สธ.รับลูก WHO สั่งสำนักระบาดวิทยา สสจ. และโรงพยาบาลทุกแห่ง เฝ้าระวังผู้ป่วยโรคติดเชื้อทางเดินหายใจเฉียบพลันที่มีอาการรุนแรง โดยเฉพาะผู้ป่วยปอดบวมรุนแรง ล่าสุดไม่พบผู้ป่วยเข้าข่ายโรคนี้
วันนี้ (14 ก.พ.) นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีองค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศให้ สธ.ทั่วโลกคงระบบเฝ้าระวังผู้ป่วยโรคติดเชื้อทางเดินหายใจเฉียบพลันที่มีอาการรุนแรง หลังมีรายงานจากประเทศอังกฤษพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2012 (Novel Corona Virus : NCoV) จำนวน 2 ราย เป็นชาวอังกฤษ ว่า การประกาศเตือนของ WHO ครั้งนี้ เพื่อเน้นย้ำให้ทุกประเทศทั่วโลกเฝ้าระวังผู้ป่วยโรคติดเชื้อทางเดินหายใจเฉียบพลันที่มีอาการรุนแรง หลังจากที่เคยประสบปัญหาระบาดทั่วโลก ทั้งนี้ ตนได้สั่งการให้สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค (คร.) สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ทุกแห่ง โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไปทั่วประเทศ เฝ้าระวังกลุ่มผู้ป่วยโรคปอดบวม หรือมีปัญหาติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจที่มีอาการรุนแรง มีไข้สูง และปอดผิดปกติทุกรายแล้ว เพื่อคัดกรองผู้ที่ติดเชื้อ รวมถึงไข้หวัดนกและโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ 2012 ด้วย เนื่องจาก 2 โรคนี้มีอาการใกล้เคียงกัน ซึ่งไข้หวัดนกขณะนี้ยังมีการระบาดในประเทศเพื่อนบ้าน และให้สำนักระบาดวิทยา คร.ประสาน WHO อย่างใกล้ชิด เพื่อวางความพร้อมระบบการป้องกันโรคในประเทศให้ทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพ
ด้าน นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัด สธ.กล่าวว่า ผลการเฝ้าระวังที่ผ่านมายังไม่พบสัญญาณผิดปกติใดๆ ผู้ป่วยโรคปอดบวมทั้งหมดเป็นการติดเชื้อแบคทีเรียทั่วไป ในปี 2556 นี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-4 ก.พ.พบผู้ป่วยโรคปอดบวม 16,376 รายจาก 77 จังหวัด เสียชีวิต 28 ราย ซึ่งเป็นเรื่องที่พบได้ตามฤดูกาล ทั้งนี้ ในด้านระบบการดูแลผู้ป่วยโรคปอดบวมในประเทศไทย สธ.มีความพร้อม และมีมาตรการที่เป็นมาตรฐานในการดูแลเฝ้าระวัง ป้องกันเชื้อไม่ให้แพร่ระบาด มีห้องตรวจยืนยันทางห้องปฏิบัติการ ทำงานเชื่อมโยงกับศูนย์ควบคุมโรคแห่งสหรัฐอเมริกา (ซีดีซี) และ WHO
“สำหรับคนไทยที่จะเดินทางไปต่างประเทศสามารถเดินทางได้ปกติ โดย WHO ยังไม่แนะนำข้อห้ามในการเดินทางไปประเทศที่พบผู้ติดเชื้อ จึงไม่ต้องวิตกกังวลและขอให้รักษาสุขอนามัย โดยเฉพาะการล้างมือหลังสัมผัสสิ่งของต่างๆ ทุกครั้ง และหากมีอาการป่วย คือ ไข้สูง ไอ หายใจหอบ ให้รีบพบแพทย์ที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน” ปลัด สธ.กล่าว
สำหรับผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2012 (Novel Corona Virus : NCoV) จำนวน 2 ราย เป็นชาวอังกฤษนั้น รายแรกมีอาการป่วยและเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเมื่อวันที่ 26 ม.ค.2556 มีประวัติเดินทางกลับจากประเทศปากีสถาน และซาอุดีอาระเบีย ส่วนรายที่ 2 เป็นญาติของผู้ป่วยรายแรก กำลังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล โดยที่ผู้ป่วยรายนี้ไม่มีประวัติเดินทางไปต่างประเทศ จนถึงล่าสุดเมื่อวันที่ 11 ก.พ.2556 WHO รายงานว่ามีผู้ป่วยติดเชื้อนี้จำนวน 11 ราย จึงได้ออกประกาศแนะนำให้ประเทศสมาชิกทั่วโลก ดำเนินการเฝ้าระวังผู้ป่วยโรคติดเชื้อทางเดินหายใจเฉียบพลันที่มีอาการรุนแรง โดยเฉพาะผู้ที่มีประวัติเดินทางกลับจากกลุ่มประเทศคาบสมุทรอาราเบียนและประเทศใกล้เคียง
วันนี้ (14 ก.พ.) นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีองค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศให้ สธ.ทั่วโลกคงระบบเฝ้าระวังผู้ป่วยโรคติดเชื้อทางเดินหายใจเฉียบพลันที่มีอาการรุนแรง หลังมีรายงานจากประเทศอังกฤษพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2012 (Novel Corona Virus : NCoV) จำนวน 2 ราย เป็นชาวอังกฤษ ว่า การประกาศเตือนของ WHO ครั้งนี้ เพื่อเน้นย้ำให้ทุกประเทศทั่วโลกเฝ้าระวังผู้ป่วยโรคติดเชื้อทางเดินหายใจเฉียบพลันที่มีอาการรุนแรง หลังจากที่เคยประสบปัญหาระบาดทั่วโลก ทั้งนี้ ตนได้สั่งการให้สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค (คร.) สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ทุกแห่ง โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไปทั่วประเทศ เฝ้าระวังกลุ่มผู้ป่วยโรคปอดบวม หรือมีปัญหาติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจที่มีอาการรุนแรง มีไข้สูง และปอดผิดปกติทุกรายแล้ว เพื่อคัดกรองผู้ที่ติดเชื้อ รวมถึงไข้หวัดนกและโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ 2012 ด้วย เนื่องจาก 2 โรคนี้มีอาการใกล้เคียงกัน ซึ่งไข้หวัดนกขณะนี้ยังมีการระบาดในประเทศเพื่อนบ้าน และให้สำนักระบาดวิทยา คร.ประสาน WHO อย่างใกล้ชิด เพื่อวางความพร้อมระบบการป้องกันโรคในประเทศให้ทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพ
ด้าน นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัด สธ.กล่าวว่า ผลการเฝ้าระวังที่ผ่านมายังไม่พบสัญญาณผิดปกติใดๆ ผู้ป่วยโรคปอดบวมทั้งหมดเป็นการติดเชื้อแบคทีเรียทั่วไป ในปี 2556 นี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-4 ก.พ.พบผู้ป่วยโรคปอดบวม 16,376 รายจาก 77 จังหวัด เสียชีวิต 28 ราย ซึ่งเป็นเรื่องที่พบได้ตามฤดูกาล ทั้งนี้ ในด้านระบบการดูแลผู้ป่วยโรคปอดบวมในประเทศไทย สธ.มีความพร้อม และมีมาตรการที่เป็นมาตรฐานในการดูแลเฝ้าระวัง ป้องกันเชื้อไม่ให้แพร่ระบาด มีห้องตรวจยืนยันทางห้องปฏิบัติการ ทำงานเชื่อมโยงกับศูนย์ควบคุมโรคแห่งสหรัฐอเมริกา (ซีดีซี) และ WHO
“สำหรับคนไทยที่จะเดินทางไปต่างประเทศสามารถเดินทางได้ปกติ โดย WHO ยังไม่แนะนำข้อห้ามในการเดินทางไปประเทศที่พบผู้ติดเชื้อ จึงไม่ต้องวิตกกังวลและขอให้รักษาสุขอนามัย โดยเฉพาะการล้างมือหลังสัมผัสสิ่งของต่างๆ ทุกครั้ง และหากมีอาการป่วย คือ ไข้สูง ไอ หายใจหอบ ให้รีบพบแพทย์ที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน” ปลัด สธ.กล่าว
สำหรับผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2012 (Novel Corona Virus : NCoV) จำนวน 2 ราย เป็นชาวอังกฤษนั้น รายแรกมีอาการป่วยและเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเมื่อวันที่ 26 ม.ค.2556 มีประวัติเดินทางกลับจากประเทศปากีสถาน และซาอุดีอาระเบีย ส่วนรายที่ 2 เป็นญาติของผู้ป่วยรายแรก กำลังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล โดยที่ผู้ป่วยรายนี้ไม่มีประวัติเดินทางไปต่างประเทศ จนถึงล่าสุดเมื่อวันที่ 11 ก.พ.2556 WHO รายงานว่ามีผู้ป่วยติดเชื้อนี้จำนวน 11 ราย จึงได้ออกประกาศแนะนำให้ประเทศสมาชิกทั่วโลก ดำเนินการเฝ้าระวังผู้ป่วยโรคติดเชื้อทางเดินหายใจเฉียบพลันที่มีอาการรุนแรง โดยเฉพาะผู้ที่มีประวัติเดินทางกลับจากกลุ่มประเทศคาบสมุทรอาราเบียนและประเทศใกล้เคียง
