ศธ.เตรียมชง 4 ข้อเสนอให้ที่ประชุม กพต.ที่นายกฯ เป็นประธาน พิจารณาเพื่อสร้างขวัญกำลังใจครูใต้ ทั้งขอเพิ่มเบี้ยเสี่ยงภัยเป็นเดือนละ 3,500 บาท โดยให้ครูอัตราจ้างได้รับด้วย รวมทั้งขอปรับเพิ่มเงินเยี่ยวยาครูเสียชีวิตจาก 1.2 ล้านบาท เป็น 1.4 ล้านบาท
วันนี้ (24 ม.ค.) นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ให้สัมภาษณ์กรณีคนร้ายบุกยิง นายชลธี เจริญชล ครูโรงเรียนบ้านตันหยง อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส เสียชีวิตวานนี้ (23 ม.ค.) ว่า ในวันที่ 31 ม.ค.นี้ ตนจะลงไปร่วมงานพระราชทานดินแก่ นายชลธี ซึ่งเป็นครูไทยมุสลิมซึ่งเสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนี้ และจะถือโอกาสประชุมครูและผู้บริหารในพื้นที่เกี่ยวกับมาตรการรักษาความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ทุกครั้งที่ครูใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เสียชีวิต ทางสหพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จะมีการตั้งกรรมการขึ้นมาตรวจสอบสาเหตุของการถูกลอบทำร้ายทุกครั้ง
“ผมจะรอดูผลสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว หากสาเหตุการลอบทำร้ายไม่ใช่เรื่องส่วนตัวแต่เป็นฝีมือของกลุ่มผู้ไม่หวังดี หวังก่อความไม่สงบแล้วคงต้องมีการปรับมาตรการรักษาความปลอดภัยให้เข้มข้นขึ้น เพราะในช่วงเวลาไล่เลี่ยกันนั้นเกิดเหตุการณ์ครูถูกทำร้ายเสียชีวิตแล้วถึง 2 ครั้ง แสดงให้เห็นว่า การรักษาความปลอดภัยในโรงเรียนยังมีจุดอ่อน ซึ่งในเหตุการณ์ของ นายชลธี ที่เกิดล่าสุดนั้นก็พบว่าเป็นจังหวะที่ไม่มีเวรยามพอดี เพราะผู้รักษาเวรยามออกไปกินข้าว ขณะเดียวกัน ผู้ก่อการร้ายก็ใช้วิธีปลอมตัวเป็นชาวบ้านเข้ามาในโรงเรียน” นายเสริมศักดิ์ กล่าว
ด้านนางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รมว.ศึกษาธิการ ได้หารือกับตัวแทนครูและผู้บริหารที่เดินทางมาจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เกี่ยวกับข้อเสนอในการเยียวยาครูและบุคลากรในภาคใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความเสียงภัยอย่างมาก ทั้งนี้ จากการหารือร่วมกันได้ข้อสรุปว่า ศธ.เตรียมจะนำเสนอคณะกรรมการเขตพัฒนาพิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) ที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ใน 4 ข้อเสนอ คือ 1.จะเสนอเพิ่มเงินเบี้ยเสี่ยงภัย จากเดิมครูใต้ได้รับเดือนละ 2,500 บาท เพิ่มเป็น 3,500 บาท ซึ่งมีครูใต้ได้รับเบี้ยเสี่ยงภัยอยู่ประมาณ 29,000 คน และเสนอให้ครูอัตราจ้างลูกจ้างของสถานศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ประมาณ 6,000 คน ที่ไม่เคยได้รับเบี้ยเสี่ยงภัยเลยให้ได้รับเงินเบี้ยเสี่ยงภัยเดือนละ 3,500 บาทด้วย โดยทาง ศธ.จะไปแก้ไขระเบียบที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ครูกลุ่มนี้มีสิทธิได้รับเงินเสี่ยงภัยด้วยเพราะเดิมไม่มีสิทธิจะได้รับ
2.ศธ.จะเสนอให้ปรับเพิ่มเงินเยียวยาครูและบุคลากรที่เสียชีวิต ซึ่งปัจจุบันครอบครัวครูที่เสียชีวิตจะได้รับเงินรายละ 1.2 ล้านบาท แต่ครูใต้เสนอให้เพิ่มรายละ4 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ศธ.เห็นว่า เงินเยียวยาครูควรจะอ้างอิงในอัตราเดียวกับกลุ่มทหารและตำรวจ ซึ่งจะปฏิบัติงานในพื้นที่เดียวกัน เพราะฉะนั้น ศธ.จะไปศึกษาดูว่าเงินเยียวยาทหารและตำรวจที่เสียชีวิตใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อยู่ที่เท่าไร และเสนอปรับอัตราเงินเยียวยาครูให้ทัดเทียมกัน แต่เบื้องต้นเชื่อว่าจะได้ไม่ต่ำกว่ารายละ 2 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันเงินเยียวยาทหารกองทัพบก ได้ประมาณ 3.6 ล้านบาท ทหารเรือ ได้ 3.7 ล้านบาท ทหารอากาศ ได้ 3 ล้าน 5 หมื่นบาท ตำรวจ ได้ 1.6 ล้านบาท
ผู้ช่วย รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อว่า 3.จะเสนอเพิ่มเงินอุดหนุนรายหัวให้โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามในจังหวัดชายแดนภาคใต้ จากเดิมรัฐจะอุดหนุนให้ร้อยละ 70 เพิ่มเป็นร้อยละ 85 แต่มีเงื่อนไขว่าคะแนนการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน หรือ O-Net ของโรงเรียนจะต้องเพิ่มขึ้นตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ และ 4.เสนอสร้างหอพักให้โรงเรียนปอเนาะ จังหวัดละ 2 แห่ง เพื่อให้เด็กได้รับความปลอดภัย มีโอกาสพิ่มเติมหลังเลิกเรียน โดยให้กำหนดหลักเกณฑ์ในเรื่องของการบริหารจัดการหอพักให้เด็กได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ ให้มีการจัดกิจกรรมเสริมในหอพัก พร้อมทั้งให้รัฐเข้าไปกำกับดูแลได้ตามความเหมาะสม อย่างไรก็ตาม ศธ.อยากให้มีการเร่งรัดประชุม กพต.เพื่อจะได้รีบพิจารณาข้อเสนอเยียวยาครูเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้ครู อย่างไรก็ตาม หากครูในพื้นที่เสียขวัญและมีการขอย้ายออกก็คงจะต้องดึงครูจากหน่วยงานอื่นมาช่วยสอน เช่น บัณฑิตอาสา ครูตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ครูทหารและจ้างครูอัตราจ้างมาทดแทน
