ประท้วงอีก! กลุ่มเจ้าพนักงานเวชสถิติและโสตทัศนศึกษาทางการแพทย์รวมตัวบุก สธ.ร้องขอแบ่งเค้กบรรจุเป็น ขรก.ร่วมกับ 21 สาขาวิชาชีพ อ้างเป็นกำลังคนที่ สธ.ผลิตเอง แถมค้างบรรจุตั้งแต่ปี 2549 แต่ไม่ได้บรรจุเป็น ขรก. ด้าน “หมอสุพรรณ” เผยหากมีตำแหน่งว่างก็จะดูแลให้ครอบคลุมแน่ แต่ไม่ปะปนกับ 21 สาขาวิชาชีพตามมติ ครม.
วันนี้ (13 ธ.ค.) ที่อาคารสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กลุ่มเจ้าพนักงานเวชสถิติและเจ้าพนักงานโสตทัศนศึกษาทางการแพทย์ กว่า 100 ชีวิต เดินทางมาเรียกร้องต่อกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เพื่อขอให้เพิ่ม 2 วิชาชีพดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งในการแบ่งสัดส่วนผู้ที่จะได้รับบรรจุเป็นข้าราชการด้วย จาก 21 สาขาวิชาชีพเป็น 23 สาขาวิชาชีพ โดยได้เข้าพบและยื่นเรื่องต่อ นพ.สมควร หาญพัฒนชัยกูร ผู้อำนวยการสถาบันพระบรมราชชนก
นายวินัย สุภาพจน์ เจ้าพนักงานเวชสถิติ โรงพยาบาลเสนา จ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า จากมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่เห็นชอบการบรรจุลูกจ้างชั่วคราวกระทรวงสาธารณสุข 21 สาขาวิชาชีพเป็นข้าราชการจำนวน 22,641 อัตรา จากทั้งหมด 30,188 คน เฉลี่ยปีละ 7,547 อัตราจนครบ 3 ปี ส่วนที่เหลือระหว่างรอการบรรจุจะเปลี่ยนสถานะเป็นพนักงานกระทรวงสาธารณสุข (พนักงาน กสธ.) นั้น ใน 21 สาขาวิชาชีพดังกล่าวไม่ได้รวมกลุ่มเจ้าพนักงานเวชสถิติและเจ้าพนักงานโสตทัศนศึกษาทางการแพทย์แต่อย่างใด ทั้งที่เป็นวิชาชีพที่ สธ.ผลิตเอง โดยมีสถาบันพระบรมราชชนกเป็นเจ้าภาพหลักในการผลิตกำลังคน ซึ่งถือว่าไม่ยุติธรรมต่อ 2 กลุ่มวิชาชีพ
นายวินัยกล่าวอีกว่า สิ่งที่กลุ่มพนักงาน 2 สาขาวิชาชีพนี้เรียกร้องคือ ต้องการให้ สธ.นำ 2 สาขาวิชาชีพนี้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในการแบ่งสัดส่วนการบรรจุเป็นข้าราชการร่วมกับ 21 สาขาวิชาชีพด้วย เนื่องจากมีการค้างบรรจุเป็นข้าราชการมาตั้งแต่ปี 2549 เหมือนพยาบาลเช่นกัน โดยขณะนี้มีสถานะเป็นลูกจ้างชั่วคราว ทั้งที่เป็นเจ้าพนักงานซึ่งถูกผลิตโดย สธ. นอกจากนี้ ยังขอให้มีตัวแทนจาก 2 สาขาวิชาชีพดังกล่าวเข้าไปมีส่วนร่วมในการกำหนดความเหมาะสมของการแบ่งสัดส่วนการบรรจุเป็นข้าราชการและการกำหนดสิทธิประโยชน์ของการปรับสถานะเป็นพนักงาน กสธ.
“เดิมทีเมื่อปี 2553 สธ.เคยจัดกลุ่มเจ้าพนักงาน 2 สายงานนี้อยู่ในกลุ่มวิชาชีพ เพราะเป็นบุคลากรที่ผลิตโดยสถาบันพระบรมราชชนก ซึ่งสังกัด สธ. และยังเป็นนักเรียนทุน จึงควรได้รับการจัดกลุ่มเป็นสายวิชาชีพ แต่พอมีการจำกัดกำลังอัตราข้าราชการ สธ. กลับแยกเจ้าพนักงานเวชสถิติและเจ้าพนักงานโสตทัศนศึกษาทางการแพทย์ออก ซึ่งถือว่าไม่ยุติธรรม อย่างไรก็ตาม สำหรับเจ้าพนักงานเวชสถิติขณะนี้ที่รอบรรจุมีอยู่ 500 คน ส่วนเจ้าพนักงานโสตทัศนศึกษาทางการแพทย์รอบรรจุ 280 คน การเรียกร้องครั้งนี้ไม่ได้หวังมาก แต่แค่ต้องการแสดงให้เห็นว่า 2 วิชาชีพยังมีตัวตน และควรอยู่ในสายวิชาชีพเช่นกัน” นายวินัยกล่าว
นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา รองปลัด สธ. กล่าวว่า การแบ่งสัดส่วนการบรรจุข้าราชการต้องดำเนินการตามมติ ครม. คือ 21 สาขาวิชาชีพ แต่ สธ.ขอยืนยันว่าสาขาวิชาชีพอื่นเราก็จะดูแลให้ครอบคลุมเช่นกัน โดยอาจดูตามความเหมาะสม โดยใช้ตำแหน่งที่ว่างในการดูแลให้ได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการ แต่จะไม่ไปปะปนกับการแบ่งสัดส่วนของ 21 สาขาวิชาชีพแต่อย่างใด โดยลูกจ้างชั่วคราวที่ยังไม่ได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการก็จะยกสถานะให้เป็นพนักงาน กสธ.ไปก่อน
“ขอให้ทุกสาขาวิชาชีพอย่าน้อยใจ ไม่จำเป็นต้องมาประท้วง เพราะ สธ.จะดูแลทุกสาขาวิชาชีพให้ครอบคลุมอย่างแน่นอน แต่ต้องเข้าใจด้วยว่าหากมีตำแหน่งในการบรรจุน้อยก็ได้น้อย มีตำแหน่งมากก็ได้มาก แต่จะให้ความเป็นธรรมแก่ทุกสาขาวิชาชีพแน่นอน ดูแลให้ครอบคลุมอย่างแน่นอน” รองปลัด สธ.กล่าว
วันนี้ (13 ธ.ค.) ที่อาคารสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กลุ่มเจ้าพนักงานเวชสถิติและเจ้าพนักงานโสตทัศนศึกษาทางการแพทย์ กว่า 100 ชีวิต เดินทางมาเรียกร้องต่อกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เพื่อขอให้เพิ่ม 2 วิชาชีพดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งในการแบ่งสัดส่วนผู้ที่จะได้รับบรรจุเป็นข้าราชการด้วย จาก 21 สาขาวิชาชีพเป็น 23 สาขาวิชาชีพ โดยได้เข้าพบและยื่นเรื่องต่อ นพ.สมควร หาญพัฒนชัยกูร ผู้อำนวยการสถาบันพระบรมราชชนก
นายวินัย สุภาพจน์ เจ้าพนักงานเวชสถิติ โรงพยาบาลเสนา จ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า จากมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่เห็นชอบการบรรจุลูกจ้างชั่วคราวกระทรวงสาธารณสุข 21 สาขาวิชาชีพเป็นข้าราชการจำนวน 22,641 อัตรา จากทั้งหมด 30,188 คน เฉลี่ยปีละ 7,547 อัตราจนครบ 3 ปี ส่วนที่เหลือระหว่างรอการบรรจุจะเปลี่ยนสถานะเป็นพนักงานกระทรวงสาธารณสุข (พนักงาน กสธ.) นั้น ใน 21 สาขาวิชาชีพดังกล่าวไม่ได้รวมกลุ่มเจ้าพนักงานเวชสถิติและเจ้าพนักงานโสตทัศนศึกษาทางการแพทย์แต่อย่างใด ทั้งที่เป็นวิชาชีพที่ สธ.ผลิตเอง โดยมีสถาบันพระบรมราชชนกเป็นเจ้าภาพหลักในการผลิตกำลังคน ซึ่งถือว่าไม่ยุติธรรมต่อ 2 กลุ่มวิชาชีพ
นายวินัยกล่าวอีกว่า สิ่งที่กลุ่มพนักงาน 2 สาขาวิชาชีพนี้เรียกร้องคือ ต้องการให้ สธ.นำ 2 สาขาวิชาชีพนี้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในการแบ่งสัดส่วนการบรรจุเป็นข้าราชการร่วมกับ 21 สาขาวิชาชีพด้วย เนื่องจากมีการค้างบรรจุเป็นข้าราชการมาตั้งแต่ปี 2549 เหมือนพยาบาลเช่นกัน โดยขณะนี้มีสถานะเป็นลูกจ้างชั่วคราว ทั้งที่เป็นเจ้าพนักงานซึ่งถูกผลิตโดย สธ. นอกจากนี้ ยังขอให้มีตัวแทนจาก 2 สาขาวิชาชีพดังกล่าวเข้าไปมีส่วนร่วมในการกำหนดความเหมาะสมของการแบ่งสัดส่วนการบรรจุเป็นข้าราชการและการกำหนดสิทธิประโยชน์ของการปรับสถานะเป็นพนักงาน กสธ.
“เดิมทีเมื่อปี 2553 สธ.เคยจัดกลุ่มเจ้าพนักงาน 2 สายงานนี้อยู่ในกลุ่มวิชาชีพ เพราะเป็นบุคลากรที่ผลิตโดยสถาบันพระบรมราชชนก ซึ่งสังกัด สธ. และยังเป็นนักเรียนทุน จึงควรได้รับการจัดกลุ่มเป็นสายวิชาชีพ แต่พอมีการจำกัดกำลังอัตราข้าราชการ สธ. กลับแยกเจ้าพนักงานเวชสถิติและเจ้าพนักงานโสตทัศนศึกษาทางการแพทย์ออก ซึ่งถือว่าไม่ยุติธรรม อย่างไรก็ตาม สำหรับเจ้าพนักงานเวชสถิติขณะนี้ที่รอบรรจุมีอยู่ 500 คน ส่วนเจ้าพนักงานโสตทัศนศึกษาทางการแพทย์รอบรรจุ 280 คน การเรียกร้องครั้งนี้ไม่ได้หวังมาก แต่แค่ต้องการแสดงให้เห็นว่า 2 วิชาชีพยังมีตัวตน และควรอยู่ในสายวิชาชีพเช่นกัน” นายวินัยกล่าว
นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา รองปลัด สธ. กล่าวว่า การแบ่งสัดส่วนการบรรจุข้าราชการต้องดำเนินการตามมติ ครม. คือ 21 สาขาวิชาชีพ แต่ สธ.ขอยืนยันว่าสาขาวิชาชีพอื่นเราก็จะดูแลให้ครอบคลุมเช่นกัน โดยอาจดูตามความเหมาะสม โดยใช้ตำแหน่งที่ว่างในการดูแลให้ได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการ แต่จะไม่ไปปะปนกับการแบ่งสัดส่วนของ 21 สาขาวิชาชีพแต่อย่างใด โดยลูกจ้างชั่วคราวที่ยังไม่ได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการก็จะยกสถานะให้เป็นพนักงาน กสธ.ไปก่อน
“ขอให้ทุกสาขาวิชาชีพอย่าน้อยใจ ไม่จำเป็นต้องมาประท้วง เพราะ สธ.จะดูแลทุกสาขาวิชาชีพให้ครอบคลุมอย่างแน่นอน แต่ต้องเข้าใจด้วยว่าหากมีตำแหน่งในการบรรจุน้อยก็ได้น้อย มีตำแหน่งมากก็ได้มาก แต่จะให้ความเป็นธรรมแก่ทุกสาขาวิชาชีพแน่นอน ดูแลให้ครอบคลุมอย่างแน่นอน” รองปลัด สธ.กล่าว
