xs
xsm
sm
md
lg

เสนอขอเงินขายหวยรัฐ 1.5 หมื่น ล.อัดฉีดกองทุนพัฒนาสังคม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กองทุนเด็ก สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ และสวัสดิการสังคมพร้อมใจโอดแหล่งรายได้ไม่พอ กระทบการทำกิจกรรมสาธารณประโยชน์ เสนอขอเงินรายได้จากการขายลอตเตอรีมาจัดสรร นักวิชาการเสนอแก้ ม.22 พ.ร.บ.สลากกินแบ่งฯ โยกเงินกว่า 15,000 ล้านบาทต่อปี มาอัดฉีดกิจกรรมเพื่อสังคมผ่านกองทุนต่างๆ แทนส่งเงินกลับเข้ารัฐ

นายไพศาล ลิ้มสถิตย์ ศูนย์กฎหมายสุขภาพและจริยศาสตร์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้เสนอผลการศึกษา “กลไกการบริหารจัดการรายได้จากสลากกินแบ่งรัฐบาลสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพชีวิตในกลุ่มประชากรที่มีความเปราะบาง” ในเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ภาคีเครือข่ายขับเคลื่อนกองทุนด้านการพัฒนาสังคมซึ่งภายในงานมีการนำเสนอปัญหาของกองทุนคุ้มครองเด็ก กองทุนผู้สูงอายุ กองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กองทุนส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมและกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี โดยส่วนใหญ่ประสบปัญหาเรื่องของแหล่งรายได้ที่ไม่เพียงพอ และมีข้อเสนอให้นำเงินรายได้จากสลากกินแบ่งรัฐบาลมาจัดสรรเงินให้แต่ละกองทุน ว่า ขณะนี้การจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลของไทย ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ.2517 มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหารายได้จากการจำหน่ายสลากฯ แต่ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนกิจกรรมสาธารณประโยชน์เพื่อช่วยเหลือสังคม ที่สำคัญ ยังไม่มีกลไกในการตรวจสอบควบคุมการบริหารจัดการเงินรายได้จากการขายสลากฯ ที่นำไปใช้เพื่อกิจกรรมสาธารณประโยชน์แต่อย่างใด ต่างจากการจำหน่ายลอตเตอรีในต่างประเทศที่มีการจัดตั้งกองทุนเพื่อจัดสรรเงินรายได้ไปใช้สนับสนุนกิจกรรมสาธารณะประโยชน์ โดยมีบทบัญญัติกฎหมายและหลักเกณฑ์การจัดสรรเงินกองทุนล็อตเตอรีที่ชัดเจน และมีกลไกธรรมาภิบาลในการจัดสรรเงินเพื่อป้องกันปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน การแทรกแซงจากรัฐบาลหรือฝ่ายการเมือง

“อย่างในอังกฤษจะมีการจัดตั้งกองทุนจัดสรรเงินรายได้จากลอตเตอรีแห่งชาติ โดยนำเงินร้อยละ 28 ของเงินรายได้ทั้งหมดจากการจำหน่ายลอตเตอรีแห่งชาติ นำไปใช้ในกิจกรรมสาธารณประโยชน์ โดยมีหลักการว่า รายได้จากลอตเตอรีส่วนใหญ่เป็นเงินที่มาจากคนที่มีรายได้น้อย จึงควรจัดสรรกลับไปพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับกลุ่มคนที่เป็นผู้ซื้อลอตเตอรี โดย 50% ของเงินที่แบ่งออกมา จะจัดสรรให้โครงการ หรือกิจกรรมด้านสุขภาพการศึกษา สิ่งแวดล้อม และสาธารณกุศล นอกจากนี้ จะจัดสรรให้โครงการหรือกิจกรรมด้านกีฬา ศิลปะ และมรดกแห่งชาติด้านละ 16.67%” นายไพศาล กล่าว
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
นายไพศาล กล่าวอีกว่า การจะนำเงินรายได้จากการขายสลากฯมาจัดสรรให้แต่ละกองทุนใช้นั้นจะต้องแก้ไขปรับปรุง พ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยมี 2 แนวทางในการแก้ไข คือ การเสนอเป็น พ.ร.บ.ฉบับใหม่ และการเสนอแก้ไขปรับปรุง พ.ร.บ.โดยมีข้อเสนอในการแก้ไขปรับปรุง ดังนี้ 1.ต้องมีการระบุเหตุผลความจำเป็นในการนำเงินรายได้จากการจำหน่ายสลากฯมาใช้ในกิจกรรมพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน 2.ปรับปรุงอำนาจหน้าที่ของสำนักงานสลากฯให้มีฐานะเป็น ผู้ควบคุม (Regulator) เพียงอย่างเดียว 3.ปรับปรุงโครงสร้างของคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลและการบริหารงานสำนักงานสลากฯ 4.แก้ไขมาตรา 22 เรื่องการนำส่งเงินรายได้แผ่นดิน โดยให้นำเงินร้อยละ 28 จากรายได้ทั้งหมด (ซึ่งตาม พ.ร.บ.กำหนดให้ส่งเป็นเงินรายได้แผ่นดินเข้ากระทรวงการคลัง) มาจัดสรรเพื่อสาธารณประโยชน์แทนส่งเข้ารัฐ 5.จัดตั้งกองทุนสลากกินแบ่งรัฐบาลเพื่อพัฒนาสังคมและมีการตั้งคณะกรรมการบริหารกองทุน 6.มีช่องทางการจัดสรรเงินกองทุนสลากกินแบ่ง ผ่านกองทุนภายใต้กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ที่มีอยู่แล้วแต่มีจำนวนเงินน้อยเกินกว่าจะทำให้เกิดการพัฒนาคุณภาพชีวิตของกลุ่มคนชายขอบให้เห็นผลได้อย่างชัดเจน 7.กำหนดหลักเกณฑ์กลางเงื่อนไขการจัดสรรเงินกองทุนที่ชัดเจน มีธรรมาภิบาลและตรวจสอบได้ เนื่องจากแต่ละกองทุนมีหลักเกณฑ์ที่ต่างกัน

นพ.บรรลุ ศิริพานิช อดีตรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในฐานะประธานมูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย กล่าวว่า ทุกกองทุนต่างประสบปัญหาเรื่องของการขาดเงิน มีความลำบากในการเขียนโครงการแล้วถูกตีกลับ ฯลฯ ซึ่งการปรับปรุง พ.ร.บ.สลากฯ โดยเฉพาะการแก้ไขกรณีการนำเงินร้อยละ 28 จากรายได้ทั้งหมดเข้ารัฐ หรือประมาณ 15,000 ล้านบาทต่อปี มาจัดสรรให้แต่ละกองทุนได้ใช้เพื่อสร้างนวัตกรรมป้องกันและแก้ไขปัญหาสังคมในด้านต่างๆ ถือว่ามีความน่าสนใจ และมีความเป็นไปได้ ส่วนตัวเชื่อว่าการนำเงินตรงนี้มาสนับสนุนให้แต่ละกองทุนใช้ทำประโยชน์อย่างมีคุณภาพจะสามารถแก้ปัญหาด้านสังคมที่เป็นตัวบั่นทอนความมั่นคงของประเทศในระยะยาวได้มาก เช่น การดูแลเด็กกำพร้า คนไร้บ้าน ผู้สูงอายุที่ยากจน คนพิการที่ยากลำบาก ฯลฯ เพื่อช่วยให้คนเหล่านี้ได้รับการพัฒนาส่งเสริมให้เป็นพลเมืองที่มีคุณภาพสามารถช่วยเหลือตัวเองได้และยังมีส่วนช่วยประเทศชาติได้ในอีกหลายๆ ด้าน

ด้าน นายวันชัย บุญประชา ที่ปรึกษาโครงการพัฒนาและขับเคลื่อนกองทุนด้านการพัฒนาสังคม กล่าวว่า การจะปรับปรุงร่าง พ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ประเด็นสำคัญ คือ ต้องมีกลไกในการประสาน หรือขับเคลื่อนจากหน่วยงานต่างๆ ซึ่งสามารถแบ่งได้ออกเป็น 3 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มของหน่วยงานรัฐหรือพรรคการเมืองโดยต้องทำหน้าที่ประสานในเชิงนโยบาย โดยอาจพัฒนาโครงการร่วมกับ พม.พร้อมชวนกรรมาธิการสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ร่วมเรียนรู้ และผลักดันเป็นนโยบายของพรรคการเมือง 2.กลุ่มภาคประชาสังคมองค์กรพัฒนาเอกชน และสื่อมวลชน 3.กลุ่มนักวิชาการด้านสังคม กฎหมายเศรษฐศาสตร์ในมหาวิทยาลัยและทีดีอาร์ไอ โดยต้องช่วยกันจัดระบบข้อมูลความรู้พัฒนางานวิจัยที่ขาด แลกเปลี่ยนวิเคราะห์ และสร้างกลไกวิชาการร่วมขับเคลื่อน และ 4.การมีคณะกรรมการขับเคลื่อนกองทุน คณะทำงานยุทธศาสตร์ ทำหน้าที่เป็นหน่วยประสานงาน ในการกำหนดทิศทางการแลกเปลี่ยนอย่างต่อเนื่อง เชื่อมโยงเครือข่าย และต้องสื่อสารกับสังคม โดยอาจให้ พม.รับหน้าที่เป็นเจ้าภาพในการประสานงาน
กำลังโหลดความคิดเห็น