อย.จับมือ บก.ปคบ.บุกจับยา “หยิ่นปังปัง-WELL101” หลังพบโฆษณาผ่านเคเบิลทีวี อวดอ้างเสริมสมรรถภาพทางเพศชายหนุ่ม ชี้ ผิดอีกหลายกระทง ทั้งลอบใส่ยาซิลเดนาฟิล และสวมเลขทะเบียนยาขี้ผึ้ง รวมมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท สั่งปิดโรงงาน 120 วัน ตั้ง 6 ข้อหา
วันนี้ (22 ม.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) นพ.บุญชัย สมบูรณ์สุข เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา แถลงข่าวเรื่อง “การจับกุมยาแผนโบราณโฆษณาหลอกลวงสรรพคุณทางเพศ” ว่า เมื่อวันที่ 21 ม.ค.ที่ผ่านมา อย.ได้ร่วมกับตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) เข้าตรวจสอบสถานที่ผลิตที่ระบุบนฉลากคือ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ธนัทเฮิร์บ พาณิชย์ เลขที่ 16/17 หมู่ 7 ต.คลองสี่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี โดยมี นายธนัท เชี่ยวชาญอักษร เป็นเจ้าของ ซึ่งผลการตรวจพบว่า มีการผลิตยาแผนโบราณโดยฉลากไม่ตรงตามทะเบียนตำรับ ดังนี้ 1.ยาแคปซูลสมุนไพร หยิ่นปังปัง เจียวหนัง ทะเบียนยาเลขที่ G609/54 สมุนไพรสำหรับผู้ชาย ฉลากระบุสรรพคุณ เช่น เสริมสมรรถภาพทางเพศ ยาอายุวัฒนะ เป็นต้น ซึ่งฉลากระบุไม่ตรงตามที่ขอขึ้นทะเบียนตำรับยาไว้ 2.พบฟอยล์สำหรับผลิต ผลิตภัณฑ์ WELL 101 ฉลากระบุเลขทะเบียนยาแผนโบราณ G580/54 ซึ่งเป็นเลขทะเบียนของยาตำรับอื่น แต่เมื่อตรวจสอบภายหลังพบว่าผลิตภัณฑ์ WELL 101 เพิ่งได้รับการจดทะเบียนอาหารเมื่อวันที่ 15 ม.ค.2556 พบถุงใส่ผงยาสมุนไพร เจ้าหน้าที่จึงยึดของกลางเพื่อดำเนินคดีต่อไป มูลค่าของกลางที่ยึดได้กว่า 1,500,000 บาท นอกจากนี้ พบผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ลักษณะเป็นครีมขัดผิว และเจลทำความสะอาดผิว ที่แสดงฉลากไม่ถูกต้อง ไม่มีฉลากภาษาไทย และเป็นเครื่องสำอางควบคุมที่ไม่ได้จดแจ้ง ดังนี้ 1.ผลิตภัณฑ์ Enzyme collagen Peeling cleanser 2.กล่องบรรจุภัณฑ์ Enzyme collagen Peeling c จำนวน 6,500 ชิ้น มูลค่าประมาณ 975,000 บาท รวมมูลค่าของกลางทั้งสิ้น 2,475,000 บาท
นพ.บุญชัย กล่าวอีกว่า การเข้าจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจาก อย.ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้บริโภคให้ตรวจสอบยาแผนโบราณยี่ห้อ หยิ่น ปัง ปัง และยี่ห้อ WELL101 ฉลากระบุเลขทะเบียน G 580/54 ซึ่งมีการโฆษณาผ่านเคเบิลทีวี และกำลังจัดโปรโมชันซื้อ 1 กล่อง แถม 1 กล่อง มาเป็นตัวอย่างจำนวน 1 ชุด ราคา 1,200 บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ.ได้ทำการล่อซื้อและอย.ได้ส่งยา WELL101 ไปตรวจวิเคราะห์ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ผลการตรวจวิเคราะห์ยา WELL101 พบยาซิลเดนาฟิล (Sildenafil) ซึ่งเป็นยาแผนปัจจุบันที่ใช้ในการรักษาอาการเสริมสมรรถภาพทางเพศ เช่น ยี่ห้อซิเดกร้า ขององค์การเภสัชกรรม (อภ.) และยี่ห้อไวอะกรา เป็นต้น
นพ.บุญชัย กล่าวด้วยว่า ยาแผนโบราณ WELL101 ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา เพราะเลขทะเบียน G 580/54 เป็นเลขทะเบียนตำรับยาของยาสามัญประจำบ้าน ชนิดยาขี้ผึ้ง รวมทั้งสถานที่ผลิตคนละแห่งกับที่แจ้งบนฉลาก ซึ่งการกระทำเช่นนี้ผิดกฎหมายในการนำฉลากของบริษัทอื่นมาใช้ เพื่อลวงให้ประชาชนเชื่อว่ายา WELL101 ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยาแล้ว และการนำยาแผนปัจจุบันมาใช้ในการผลิตยาแผนโบราณ อาจเข้าข่ายผลิตยาปลอม อีกทั้ง ห้างหุ้นส่วนจำกัด ธนัทเฮิร์บ ได้รับอนุญาตให้ผลิตยาแผนโบราณ แต่ไม่พบการขออนุญาตผลิตยา WELL101 และสถานที่ผลิตยังไม่ได้รับอนุญาตให้ผลิตยาแผนปัจจุบัน
“ตามปกติยาซิลเดนาฟิลจะไม่ให้รับประทานเกิน 1 เม็ดต่อวัน เพราะมีอันตรายต่อหัวใจ การที่ผสมทั้งยาแผนโบราณและยาแผนปัจจุบันตัวนี้ในแคปซูลเดียวกันและระบุฉลากไม่ถูกต้อง ทำให้ไม่สามารถรู้ได้ว่าผู้ที่รับประทานได้รับยาไปในปริมาณเท่าไร จึงมีอันตรายมากโดยเฉพาะสำหรับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจ ทำให้เสียชีวิตได้” เลาขาฯ อย.กล่าว
พ.ต.อ.ล้ำพันธุ์ พรรธนประเทศ ผกก.4 บก.ปคบ.กล่าวว่า ส่วนของการดำเนินคดี ในเบื้องต้นได้แจ้งข้อหา ดังนี้ 1.ผลิตยาแผนโบราณ ใช้ฉลากและเอกสารกำกับยาไม่ตรงตามที่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยาไว้ ตามมาตรา 57(3) มีโทษปรับตั้งแต่ 1,000-5,000 บาท 2.ผลิตยาที่มิได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา ตามมาตรา 72(4) มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำ ทั้งปรับ 3.ผู้รับอนุญาตผลิตยาแผนโบราณต้องมีผู้ประกอบโรคศิลปะแผนโบราณเป็นผู้มีหน้าที่ ปฏิบัติการตามมาตรา 68 ตามที่กำหนดในกฎกระทรวง หากผู้รับอนุญาตใดไม่ปฏิบัติตาม มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 2,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ปรับเป็นรายวันอีกวันละหนึ่งร้อยบาทจนกว่าจะปฏิบัติให้ถูกต้อง
4.ผู้ประกอบโรคศิลปะแผนโบราณผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา 68 คือ ไม่ประจำอยู่ ณ สถานที่ผลิตยาตลอดเวลาที่เปิดทำการ มีโทษปรับตั้งแต่ 500-2,000 บาท 5.นำเข้าเครื่องสำอางโดยไม่ผ่านการจดแจ้งกับ อย.มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และ 6.ขายเครื่องสำอางที่แสดงฉลากไม่ถูกต้อง มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ ถ้ากระทำโดยประมาท มีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท
ด้าน ภญ.ศรีนวล กรกชกร รองเลขาธิการ อย. กล่าวว่า โรงงานดังกล่าวอย.ได้สั่งปิดชั่วคราวเป็นเวลา 120 วัน จนกว่าจะมีการดำเนินการให้ถูกต้อง ส่วนการดำเนินการกับโฆษณายาและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารผ่านเคเบิลทีวีและอินเทอร์เน็ตนั้น อย.ได้รับเรื่องร้องเรียน 100 กรณีต่อเดือน และเฝ้าระวังโดย อย.800-1,000 กรณีต่อเดือน ซึ่งพบว่าเกือบทั้งหมดเป็นโฆษณาผิดกฎหมาย ฐานโฆษณาโดยไม่ได้รับอนุญาตและอวดอ้างสรรพคุณเกินจริง ส่วนใหญ่เป็นการอวดอ้างสรรพคุณเสริมสมรรถภาพทางเพศและลดความอ้วน ในส่วนของเคเบิลที่มีความผิด อย.จะดำเนินคดีตามกฎหมาย หากยังพบความผิดซ้ำจะส่งเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) พิจารณาการต่อใบอนุญาต สำหรับอินเทอร์เน็ตจะแจ้งเรื่องให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ปิดเว็บไซต์ทันที แต่ปรากฏว่าเมื่อปิดไม่นานก็มีการเปิดอีกครั้ง
วันนี้ (22 ม.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) นพ.บุญชัย สมบูรณ์สุข เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา แถลงข่าวเรื่อง “การจับกุมยาแผนโบราณโฆษณาหลอกลวงสรรพคุณทางเพศ” ว่า เมื่อวันที่ 21 ม.ค.ที่ผ่านมา อย.ได้ร่วมกับตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) เข้าตรวจสอบสถานที่ผลิตที่ระบุบนฉลากคือ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ธนัทเฮิร์บ พาณิชย์ เลขที่ 16/17 หมู่ 7 ต.คลองสี่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี โดยมี นายธนัท เชี่ยวชาญอักษร เป็นเจ้าของ ซึ่งผลการตรวจพบว่า มีการผลิตยาแผนโบราณโดยฉลากไม่ตรงตามทะเบียนตำรับ ดังนี้ 1.ยาแคปซูลสมุนไพร หยิ่นปังปัง เจียวหนัง ทะเบียนยาเลขที่ G609/54 สมุนไพรสำหรับผู้ชาย ฉลากระบุสรรพคุณ เช่น เสริมสมรรถภาพทางเพศ ยาอายุวัฒนะ เป็นต้น ซึ่งฉลากระบุไม่ตรงตามที่ขอขึ้นทะเบียนตำรับยาไว้ 2.พบฟอยล์สำหรับผลิต ผลิตภัณฑ์ WELL 101 ฉลากระบุเลขทะเบียนยาแผนโบราณ G580/54 ซึ่งเป็นเลขทะเบียนของยาตำรับอื่น แต่เมื่อตรวจสอบภายหลังพบว่าผลิตภัณฑ์ WELL 101 เพิ่งได้รับการจดทะเบียนอาหารเมื่อวันที่ 15 ม.ค.2556 พบถุงใส่ผงยาสมุนไพร เจ้าหน้าที่จึงยึดของกลางเพื่อดำเนินคดีต่อไป มูลค่าของกลางที่ยึดได้กว่า 1,500,000 บาท นอกจากนี้ พบผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ลักษณะเป็นครีมขัดผิว และเจลทำความสะอาดผิว ที่แสดงฉลากไม่ถูกต้อง ไม่มีฉลากภาษาไทย และเป็นเครื่องสำอางควบคุมที่ไม่ได้จดแจ้ง ดังนี้ 1.ผลิตภัณฑ์ Enzyme collagen Peeling cleanser 2.กล่องบรรจุภัณฑ์ Enzyme collagen Peeling c จำนวน 6,500 ชิ้น มูลค่าประมาณ 975,000 บาท รวมมูลค่าของกลางทั้งสิ้น 2,475,000 บาท
นพ.บุญชัย กล่าวอีกว่า การเข้าจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจาก อย.ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้บริโภคให้ตรวจสอบยาแผนโบราณยี่ห้อ หยิ่น ปัง ปัง และยี่ห้อ WELL101 ฉลากระบุเลขทะเบียน G 580/54 ซึ่งมีการโฆษณาผ่านเคเบิลทีวี และกำลังจัดโปรโมชันซื้อ 1 กล่อง แถม 1 กล่อง มาเป็นตัวอย่างจำนวน 1 ชุด ราคา 1,200 บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ.ได้ทำการล่อซื้อและอย.ได้ส่งยา WELL101 ไปตรวจวิเคราะห์ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ผลการตรวจวิเคราะห์ยา WELL101 พบยาซิลเดนาฟิล (Sildenafil) ซึ่งเป็นยาแผนปัจจุบันที่ใช้ในการรักษาอาการเสริมสมรรถภาพทางเพศ เช่น ยี่ห้อซิเดกร้า ขององค์การเภสัชกรรม (อภ.) และยี่ห้อไวอะกรา เป็นต้น
นพ.บุญชัย กล่าวด้วยว่า ยาแผนโบราณ WELL101 ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา เพราะเลขทะเบียน G 580/54 เป็นเลขทะเบียนตำรับยาของยาสามัญประจำบ้าน ชนิดยาขี้ผึ้ง รวมทั้งสถานที่ผลิตคนละแห่งกับที่แจ้งบนฉลาก ซึ่งการกระทำเช่นนี้ผิดกฎหมายในการนำฉลากของบริษัทอื่นมาใช้ เพื่อลวงให้ประชาชนเชื่อว่ายา WELL101 ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยาแล้ว และการนำยาแผนปัจจุบันมาใช้ในการผลิตยาแผนโบราณ อาจเข้าข่ายผลิตยาปลอม อีกทั้ง ห้างหุ้นส่วนจำกัด ธนัทเฮิร์บ ได้รับอนุญาตให้ผลิตยาแผนโบราณ แต่ไม่พบการขออนุญาตผลิตยา WELL101 และสถานที่ผลิตยังไม่ได้รับอนุญาตให้ผลิตยาแผนปัจจุบัน
“ตามปกติยาซิลเดนาฟิลจะไม่ให้รับประทานเกิน 1 เม็ดต่อวัน เพราะมีอันตรายต่อหัวใจ การที่ผสมทั้งยาแผนโบราณและยาแผนปัจจุบันตัวนี้ในแคปซูลเดียวกันและระบุฉลากไม่ถูกต้อง ทำให้ไม่สามารถรู้ได้ว่าผู้ที่รับประทานได้รับยาไปในปริมาณเท่าไร จึงมีอันตรายมากโดยเฉพาะสำหรับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจ ทำให้เสียชีวิตได้” เลาขาฯ อย.กล่าว
พ.ต.อ.ล้ำพันธุ์ พรรธนประเทศ ผกก.4 บก.ปคบ.กล่าวว่า ส่วนของการดำเนินคดี ในเบื้องต้นได้แจ้งข้อหา ดังนี้ 1.ผลิตยาแผนโบราณ ใช้ฉลากและเอกสารกำกับยาไม่ตรงตามที่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยาไว้ ตามมาตรา 57(3) มีโทษปรับตั้งแต่ 1,000-5,000 บาท 2.ผลิตยาที่มิได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา ตามมาตรา 72(4) มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำ ทั้งปรับ 3.ผู้รับอนุญาตผลิตยาแผนโบราณต้องมีผู้ประกอบโรคศิลปะแผนโบราณเป็นผู้มีหน้าที่ ปฏิบัติการตามมาตรา 68 ตามที่กำหนดในกฎกระทรวง หากผู้รับอนุญาตใดไม่ปฏิบัติตาม มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 2,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ปรับเป็นรายวันอีกวันละหนึ่งร้อยบาทจนกว่าจะปฏิบัติให้ถูกต้อง
4.ผู้ประกอบโรคศิลปะแผนโบราณผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา 68 คือ ไม่ประจำอยู่ ณ สถานที่ผลิตยาตลอดเวลาที่เปิดทำการ มีโทษปรับตั้งแต่ 500-2,000 บาท 5.นำเข้าเครื่องสำอางโดยไม่ผ่านการจดแจ้งกับ อย.มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และ 6.ขายเครื่องสำอางที่แสดงฉลากไม่ถูกต้อง มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ ถ้ากระทำโดยประมาท มีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท
ด้าน ภญ.ศรีนวล กรกชกร รองเลขาธิการ อย. กล่าวว่า โรงงานดังกล่าวอย.ได้สั่งปิดชั่วคราวเป็นเวลา 120 วัน จนกว่าจะมีการดำเนินการให้ถูกต้อง ส่วนการดำเนินการกับโฆษณายาและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารผ่านเคเบิลทีวีและอินเทอร์เน็ตนั้น อย.ได้รับเรื่องร้องเรียน 100 กรณีต่อเดือน และเฝ้าระวังโดย อย.800-1,000 กรณีต่อเดือน ซึ่งพบว่าเกือบทั้งหมดเป็นโฆษณาผิดกฎหมาย ฐานโฆษณาโดยไม่ได้รับอนุญาตและอวดอ้างสรรพคุณเกินจริง ส่วนใหญ่เป็นการอวดอ้างสรรพคุณเสริมสมรรถภาพทางเพศและลดความอ้วน ในส่วนของเคเบิลที่มีความผิด อย.จะดำเนินคดีตามกฎหมาย หากยังพบความผิดซ้ำจะส่งเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) พิจารณาการต่อใบอนุญาต สำหรับอินเทอร์เน็ตจะแจ้งเรื่องให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ปิดเว็บไซต์ทันที แต่ปรากฏว่าเมื่อปิดไม่นานก็มีการเปิดอีกครั้ง
