“หมอสมาน” สวนกลับ อธิบดีกรมอุทยานฯ ห้ามดื่มเหล้าในอุทยานฯ เหตุผิด กม.2 ฉบับ ระบุ กม.เปิดช่องยกเว้นสำหรับเจ้าหน้าที่อุทยานดื่มได้ในบ้านพักส่วนตัว แต่บ้านพักนักท่องเที่ยว เต็นท์ ที่ให้บริการพักไม่รวมด้วย ชี้ ตาม พ.ร.บ.อุทยานฯ ห้ามนำเครื่องดื่มมึนเมาเข้ามาอยู่แล้ว เช่นนี้ก็ถือว่าผิดแต่ต้น ทั้ง จนท.และนักท่องเที่ยว
กรณี นายมโนพัศ หัวเมืองแก้ว อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช ประกาศชัดให้นักท่องเที่ยวสามารถนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้ามาภายในอุทยานแห่งชาติ ได้ แม้จะมีกฎระเบียบห้ามนำเข้าก็ตาม โดยขอให้ดื่มได้เฉพาะในบ้านพักนั้น
วันนี้ (26 ธ.ค.) นพ.สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ว่า กรมอุทยานฯ มีประกาศสำนักนายกตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 ว่าด้วยห้ามนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปภายในอุทยานแห่งชาติ หากฝ่าฝืนมีความผิดจำคุก 1 เดือน และปรับ 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งหมายความว่า เป็นกฎหมายตั้งแต่ต้น การจะอนุญาตให้ดื่มย่อมทำไม่ได้ เพราะมีกฎหมายอยู่แล้ว หากจะทำต้องแก้กฎหมายใหม่ ซึ่งหากเจ้าหน้าที่ไม่ดำเนินการจับกุมผู้กระทำผิด ย่อมมีความผิดตามมาตรา 157 ประมวลกฎหมายอาญา ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ มีโทษจำคุก 1-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งนี้ นอกจากความผิดตามกฎระเบียบของกรมอุทยานฯ แล้ว ยังมีความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอกลอฮอล์ พ.ศ.2551 ว่าด้วยการห้ามจำหน่ายห้ามดื่มในสถานที่ต้องห้าม ซึ่งในที่นี้ คือ สวนสาธารณะของทางราชการ กล่าวคือ อุทยานแห่งชาติ จัดเป็นหน่วยงานของรัฐ โดยได้ทำการจัดสถานที่ให้นักท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ มีการเปิดพื้นที่ให้กางเต็นท์ เปิดสถานที่พวกน้ำตกให้นักท่องเที่ยวได้เล่นน้ำ ฯลฯ ดังนั้น จึงถือว่าเข้าข่ายการควบคุมตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฯ โดยหากมีการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะมีความผิดตามมาตรา 27 และหากมีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในพื้นที่สาธารณะของราชการจะมีความผิดตามมาตรา 31 โดยทั้งหมดมีโทษจำคุก 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
“เว้นแต่บ้านพักของเจ้าหน้าที่ที่ตั้งอยู่ภายในอุทยานฯ จะอนุญาตให้ดื่มได้ เนื่องจากระเบียบตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฯ ระบุชัดว่า หากเป็นสถานที่ราชการให้ดื่มได้ในบ้านพักส่วนบุคคล คือ เจ้าหน้าที่ ซึ่งในส่วนของสำนักงานอุทยานฯ จะดื่มได้เฉพาะบ้านพักเจ้าหน้าที่ แต่หากเป็นบ้านพักนักท่องเที่ยวที่กรมอุทยานฯ เปิดบริการให้เช่าพักนั้น ไม่รวมอยู่ด้วย” นพ.สมาน กล่าวและว่า เนื่องจากการจัดบ้านพักสำหรับนักท่องเที่ยว ไม่ถือว่าเป็นบ้านพักส่วนบุคคล จึงไม่อยู่ในข้อยกเว้น แต่ในข้อเท็จจริงไม่ว่าจะเป็นที่ใดก็ตาม ถือว่าผิดตั้งแต่ต้น เนื่องจากตามระเบียบ พ.ร.บ.อุทยานฯ ได้ห้ามนำเข้ามาภายในอุทยานฯอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวหรือเจ้าหน้าที่
