“ประทีป” เตรียมยื่นคัดค้านต่อ กกต.ตัดสิทธิสมัครผู้ว่าฯ กทม.พรุ่งนี้ ยันไปใช้สิทธิหมื่นเปอร์เซ็นต์ ขณะที่ปลัด กทม.วอนผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.และทีมงานไม่ติดป้ายหาเสียงในที่ห้าม
วันนี้ (1 ก.พ.) นางนินนาท ชลิตานนท์ ปลัดกรุงเทพมหานคร ในฐานะผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร (ผอ.กกต.ทถ.กทม.) แถลงผลการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ กทม.ว่า ภายหลังจากการเปิดรับสมัครเมื่อวันที่ 21-25 ม.ค. 2556 มีผู้สนใจสมัครรับเลือกตั้งรวมจำนวนทั้งสิ้น 25 คน โดยได้ตรวจสอบหลักฐานการสมัครและคุณสมบัติของผู้สมัคร ซึ่งมีกำหนดแล้วเสร็จภายใน 7 วันนับแต่วันปิดการรับสมัคร และครบกำหนดในวันที่ 1 ก.พ. 2556 นั้น ผลปรากฏว่า มีผู้ผ่านคุณสมบัติได้สมัครรับเลือกตั้ง จำนวน 24 ราย ส่วนผู้ที่ไม่ผ่านคุณสมบัติมี จำนวน 1 ราย คือ นายประทีป วัชรโชคเกษม ผู้สมัครหมายเลข 14 ผู้สมัครอิสระ เนื่องจากตรวจสอบพบว่า ไม่ได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เมื่อวันที่ 3 ก.ค.2554 โดยไม่แจ้งเหตุในการไม่ไปใช้สิทธิ มีผลให้ นายประทีป วัชรโชคเกษม เสียสิทธิ์ในการสมัครรับเลือกตั้ง ตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2545 มาตรา 45 (10) ซึ่งระบุถึงบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ว่า เป็นผู้ที่อยู่ระหว่างการเสียสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่นตามมาตรา 37 หรือตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา อันเนื่องมาจากไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งโดยมิได้แจ้งเหตุ ดังนั้น ในการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร วันอาทิตย์ที่ 3 มี.ค. 2556 มีผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ กทม.จำนวนทั้งสิ้น 24 คน ทั้งนี้ จะไม่มีการเลื่อนหมายเลขผู้สมัครลำดับถัดไปขึ้นมา โดยผู้สมัครรายอื่นๆ ยังคงใช้หมายเลขประจำตัวในปัจจุบันในการโฆษณาหาเสียง แต่ในส่วนของบัตรลงคะแนนเลือกตั้งนั้นจะใช้วิธีเว้นหมายเลข 14
สำหรับผู้สมัครที่ไม่มีชื่อในประกาศรับสมัคร สามารถยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อวินิจฉัยภายใน 3 วันนับแต่วันประกาศรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งต่อไป
นางนินนาท กล่าวด้วยว่า ตนขอให้ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ทำความเข้าใจกับทีมงานที่ติดตั้งป้ายหาเสียงให้ปิดป้ายโฆษณาหาเสียงตามประกาศกรุงเทพมหานครในการกำหนดสถานที่ปิดประกาศโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งในบริเวณที่กำหนดไว้เท่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จะต้องไม่เป็นการกีดขวางทางสัญจร หรือก่อให้เกิดอันตรายแก่ประชาชน หรือยานพาหนะ หรือปิดบังป้ายและสัญญาณไฟจราจร เนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากประชาชนเป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินได้ หากฝ่าฝืน กทม.และสำนักงานเขต มีสิทธิ์ในการพิจารณาสั่งเก็บ ย้าย หรือรื้อถอนโดยไม่ต้องแจ้งให้ผู้สมัครทราบก่อนล่วงหน้า อย่างไรก็ตาม ในการเก็บ ย้าย หรือรื้อถอนป้ายโฆษณาหาเสียงนั้น กทม. และสำนักงานเขต จะแจ้งให้ผู้สมัครรับทราบเพื่อแก้ไข เนื่องจากไม่ต้องการให้มองว่าเป็นการกลั่นแกล้งผู้สมัครหรือผู้หนึ่งผู้ใด แต่หากแจ้งแล้วไม่ดำเนินการกทม.จะดำเนินการจัดเก็บและรื้อถอนทันที เพื่อความสะอาดเป็นระเบียบเรียบร้อย และความปลอดภัยของประชาช
ด้านนายประทีป กล่าวว่า ขณะนี้ตนเองยังไม่ได้รับทราบอย่างเป็นทางการแต่มีผู้มาแจ้งบ้างแล้วซึ่งตนเองขอยืนยันหมื่นเปอร์เซ็นต์ว่าได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส.ในวันที่ 3 ก.ค.2554 อย่างแน่นอนและตนเองได้ลงลายมือที่สมุดรับบัตรเลืิอกตั้งที่หน่วยเลือกตั้ง ดังนั้น ในวันพรุ่งนี้ (2 ก.พ.) จะไปยื่นคัดค้านต่อ กกต.เพื่อไม่ให้เป็นผู้เสียสิทธิรับสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ในครั้งนี้
“มั่นใจแน่นอนว่า เราได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งเพราะเราเป็นนักการเมืองก็ต้องไปใช้สิทธิเลือกตั้งแน่นอน ผมยังจำวันเวลาที่ไปใช้สิทธิได้เลยซึ่งเหตุที่เกิดขึ้นเขาอาจหาเอกสารไม่เจอก็ได้ แต่หากผมถูกเพิกถอนสิทธิจริงๆ ผมก็จะฟ้องคนที่ทำให้เราเสียสิทธิของเรา ผมเชื่อมั่นในความยุติธรรม” นายประทีป กล่าว
