฉะเชิงเทรา และวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช และร่วมกับกรมราชทัณฑ์ กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จัดสวดมนต์ในทัณฑสถาน 192 แห่ง สถานพินิจฯ และศูนย์ฝึกอบรม 52 แห่งทั่วประเทศ
“การสวดมนต์เป็นมงคลหนึ่งในชีวิต ช่วยสร้างจิตให้เกิดกุศล จนก่อเกิดเป็นความสุข ช่วยสร้างพลังอำนาจทางจิตใจ ให้มีสติ สมาธิ ปัญญา และพินิจพิเคราะห์ถึงสิ่งต่างๆ เมื่อความคิดนิ่ง จะทำให้เราได้อยู่กับตนเองมาก และซึมซับเอาหลักคำสอนในบทสวดมนต์ไปปรับใช้และเปลี่ยนแปลงตนเองในทางที่ดีขึ้น และเสมือนเป็นการหลอมรวมใจของคนในชาติ สร้างความปรองดองสามัคคีให้เป็นหนึ่งเดียวกันทั่วประเทศ” ศ.นพ.อุดมศิลป์กล่าว
ด้าน นางศศิพิมพ์ คำดี อายุ 35 ปี มาพร้อมกับลูก 3 คน กล่าวว่า มาร่วมงานสวดมนต์ข้ามปีเป็นปีที่ 2 โดยตั้งใจมาร่วมสวดมนต์ที่สนามหลวง เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พ่อหลวง ปกติเป็นคนชอบทำบุญตักบาตร สวดมนต์เป็นประจำ การสวดมนต์ทำให้มีสติ สมาธิ หากลูกๆ ได้ร่วมสวดมนต์เชื่อว่าจะทำให้มีสมาธิ เรียนเก่งขึ้น ทั้งนี้ตนและลูกๆ ตั้งใจจะนอนค้างคืนที่สนามหลวงเพื่อตักบาตรพระในเช้าวันที่ 1 ม.ค.
นายรูอาร์ เฮนนิง ยูฮันเซน ชาวนอร์เวย์ เดินทางมาสนามหลวงพร้อมภรรยาชาวไทยชื่อนางวิไล ยูฮันเซน กล่าวว่า ปีใหม่นี้ตั้งใจจะมาเยี่ยมญาติของภรรยาที่ จ.บุรีรัมย์ และได้เห็นข่าวโทรทัศน์ว่ามีการจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีที่สนามหลวง จึงสนใจมาร่วมงานซึ่งเป็นการสวดมนต์ในคืนข้ามปีเป็นครั้งแรกของตน ซึ่งได้ร่วมสักการะพระพุทธชยันตี องค์ดำนาลันทา ซึ่งงดงามน่าเลื่อมใสมาก
สำหรับกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี มีกิจกรรมให้ประชาชนได้เข้าร่วมหลากหลาย เช่น การสักการะพระบรมเกศาธาตุ จากประเทศศรีลังกา พระพุทธชยันตีองค์ดำ นาลันทา จากประเทศอินเดีย พระพุทธรูปแกะสลักจากไม้ตะเคียนทอง วัดป่าเขาล้อม จ.ฉะเชิงเทรา การแสดง “พุทธะ ราชะ เดอะมิวสิคัล” แสดงพุทธประวัติผ่านละครเพลง ซึ่งมีดาราและนักร้องชื่อดังร่วมแสดงกว่า 100 ชีวิต การสวดมนต์บทโพชฌงคปริตร และบทสรรเสริญพระพุทธคุณ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล นำสวดโดยพระพรหมวชิรญาณ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดยานนาวา และพระพรหมบัณฑิต กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย และได้นิมนต์พระเถรานุเถระที่ประชาชนให้ความเคารพนับถืออีก 84 รูป มาร่วมเจริญพระพุทธมนต์ให้ศีลให้พรแก่ประชาชนที่มาร่วมงานด้วย