ศธ.จัดงานวันเด็กแห่งชาติ 12 ม.ค.นี้ เน้นเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ ควบคู่ไปกับความสนุก
วันนี้ (7 ม.ค.) ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวระหว่างเป็นประธานแถลงข่าวการจัดงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2556 ว่า กระทรวงศึกษาธิการ ได้เห็นถึงความสำคัญในการพัฒนาเด็กและเยาวชนที่กำลังเติบโตเป็นอนาคตของชาติอย่างมีคุณภาพ เน้นความสำคัญของเด็กในการปลูกฟังความมีน้ำใจโอบอ้อมอารี และความซื่อสัตย์ เพื่อในอนาคตเด็กจะเป็นกำลังหลักสำคัญของชาติในการพัฒนาประเทศ จึงได้จัดงานวันเด็กแห่งชาติขึ้นครั้งแรกปี 2498 และได้จัดติดต่อกันมาทุกปีซึ่งปีนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 56 ภายใต้คำขวัญว่า “รักษาวินัย ใฝ่เรียนรู้ เพิ่มพูนปัญญา นำพาไทยสู่อาเซียน” และรูปแบบการจัดงานในคอนเซ็ปต์ “การแนะนำอย่างสร้างสรรค์” หรือADVICE ซึ่งมาจาก A: ASEAN, D:Democracy, V: Volunteer, I: Innovation, C: Culture และ E: Energy
นายพงศ์เทพ กล่าวต่อว่า สำหรับกิจกรรมหลัก ประกอบไปด้วย 1.การนำเด็กและเยาวชนดีเด่นและนำชื่อเสียงมาสู่ประเทศ ประจำปี 2556 รับโล่รางวัลและรับโอวาทจากนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 9 มกราคม 2556 ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เวลา 09.00 น.สำหรับปีนี้มีเด็กและเยาวชนได้รับการพิจารณาคัดเลือกจำนวน 728 คน เป็นเด็กและเยาวชนดีเด่นจำนวน 501 คน เด็กและเยาวชนที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติจำนวน 227 คน และกิจกรรมพิธีเปิดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติในวันที่ 12 มกราคม 2556 ณ สนามเสือป่า ระหว่างเวลา 08.00-17.00 น.โดยมี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดงาน ซึ่งกิจกรรมที่จัดขึ้นประกอบไปด้วย 6 เรื่องหลักคือ จิตอาสา ประชาธิปไตย ศิลปวัฒนธรรม นวัตกรรม พลังงาน และการก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน 2015 โดยมี 4 ส.ในการจัดกิจกรรม คือ สนุก สาระ สร้างสรรค์ ส่วนร่วม
ด้าน นางพนิตา กำภู ณ อยุธยา ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า การจัดกิจกรรมวันเด็กในปีนี้แบ่งออกเป็น 3 โซน ได้แก่ โซน1กิจกรรมหลัก (Edutainment Zone) ประกอบด้วย เวทีกิจกรรม 5 เวที คือ เวทีกลาง เช่น การเล่านิทานอาเซียน มายากล เวทีประชาธิปไตย เช่น กิจกรรมส่งเสริมประชาธิปไตย การแข่งขันตอบคำถามชิงรางวัล เวทีจิตอาสา เช่น การให้ความรู้เรื่องวิธีการลดโลกร้อน การปลูกต้นไม้ เวทีนวัตกรรม เช่น กิจกรรมที่สอดแทรกเรื่องราวของนวัตกรรมและเทคโนโลยี เวทีวัฒนธรรม เช่น การจัดแสดงสวนพลังงานทางเลือกขนาดใหญ่ที่สวยงามเพื่อให้รู้จักพืชที่นำมาเป็นพลังงานทดแทนได้ โซนที่ 2 สนุก (Activities Fun park Zone) ซึ่งมีไฮไลต์เป็นโดมลูกโป่งหิมะขนาดใหญ่ ในโดมมีลูกโป่งประดิษฐ์เป็นรูปต่างๆ พร้อมมีเครื่องทำหิมะเทียมให้เด็กๆ โซนที่ 3 อาเซียน (ASEAN Zone) เป็นการจัดแสดงนิทรรศการวิถีชีวิตและกิจกรรมต่างๆ ของอาเซียน นอกจากนี้ยังมีหน่วยงานภาครัฐและเอกชนร่วมจัดกิจกรรมภายในงานกว่า 100 หน่วยงาน เพื่อเล่นเกม และแจกของขวัญนับแสนชิ้น พร้อมทั้งลุ้นรับรางวัลใหญ่ตั๋วเครื่องบินพร้อมโปรแกรมทัวร์ กรุงเทพฯ-ภูเก็ต และ กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ จำนวน 3 รางวัล รางวัลละ 3 ที่นั่ง
ทั้งนี้ ทางสถานีตำรวจนครบาลดุสิต ได้บริการจัดจุดจอดรถไว้อำนวยความสะดวกแก่ผู้ปกครองที่พาบุตรหลานมาร่วมงานไว้ 5 แห่งคือ บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า ถนนศรีอยุธยา บริเวณข้างสวนอัมพร ถนนราชดำเนินฝั่งด้านนอกติดกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล ถนนพิษณุโลก บริเวณด้านหลังกองบัญชาการตำรวจนครบาล และถนนนครปฐม บริเวณวัดเบญจมบพิตร