มส.ชู 4 ยุทธศาสตร์ยกระดับการศึกษาปริยัติธรรมหวังเพิ่มคุณภาพพระสงฆ์ไทย
พระราชวรมุนี (พล อาภากโร) คณบดีคณะพุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) ในฐานะประธานคณะทำงานยกร่างแผนยุทธศาสตร์และแผนพัฒนาการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกธรรมและแผนกบาลี กล่าวว่า จากการที่ได้มีประกาศมหาเถรสมาคม (มส.) ว่าด้วยการศึกษาพระปริยัติธรรมและบาลีแล้ว ทางคณะทำงานจึงได้ยกร่างแผนยุทธศาสตร์และแผนพัฒนาการศึกษาพระปริยัติธรรมควบคู่ไปด้วย ซึ่งขณะนี้ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยแผนดังกล่าวจะมีระยะเวลาดำเนินการจำนวน 10 ปี ตั้งแต่ปี2556 -2564 มีทั้งหมด 4 ยุทธศาสตร์ ดังนี้ 1.เพิ่มจำนวนและคุณภาพนักเรียนนักธรรม บาลี และธรรมศึกษา บาลีศึกษา ให้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการเป็นศาสนทายาท 2.ส่งเสริมสร้างให้สำนักเรียน สำนักศาสนศึกษา ให้มีคุณภาพมาตรฐานรวมทั้งได้รับงบประมาณสนับสนุนจากพศ.ที่จะทำให้ประเทศไทย เป็นศูนย์กลางการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกธรรม-บาลี ของโลก
3.ดำรงอยู่ในเพศบรรพชิตมากขึ้น 4.สร้างองค์ความรู้ใหม่ เพื่อพัฒนาการเผยแผ่ทางพระพุทธศาสนามากขึ้น ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ที่คณะสงฆ์ตั้งไว้ เพื่อพัฒนาระบบการศึกษาคณะสงฆ์ให้มีคุณภาพมากขึ้น โดยคณะทำงานได้เชิญผู้ทรงคุณวุฒิ นักวิชาการ จากสถาบันการศึกษาต่างๆ สำนักงบประมาณ มาวิพากษ์ร่างยุทธศาสตร์ดังกล่าวแล้วด้วย ซึ่งส่วนใหญ่เห็นด้วย กับแผนการดำเนินงานดังกล่าว และเห็นว่า ควรมีดำเนินการอย่างต่อเนื่องตีกรอบให้ชัดเจนทั้งระยะสั้น ระยะยาว อีกทั้งต้องมีการประเมินผลการใช้งานของแผนดังกล่าว ทั้งนี้ ในส่วนของคณะทำงาน ได้กำหนดการประเมินผลการใช้แผนไว้ รอบละ 5 ปี จำนวน 2 ครั้ง เพื่อดูว่า แผนดังกล่าวเกิดการขับเคลื่อนได้จริงตามยุทธศาสตร์หรือไม่ รวมทั้งยังมีส่วนไหนต้องปรับปรุงแก้ไขอีก
“การศึกษาธรรม-บาลี ดั้งเดิมก็ยังมีอยู่ แต่ก็ทำในเชิงรุกไปยังโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษามากขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมา โรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา มีผลผลิตด้านนักธรรมและบาลี ค่อนข้างน้อย ต่อไปนี้การส่งเสริมทั้ง 2 ด้าน ทั้งทางโลก ทางธรรม จะเข้มข้นยิ่งขึ้น โดยจะมีการเชื่อมโยงกับระบบการสอบบีเน็ต วิชาเฉพาะของโรงเรียนพระปริยัติธรรม ก็จะทำให้การเรียนการสอนเกิดประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย” พระราชวรมุนี กล่าว