ออกนอกระบบยังวุ่น! อธ.มธ.ชี้ไม่อยากให้เกิดความขัดแย้ง ยันเคยตอบข้อสงสัยออกนอกระบบบ้างแล้ว ขณะที่ อธ.มก.รับเห็นด้วยมีหน่วยงานกลางคุมค่าหน่วยกิต ค่าตอบแทนผู้บริหาร ประชดไม่ต้องออกนอกระบบจะดีกว่า ถ้าควบคุมกันจนทำอะไรไม่ได้
รศ.วุฒิชัย กปิลกาญจน์ อธิการบดี มก.กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือวิปรัฐบาล ได้มีข้อเสนอแนะให้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) กลับไปสอบถามประชาคมอีกครั้งเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนสถานภาพมหาวิทยาลัยไปเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐหรือออกนอกระบบ ว่า ร่าง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ผ่านการพิจารณาของวิปรัฐบาลไปแล้ว หากจะมีข้อเสนอแนะอะไร มก.ยินดีรับฟัง แต่ตนยืนยันว่า ที่ผ่านมาได้ชี้แจงทุกเรื่องที่นิสิตกังวลใจไปหลายครั้งแล้ว โดยเฉพาะเรื่องค่าหน่วยกิต ตนเห็นว่าจะออกนอกระบบหรือไม่ออกนอกระบบ ถ้ามีความจำเป็นและมีเหตุผลเพียงพอจะขึ้นค่าหน่วยกิตอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ตนเห็นด้วยที่นิสิตเสนอให้มีหน่วยงานกลางมาควบคุมการขึ้นค่าหน่วยกิตของมหาวิทยาลัย โดยอาจจะกำหนดข้อมูลกลาง เช่นกี่ปีความจะขึ้นค่าหน่วยกิต ถ้าจะขึ้นควรจะประมาณเท่าไหร่ เป็นต้น รวมถึงอาจจะให้ดูเรื่องค่าตอบแทนของผู้บริหารด้วย เนื่องจากนิสิตห่วงว่าผู้บริหารจะขึ้นค่าตอบแทนตัวเองเกินไปด้วยก็ได้ แต่ไม่ใช่ว่าจะควบคุมกันจนทำอะไรไม่ได้เลย ไม่เช่นนั้นไม่ต้องออกนอกระบบเลยดีกว่า เพราะการออกนอกระบบเพื่อความคล่องตัวในการบริหารมหาวิทยาลัย อย่างไรก็ตาม การที่จะให้มีหน่วยงานช่วยดูแลเรื่องต่างๆ เพราะเรายังเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐอยู่ ดังนั้นต้องอยู่ในการดูแลของรัฐ
ด้าน ศ.ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดี มธ.กล่าวว่า มธ.เป็นมหาวิทยาลัยที่มีความเป็นประชาธิปไตย ดังนั้น การถามความเห็นของประชาคม เป็นสิ่งที่ต้องทำอยู่แล้ว ซึ่งคำว่าประชาคม มธ.ไม่ได้หมายถึงเฉพาะนักศึกษาเท่านั้น แต่รวมถึงบุคลากรของ มธ.อีกหลายพันคน ซึ่งบุคลากรส่วนใหญ่ต้องการให้ มธ.ออกนอกระบบ ทั้งนี้ในส่วนของผู้บริหารไม่ได้มีความเร่งรีบที่จะให้ มธ.ออกนอกระบบ เพราะร่าง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีความล่าช้ามา 6-7 ปี แล้ว ตนเองและผู้บริหารมหาวิทยาลัยก็ไม่ได้เร่งรีบอะไร แต่ที่ไม่อยากให้นักศึกษาออกมาประท้วง เพราะจะทำให้เกิดความขัดแย้งกับบุคลากร และอาจารย์ส่วนใหญ่ที่อยากจะออกนอกระบบ เพราะการออกนอกระบบมีผลต่อการปรับเงินเดือน ทั้งนี้ ที่ผ่านมาตนได้เคยนัดประชุมและตอบข้อสงสัยของนักศึกษาไปบ้างแล้ว ทั้งเรื่องการขึ้นค่าหน่วยกิต โดยได้ชี้แจงว่า หลายมหาวิทยาลัยที่ออกนอกระบบไปก่อนหน้านั้น ก็ไม่ได้มีการขึ้นค่าหน่วยกิต ส่วนกรณีที่ยังไม่มีการเรียกประชุมนักศึกษาอีกรอบ เพราะช่วงนี้อยู่ในช่วงสอบ จึงอยากให้การสอบเรียบร้อยก่อน
รศ.วุฒิชัย กปิลกาญจน์ อธิการบดี มก.กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือวิปรัฐบาล ได้มีข้อเสนอแนะให้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) กลับไปสอบถามประชาคมอีกครั้งเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนสถานภาพมหาวิทยาลัยไปเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐหรือออกนอกระบบ ว่า ร่าง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ผ่านการพิจารณาของวิปรัฐบาลไปแล้ว หากจะมีข้อเสนอแนะอะไร มก.ยินดีรับฟัง แต่ตนยืนยันว่า ที่ผ่านมาได้ชี้แจงทุกเรื่องที่นิสิตกังวลใจไปหลายครั้งแล้ว โดยเฉพาะเรื่องค่าหน่วยกิต ตนเห็นว่าจะออกนอกระบบหรือไม่ออกนอกระบบ ถ้ามีความจำเป็นและมีเหตุผลเพียงพอจะขึ้นค่าหน่วยกิตอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ตนเห็นด้วยที่นิสิตเสนอให้มีหน่วยงานกลางมาควบคุมการขึ้นค่าหน่วยกิตของมหาวิทยาลัย โดยอาจจะกำหนดข้อมูลกลาง เช่นกี่ปีความจะขึ้นค่าหน่วยกิต ถ้าจะขึ้นควรจะประมาณเท่าไหร่ เป็นต้น รวมถึงอาจจะให้ดูเรื่องค่าตอบแทนของผู้บริหารด้วย เนื่องจากนิสิตห่วงว่าผู้บริหารจะขึ้นค่าตอบแทนตัวเองเกินไปด้วยก็ได้ แต่ไม่ใช่ว่าจะควบคุมกันจนทำอะไรไม่ได้เลย ไม่เช่นนั้นไม่ต้องออกนอกระบบเลยดีกว่า เพราะการออกนอกระบบเพื่อความคล่องตัวในการบริหารมหาวิทยาลัย อย่างไรก็ตาม การที่จะให้มีหน่วยงานช่วยดูแลเรื่องต่างๆ เพราะเรายังเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐอยู่ ดังนั้นต้องอยู่ในการดูแลของรัฐ
ด้าน ศ.ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดี มธ.กล่าวว่า มธ.เป็นมหาวิทยาลัยที่มีความเป็นประชาธิปไตย ดังนั้น การถามความเห็นของประชาคม เป็นสิ่งที่ต้องทำอยู่แล้ว ซึ่งคำว่าประชาคม มธ.ไม่ได้หมายถึงเฉพาะนักศึกษาเท่านั้น แต่รวมถึงบุคลากรของ มธ.อีกหลายพันคน ซึ่งบุคลากรส่วนใหญ่ต้องการให้ มธ.ออกนอกระบบ ทั้งนี้ในส่วนของผู้บริหารไม่ได้มีความเร่งรีบที่จะให้ มธ.ออกนอกระบบ เพราะร่าง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีความล่าช้ามา 6-7 ปี แล้ว ตนเองและผู้บริหารมหาวิทยาลัยก็ไม่ได้เร่งรีบอะไร แต่ที่ไม่อยากให้นักศึกษาออกมาประท้วง เพราะจะทำให้เกิดความขัดแย้งกับบุคลากร และอาจารย์ส่วนใหญ่ที่อยากจะออกนอกระบบ เพราะการออกนอกระบบมีผลต่อการปรับเงินเดือน ทั้งนี้ ที่ผ่านมาตนได้เคยนัดประชุมและตอบข้อสงสัยของนักศึกษาไปบ้างแล้ว ทั้งเรื่องการขึ้นค่าหน่วยกิต โดยได้ชี้แจงว่า หลายมหาวิทยาลัยที่ออกนอกระบบไปก่อนหน้านั้น ก็ไม่ได้มีการขึ้นค่าหน่วยกิต ส่วนกรณีที่ยังไม่มีการเรียกประชุมนักศึกษาอีกรอบ เพราะช่วงนี้อยู่ในช่วงสอบ จึงอยากให้การสอบเรียบร้อยก่อน