นายกฯ ให้โอวาท 728 เยาวชนสร้างชื่อเสียงให้แก่ชาติ เนื่องในวันเด็ก โถ...สั่งสอนเด็กให้เข้มวินัย เผยจัดกิจกรรมที่ทำเนียบเพียบ พร้อมขอกตัญญูรู้คุณ ร่วมสร้างสรรค์สิ่งที่ดี ยันรัฐพร้อมเปิดพื้นที่ให้ได้แสดงออก ให้การศึกษาเท่าเทียมกัน สั่ง ศธ.ให้ครูสอนเน้นเด็กมีส่วนร่วม แนะเล่นการเมืองอย่างสร้างสรรค์ ปลูกฝังค่านิยมในสิ่งที่ถูก
วันนี้ (9 ม.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานกล่าวให้โอวาทเด็กและเยาวชนดีเด่นที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศไทย จำนวน 728 คน ที่ได้รับคัดเลือกจากทั่วประเทศ เนื่องในวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2556 จัดโดยกระทรวงศึกษาธิการ ผู้ร่วมงานประกอบด้วย นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นางพนิดา กำภู ณ อยุธยา ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ คณะผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ ตลอดจนผู้ปกครอง และครูอาจารย์
โดยนายพงศ์เทพกล่าวถึงวัตถุประสงค์การจัดงานครั้งนี้ว่า เนื่องในโอกาสวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2556 ได้นำเด็กและเยาวชนที่ได้รับคัดเลือกจากสังกัดทั่วประเทศเข้ารับโล่รางวัล จำนวน 728 คน พร้อมเข้าเยี่ยมคารวะและรับโอวาทจากนายกรัฐมนตรี ซึ่งเด็กและเยาวชนดีเด่นที่ได้รับการคัดเลือกจากส่วนราชการ 17 หน่วยงาน และหน่วยงานเอกชนต่างๆ แบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ เป็นผู้ซื่อสัตย์ ขยัน ประหยัด เรียนดี มีความประพฤติดี ช่วยเหลือสังคม หาเลี้ยงชีพด้วยตนเอง จำนวน 501 คน ส่วนที่สอง เด็กและเยาวชนที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติใน 5 ด้าน ซึ่งได้รับการคัดเลือกจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 227 คน เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้เด็กและเยาวชนได้กระทำความดีในด้านต่างๆ พร้อมเป็นแบบอย่างที่ดีแก่เด็กและเยาวชนในอนาคต และเพื่อเป็นขวัญกำลังใจและกระตุ้นให้เด็กและเยาวชนได้ตระหนักถึงบทบาทอันสำคัญของตนเอง ตลอดจนปลูกฝังให้มีส่วนร่วมในสังคม เป็นกำลังสำคัญของชาติ และเตรียมพร้อมเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียน
ขณะที่นายกรัฐมนตรีได้กล่าวให้โอวาทแก่เด็กและเยาวชนว่า สำหรับเด็กและเยาวชนที่ได้รับคัดเลือกในวันนี้ ถือเป็นผู้ที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ ซึ่งการที่จะเป็นเยาวชนดีเด่นนั้น ไม่ใช่แค่การเรียนเก่งเพียงอย่างเดียว แต่ต้องได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ที่มีความประพฤติดี ปฏิบัติดี อยู่ในระเบียบวินัย มีความกตัญญู โดยเด็กและเยาวชนที่ได้รับการคัดเลือกในครั้งนี้ เป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ ถือเป็นแบบอย่างที่ดีของเด็กและเยาวชนในอนาคต ซึ่งเป็นการแสดงออกในด้านที่ถูกต้อง และเป็นที่ยอมรับจากทั่วประเทศ หากเยาวชนมีความคิดที่ดี ขยันหมั่นเพียร ตั้งใจศึกษาหาความรู้ ก็จะเป็นกำลังสำคัญให้กับประเทศชาติในการพัฒนาประเทศ
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า เนื่องในวันเด็กแห่งชาติที่จะมาถึงในวันเสาร์ที่ 12 มกราคมนี้ จากคำขวัญวันเด็กแห่งชาติปีนี้ ที่ว่า “รักษาวินัย ใฝ่เรียนรู้ เพิ่มพูนปัญญา นำพาไทยสู่อาเซียน” คำว่าวินัย ถือเป็นเรื่องที่สำคัญเป็นอย่างมาก การมีวินัยต่อตัวเอง ครอบครัว และสังคม เพราะถือเป็นจุดเริ่มต้นของหน้าที่ที่เราทุกคนต้องปฏิบัติ เพื่อเป็นกำลังสำคัญของประเทศ เพื่อร่วมกันสร้างสรรค์สิ่งที่ดีๆ เป็นความหวังให้กับประเทศต่อไป
จากนั้นเมื่อเวลา 09.30 น. นายกรัฐมนตรีได้ให้สัมภาษณ์ถึงงานวันเด็กแห่งชาติ 12 มกราคมนี้ว่า ที่ทำเนียบรัฐบาลจัดกิจกรรมหลายอย่าง โดยวันเด็กปีนี้อยากฝากถึงเด็กและเยาวชนทุกคนตามคำขวัญที่ว่า “รักษาวินัย ใฝ่เรียนรู้ เพิ่มพูนปัญญา นำพาไทยสู่อาเซียน” อยากให้เด็กตั้งใจเรียนหนังสือรักษาวินัยของตนเอง และอยากฝากเด็กและเยาวชนเรื่องความกตัญญูรู้คุณ โดยเฉพาะผู้มีพระคุณคือ คุณพ่อคุณแม่ และครูซึ่งถือเป็นบุคคลสำคัญที่คอยดูแล พร้อมกันนี้ขอส่งกำลังใจให้เด็กและเยาวชน ทุกคนที่จะร่วมกันสร้างสรรค์สิ่งที่ดีๆ เพื่อนำพาความเข้มแข็งมาให้กับประเทศไทยต่อไป ซึ่งทุกคนเป็นความหวังของประเทศ และคุณพ่อคุณแม่ ที่อยากเห็นเยาวชนของเราเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีและมีความสามารถ
เมื่อถามว่า นโยบายที่รัฐบาลจะทำให้เด็กเติบโตอย่างมีคุณภาพวางไว้อย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ในส่วนของรัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนเยาวชนให้เกิดโอกาสในการแสดงออก เพราะไม่ว่าพื้นที่ไหนจังหวัดไหนเราพบว่าเยาวชนมีความรู้ความสามารถ เพียงแต่ต้องได้รับโอกาสเรียนรู้เนื้อหาอย่างครบถ้วน นั่นคือสิ่งที่รัฐบาลพยายามจะให้โอกาสเรื่องการศึกษาแก่เยาวชนให้เกิดความเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะอยู่ในชนบทหรือเมืองกรุง และสิ่งที่ต้องเสริมคือเรื่องของเนื้อหาการเรียนการสอน ที่เป็นในเชิงการให้เด็กได้คิดมากกว่า เป็นการป้อนให้เด็กเยาวชนอย่างดี เด็กต้องได้คิด ได้เรียนรู้โดยเสริมบทเรียนนอกห้องเรียนให้รู้จักปฎิบัติจะทำให้เกิดความเข้าใจ อันนี้เป็นสิ่งที่ฝากย้ำทางกระทรวงศึกษาธิการ เน้นวิธีการเรียนการสอนให้เด็กมีส่วนร่วมในการเรียน ขณะที่ภาครัฐหรือภาคธุรกิจหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเปิดให้เด็กได้แสดงออกในสิ่งที่ถูกต้อง
เมื่อถามว่า ส่วนหนึ่งที่เด็กสะท้อนและอยากเห็นคืออยากให้นักการเมืองและผู้ใหญ่ในบ้านเมือง เกิดความสามัคคี ตรงนี้สะท้อนให้เห็นว่าเด็กสนใจเรื่องบ้านเมืองที่เขากำลังจับตา น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ต้องบอกว่าวันนี้เด็กและเยาวชนเราเรียนรู้ได้เร็วมากตั้งแต่เด็กๆ ดังนั้นอยากเห็นสังคมไทยเป็นสังคมที่สร้างสรรค์ และการเมืองควรจะเป็นการเมืองที่สร้างสรรค์ เพื่อให้เด็กเราได้เรียนรู้ในสิ่งที่ถูกต้อง และการปลูกฝังค่านิยมให้กับเด็กและเยาวชนก็อยากเห็นสิ่งที่ถูกต้อง เพื่อไม่ให้เด็กเข้าใจไปในทางใดทางหนึ่ง ทั้งนี้อยากให้เด็กได้พิจารณาทั้งสองด้านโดยใชช้วิจารณญาณในการตัดสินและค่อยๆ คิดทำความเข้าใจกับสิ่งต่างๆ รอบตัว