xs
xsm
sm
md
lg

ตั้ง “ธนาคารพุทธ” อุปถัมภ์ศาสนา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

มจร.แจง 4 ข้อกังวลจัดตั้ง “ธนาคารพุทธ” ชูวัตถุประสงค์อุปถัมภ์พระศาสนา แจงปล่อยเงินกู้แบบเดียวกับ ธ.ก.ส. โดยผู้ขอสินเชื่อต้องทำในนามคณะกรรมการวัด มูลนิธิ ที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างถูกกฎหมาย

พระเมธีธรรมาจารย์ (ประสาร จนฺทสาโร) รองอธิการบดีฝ่ายประชาสัมพันธ์และเผยแผ่ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) ในฐานะเลขาธิการองค์กรชาวพุทธแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากการหารือกับนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตัวแทนจากคณะกรรมาธิการการศาสนา นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ผู้แทนกระทรวงการคลัง และผู้แทนสำนักงานกฤษฎีกา ได้มีการชี้แจงประเด็นสำคัญ 4 ประเด็นสำคัญเกี่ยวกับการจัดตั้งธนาคารพระพุทธศาสนา โดยที่ประชุมแสดงความกังวล ประเด็นที่ 1 คือ ธนาคารพุทธศาสนาแตกต่างจากธนาคารพาณิชย์ ตรงที่ธนาคารพุทธศาสนาเป็นธนาคารเฉพาะที่มีบทบาทและหน้าที่ตามวัตถุประสงค์ของการก่อตั้งคือ ส่งเสริม สนับสนุน อุปถัมภ์พระพุทธศาสนา และเป็นช่องทางการทำธุรกรรมทางการเงินของพุทธศาสนิกชน มีฐานะเป็นรัฐวิสาหกิจ ขณะที่ธนาคารพาณิชย์ คือ การประกอบธุรกิจประเภท รับฝากเงินที่ต้องจ่ายคืนเมื่อทวงถาม หรือเมื่อสิ้นระยะเวลาที่กำหนด และมีฐานะเป็นบริษัท มหาชน จำกัด

ประเด็นที่ 2 โครงสร้างการบริหารของธนาคารพุทธศาสนา ประกอบด้วย คณะกรรมการผู้ก่อตั้ง 15 ท่าน ได้แก่ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ปลัดกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ผู้แทนธนาคารแห่งประเทศไทย ผู้แทนสำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ผู้แทนมหาเถรสมาคม และผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านพระพุทธศาสนา การเงิน การธนาคร และด้านอื่นที่เป็นประโยชน์ต่อกิจการธนาคาร อีก 8 ท่าน กรรมการชุดที่ 2 เลือกจากผู้ถือหุ้นอีก 4 ท่าน รวมกับกรรมการชุดแรกเป็น 19 ท่าน

ประเด็นที่ 3 กลไกการให้สินเชื่อจะให้สินเชื่อแก่พุทธศาสนิกชน องค์กรทางพุทธศาสนา โดยพิจารณาจากความสามารถในการจ่ายคืนเงินกู้ซึ่งเจ้าหน้าที่สินเชื่อของธนาคารพระพุทธศาสนา จะลงสำรวจ และเป็นผู้ประเมินความสามารถในการชำระคืนเงินกู้ กลไกการให้สินเชื่อที่สำคัญของ ธนาคารพุทธศาสนา คือ การให้กู้แบบกลุ่มลักษณะเดียวกันกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)

และประเด็นที่ 4 กรณีที่วัดต้องการขอสินเชื่อ จะต้องทำในนามคณะกรรมการวัด หรือมูลนิธิโดยมีไวยาวัจกรที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างถูกต้อง และได้รับมอบหมายจากวัดเป็นลายลักษณ์อักษรในการทำนิติกรรม โดยเป็นผู้รับผิดชอบทางกฎหมาย ทั้งนี้ภายหลังการชี้แจงทั้ง 4 ประเด็นแล้ว ที่ประชุมก็ไม่ขัดข้อง และพร้อมจะสนับสนุนการจัดตั้งธนาคารพระพุทธศาสนา อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เรื่องดังกล่าวอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา
กำลังโหลดความคิดเห็น