“พงศ์เทพ” สั่งเบรก แนวคิดระบบบัตรเดบิตจ่ายค่าชุด นร.และอุปกรณ์การเรียน ชี้ ยังไม่จำเป็นและเรื่องไม่เร่งด่วน ระบุ หากทำต้องรอบคอบ เพราะเป็นการเปลี่ยนพฤติกรรมผู้ปกครอง
นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยภายหลังเข้าพบ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เพื่อหารือถึงเรื่องที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) มีแนวคิดจัดสรรงบประมาณโครงการเรียนฟรี เรียนดี 15 ปีอย่างมีคุณภาพ ให้นักเรียนในสังกัดผ่านทางระบบบัตรเดบิต (Debit Card) หรือบัตรสมาร์ทเพิร์ส (Smart Purse) เพื่อให้ผู้ปกครองนำไปซื้อเครื่องแบบนักเรียนและอุปกรณ์การเรียน ในวงเงิน 800 บาทต่อคนต่อปี ซึ่งตามโครงการเรียนฟรีฯ จะจัดสรรเป็นเงินสดให้ผู้ปกครองนำไปใช้จ่ายเอง ว่า ในการหารือใช้เวลาค่อนข้างนาน เพราะมีการวิเคราะห์ข้อดี ข้อเสีย ความจำเป็นในการดำเนินการ แต่ท้ายที่สุด นายพงศ์เทพ เห็นว่า ควรชะลอเรื่องดังกล่าวไว้ก่อน เพราะยังไม่มีเหตุผลและความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องพิจารณาปรับเปลี่ยนระบบการบริการจัดการที่ทำไว้อยู่เดิม พร้อมย้ำให้ สพฐ.เร่งดำเนินงานตามนโยบายเร่งด่วนที่ รมว.ศึกษาธิการ ได้มอบให้ตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่ง
“รมว.ศึกษาธิการ มองว่า สิ่งที่ทำอยู่ที่ผ่านมา คือ การจ่ายเงินสด และให้ผู้ปกครองนำไปซื้อเครื่องแบบนักเรียนและอุปกรณ์การเรียนเองตามความต้องการ ซึ่งถือเป็นการสร้างความเคยชินให้กับผู้ปกครองและนักเรียนแล้ว ซึ่งหากจะเปลี่ยนมาใช้ระบบเดบิต หมายถึงจะนำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้ปกครองและนักเรียน ซึ่งอาจจะเกิดปัญหาและความไม่สะดวกได้ ดังนั้นถ้าจะทำก็จะต้องพิจารณาให้รอบคอบและเตรียมการรองรับให้พร้อมด้วย ดังนั้นเมื่อไม่ใช่เรื่องเร่งด่สนจึงให้ชะลอไปก่อน” เลขาธิการ กพฐ.กล่าว
นายชินภัทร กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ หากจะมีการปรับเปลี่ยนไปนั้น ต้องพิจารณาดูด้วยว่าเกิดปัญหาในการดำเนินการ เช่น หน่วยงานที่ทำการติดตามการใช้งบประมาณและการประเมินผลการดำเนินการโครงการ ได้มีข้อทักท้วง หรือมีรายงานว่าที่ทำอยู่นั้นไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ก็อาจจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่จะต้องพิจารณาปรับเปลี่ยนในอนาคต แต่ตอนนี้ไม่ได้มีสัญญาณใดบ่งบอกปัญหา
นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยภายหลังเข้าพบ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เพื่อหารือถึงเรื่องที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) มีแนวคิดจัดสรรงบประมาณโครงการเรียนฟรี เรียนดี 15 ปีอย่างมีคุณภาพ ให้นักเรียนในสังกัดผ่านทางระบบบัตรเดบิต (Debit Card) หรือบัตรสมาร์ทเพิร์ส (Smart Purse) เพื่อให้ผู้ปกครองนำไปซื้อเครื่องแบบนักเรียนและอุปกรณ์การเรียน ในวงเงิน 800 บาทต่อคนต่อปี ซึ่งตามโครงการเรียนฟรีฯ จะจัดสรรเป็นเงินสดให้ผู้ปกครองนำไปใช้จ่ายเอง ว่า ในการหารือใช้เวลาค่อนข้างนาน เพราะมีการวิเคราะห์ข้อดี ข้อเสีย ความจำเป็นในการดำเนินการ แต่ท้ายที่สุด นายพงศ์เทพ เห็นว่า ควรชะลอเรื่องดังกล่าวไว้ก่อน เพราะยังไม่มีเหตุผลและความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องพิจารณาปรับเปลี่ยนระบบการบริการจัดการที่ทำไว้อยู่เดิม พร้อมย้ำให้ สพฐ.เร่งดำเนินงานตามนโยบายเร่งด่วนที่ รมว.ศึกษาธิการ ได้มอบให้ตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่ง
“รมว.ศึกษาธิการ มองว่า สิ่งที่ทำอยู่ที่ผ่านมา คือ การจ่ายเงินสด และให้ผู้ปกครองนำไปซื้อเครื่องแบบนักเรียนและอุปกรณ์การเรียนเองตามความต้องการ ซึ่งถือเป็นการสร้างความเคยชินให้กับผู้ปกครองและนักเรียนแล้ว ซึ่งหากจะเปลี่ยนมาใช้ระบบเดบิต หมายถึงจะนำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้ปกครองและนักเรียน ซึ่งอาจจะเกิดปัญหาและความไม่สะดวกได้ ดังนั้นถ้าจะทำก็จะต้องพิจารณาให้รอบคอบและเตรียมการรองรับให้พร้อมด้วย ดังนั้นเมื่อไม่ใช่เรื่องเร่งด่สนจึงให้ชะลอไปก่อน” เลขาธิการ กพฐ.กล่าว
นายชินภัทร กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ หากจะมีการปรับเปลี่ยนไปนั้น ต้องพิจารณาดูด้วยว่าเกิดปัญหาในการดำเนินการ เช่น หน่วยงานที่ทำการติดตามการใช้งบประมาณและการประเมินผลการดำเนินการโครงการ ได้มีข้อทักท้วง หรือมีรายงานว่าที่ทำอยู่นั้นไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ก็อาจจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่จะต้องพิจารณาปรับเปลี่ยนในอนาคต แต่ตอนนี้ไม่ได้มีสัญญาณใดบ่งบอกปัญหา
