เช้าวันนี้เกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารพาณิชย์เก่า ซึ่งเคยเปิดเป็นร้านนวดแผนโบราณ เพลิงผลาญวอด 6 คูหา หลังช่างรับเหมาเข้ารื้อถอนแล้วถังแก๊สรั่วไร้ตาย-เจ็บ
วันนี้ (26 ต.ค.) เวลา 09.00 น. ร.ต.อ.นิกร แก้วเทวา พนักงานสอบสวน (สบ1) สน.ทองหล่อ ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้อาคารพาณิชย์ เลขที่ 15-19/1ภายในซอยสุขุมวิท 22 ถนนสุขุมวิท แขวงและเขตคลองเตย กรุงเทพฯ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชุมพล พุ่มพวง ผกก.สน.ทองหล่อ พ.ต.ท.โชติวัฒน์ เหลืองวิสัย รอง ผกก.ป.สน.ทองหล่อ พ.ต.ท.จิตกฤต จารุนภัทร์ สว.สส.สน.ทองหล่อ พร้อมทั้งประสานรถน้ำดับเพลิงหน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จำนวนกว่า 10 คัน รถกระเช้า จำนวน 2 คัน
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น 11 คูหา สภาพเก่าแก่ โดยเคยเปิดเป็นร้านนวดแผนโบราณทราบชื่อ หัตถศาสตร์นวดแผนโบราณ แต่ได้ปิดกิจการลงไปแล้ว เพลิงได้โหมลุกไหม้ไปทั้งหมด 6 คูหา เสียหายทั้งหลัง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงลากสายยางระดมฉีดน้ำทำการดับเพลิง พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ผจญเพลิงขึ้นรถกระเช้าเข้าระงับเพลิงภายในตัวอาคาร โดยใช้เวลากว่า 2 ชม.เพลิงจึงสงบ เบื้องต้นจากการตรวจสอบไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด
จากการสอบถาม นางพิไลวรรณ เวียงนนท์ อายุ 40 ปี ชาวบ้านที่อาศัยอยู่อาคารตรงกันข้ามเปิดเผยด้วยอาการเสียขวัญ ว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วงเช้าตนได้เห็นมีคนงานของผู้รับเหมาซื้อของเก่าจำนวนกว่า 10 คน พร้อมทั้งขนถังแก๊สแอลพีจี เข้าไปทำการรื้อถอนตัดเหล็กที่อยู่ภายในตัวอาคาร ตนก็ไม่ได้สนใจอะไรจึงขึ้นไปนอนพักที่บนห้องนอนกับลูกๆ ขณะกำลังนอนอยู่ ได้ยินเสียงดังสนั่นคล้ายระเบิดมาจากอาคารดังกล่าว ตนจึงรีบพาลูกๆ วิ่งลงมาจากห้องนอนทันใดนั้นเห็นเพลิงกำลังลุกไหม้อาคารดังกล่าว โดยมีชาวบ้านต่างแห่วิ่งกันออกมาดูหน้าตาตื่นเพราะเกรงว่าไฟจะโหมลุกลามมาถึงบ้านของตนเอง จากนั้นตนได้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่มาทำการดับไฟ
สอบสวน นายวริศ ไพศาลธนเลิศ อายุ 42 ปี หัวหน้าคนงานรับซื้อของเก่า กล่าวว่า สืบเนื่องจากตนได้รับการสัมปทานให้เข้าไปรื้อถอนสิ่งของภายในตัวอาคารโดยได้ซื้อมาในราคา 3แสน 5 หมื่นบาท โดยเมื่อช่วงเช้าตนและคนงานกว่า 10 คน ได้เข้าไปทำการรื้อถอนเหล็กบริเวณชั้นที่ 4 โดยมีเจตนาที่จะรื้อถอนหลังคาก่อน ซึ่งมีคานเหล็กขวางกั้นอยู่จึงสั่งให้ลูกน้องลงไปเอาถังแก๊สและอุปกรณ์ตัดเหล็กที่นำมาด้วยอยู่ที่บริเวณชั้น 1 ของอาคาร ขณะลูกน้องตนกำลังลงมาอยู่ที่ชั้นที่ 3 ก็ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้น จากนั้นตนและลูกน้องได้เห็นแสงเพลิงอยู่ที่บริเวณชั้นล่างกำลังลุกลามขึ้นมาอย่างรวดเร็วจึงรีบปีนออกจากตัวอาคารและเดินไปตามขอบระเบียงอาคารออกมาได้อย่างปลอดภัย ซึ่งตนคาดว่าสาเหตุเกิดจากถังแก๊สมีการรั่วซึมจนเกิดเหตุระเบิดดังกล่าวขึ้น
พ.ต.อ.ชุมพล เปิดเผยว่า อาคารดังกล่าวเคยเปิดเป็นร้านนวดแผนโบราณได้หมดสัญญาและเลิกกิจการมาแล้วเมื่อ 6 เดือนที่ผ่านมา โดยเจ้าของอาคารดังกล่าวได้ขายเฟอร์นิเจอร์ภายในและพวกวัสดุก่อสร้างให้กับร้านรับซื้อของเก่า ทั้งนี้ในวันนี้ทางร้านรับซื้อของเก่าได้ส่งคนงานมาทำการรื้อถอนเหล็กภายในตัวอาคารโดยใช้อุปกร์การตัดซึ่งมีถังแก๊ส คาดว่า เกิดการระเบิดขึ้น อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ต้องรอผลการตรวจจากกองพิสูจน์หลักฐาน กทม.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องซึ่งจะเข้ามาทำการตรวจในวันพรุ่งนี้ (27 ต.ค.) ก่อนสรุปสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
