อดีต ขรก.ครู ปีนต้นไม้สูงกว่า 7 ม.ประตูทางออก ศธ.ประท้วงขอคืนความเป็นธรรมให้ได้กลับราชการดังเดิม หลังถูกกล่าวหาอนาจารเด็กตั้งแต่ช่วงเช้า จนกระทั่งบ่าย จนท.ประสานขอรถกระเช้า และรถพยาบาลนำตัวลงมาด้วยสภาพอิดโรย เพราะอดอาหาร ด้าน “ประแสง” ลงมารับเรื่องเบื้องต้นรับปากดูแลให้
วันนี้ (12 พ.ย.) เมื่อเวลา 09.00 น.ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายบุญเรียง ศรีสุวรรณบัณฑิต อายุ 58 ปี อดีตข้าราชการครู ร.ร.บ้านท่ามะปราง อ.รัตภูมิ จ.สงขลา ได้ปีนต้นไม้ที่มีความสูงกว่า 7 เมตร บริเวณประตูทางออกกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมทั้งนำรถจักรยานที่ปั่นมาจากบ้านใน จ.สุพรรณบุรี ผูกห้อยไว้บนต้นไม้ และปีนอยู่บนต้นไม่ดังกล่าวที่มีความสูงกว่า 7 เมตร เพื่อประท้วงการทำงานของข้าราชการประจำกระทรวง หลังเดินทางมาทวงถามความคืบหน้าการขอความเป็นธรรมกรณีถูกคำสั่งให้ออกจากราชการ ฐานทำอนาจารเด็กนักเรียน
นายบุญเรียง กล่าวว่า ต้องการทวงถามความคืบหน้าเรื่องขอความเป็นธรรมคืนให้กับตนเอง เนื่องจากเมื่อปี 2542 ตนถูกให้ออกจากข้าราชการครู เพราะถูกกล่าวหาทำอนาจารเด็กนักเรียนระดับชั้นอนุบาล 2 ในห้องพยาบาล จนถูกตั้งกรรมการสอบสวนและถูกให้ออกจากราชการ ซึ่งความจริงแล้ว ตนยอมรับว่า ได้เข้าไปในห้องพยาบาลจริง เนื่องจากได้ยินเสียงเอะอะโวยวายในห้องพยาบาล จึงสอบถามเด็กกลุ่มดังกล่าวว่ามาทำอะไร ซึ่งเด็กก็ได้บอกว่ามีเพื่อนป่วยต้องการรับประทานยา ตนจึงพาเด็กไปทานยาและพากลับมานอนในห้องพยาบาล หลังจากนั้นตนก็กลับเข้ามาสอนในชั้นเรียนต่อ แต่ก็ไม่ทราบว่าสาเหตุใดตนถึงถูกใส่ร้ายว่าทำอนาจารเด็ก
นายบุญเรียง กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมา ตนมายื่นหนังสือร้องเรียนเรื่องดังกล่าวสมัย ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช ยังดำรงตำแหน่ง รมว.ศึกษาธิการ แล้ว แต่ก็ไม่ได้รับความสนใจ และครั้งนี้ตนก็มาทวงถามความคืบหน้าก็ไม่ได้รับความสนใจอีกเช่นเคย ตนจึงเกิดความน้อยใจจึงปีนขึ้นต้นไม้ อย่างไรก็ตาม หากตนยังไม่ได้รับความเป็นธรรมในเรื่องนี้ก็จะปักหลักอยู่บนต้นไม้นี้ต่อไป จนกว่า นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รมว.ศึกษาธิการ จะสนใจ และลงมาให้ความช่วยเหลือคืนศักดิ์ศรีให้ตน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของ ศธ.ได้ประสานไปยังหน่วยที่เกี่ยวข้องเพื่อให้มาดำเนินการเกลี้ยกล่อมให้นายบุญเรียง ลงมาจากต้นไม้แต่ก็ไม่เป็นผล จนกระทั่งช่วงบ่ายเวลา 15.00 น.เจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจช่วยเหลือนักเรียน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้เข้ามาเกลี้ยกล่อมจึงตัดสินใจยอมลง
จากนั้นเวลา 15.45 น.เจ้าหน้าที่ ศธ.ได้ประสานไปยังสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม.(ภูเขาทอง) เพื่อนำถกระเช้ามารับตัวนายบุญเรียง ซึ่งมีสภาพอิดโรยจากการที่ไม่ได้รับประทานอาหารและน้ำมาตลอดทั้งวันลงมาจากต้นไม้ โดยมีเจ้าหน้าที่จากหน่วยกู้ชีวิต วชิรพยาบาล ทำการปฐมพยาบาลให้ จากนั้น นายประแสง มลคลศิริ เลขานุการ รมว.ศึกษาธิการ พร้อมด้วย นางศิริพร กิจเกื้อกูล รองปลัด ศธ. ได้มารับฟังปัญหาจากนายบุญเรียง
โดย นายประแสง กล่าวภายหลังว่า เบื้องต้นจะรับเรื่องดังกล่าว แต่ทาง นายบุญเรียง ต้องการจะสู้ในชั้นศาล เพื่อให้ได้กลับเข้ารับราชการได้ดังเดิม ซึ่งก็สามารถดำเนินการยื่นขออุทธรณ์ต่อศาลปกครองอีกครั้งหนึ่ง โดยอาจจะต้องมีหลักฐานเพิ่มเติมมากวกว่านี้เพราะขณะนี้ศาลปกครองมีคำสั่งไปแล้ว ซึ่งหากอุทธรณ์จริงก็ต้องดูว่าศาลจะรับวินิจฉัยกรณีดังกล่าวอีกหรือไม่ ในด้านบริหารก็อาจจะแก้ไขได้ในส่วน พ.ร.บ.ล้างมลทิน ซึ่งจะมีในวาระพิเศษ และหากได้รับการล้างมลทินก็ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถกลับเข้ารับราชการได้ เพราะตามระเบีบบการปฏิบัตินั้นต้องมีดูด้วยว่าขาดคุณสมบัติหรือไม่ ซึ่งส่วนนี้ผู้บริหารจะต้องมาพิจารณาเป็นรายกรณีไปไม่ใช่ว่าล้างมลทินแล้วทุกคนจะรับราชการได้