ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดอรุณฯขอทุกฝ่ายอย่ามองกรณีเศียรยักษ์หักเป็นลางร้าย แนะให้มองเป็นเรื่องธรรมชาติ ขณะที่กรมศิลปากรเข้าตั้งนั่งร้านเตรียมบูรณะ “สหวัฒน์” เผยเล็งจัดระบบเข้าเขตวัดอรุณฯใหม่ หลังพบชาวไทย-เทศ นุ่งสั้นเข้าวัด ใส่รองเท้าขึ้นบนพระปรางค์ ระบุ หากได้ผลเตรียมขยายไปวัดทั่วประเทศให้เป็นธรรมเนียมปฏิบัติเดียวกัน
วันนี้ (20 ต.ค.) พระครูอรุณธรรมนุวัตร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดอรุณราชวราราม เปิดเผยความคืบหน้ากรณีเศียรยักษ์หัก ว่า ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่มีความห่วงใยวัดอรุณ โดยตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมามีประชาชนให้ความสนใจความเสียหายของเศียรยักษ์ ซึ่งทั้งสื่อและประชาชนอาจจะมองถึงเหตุอาเพศ หรือลางร้าย แต่ก็ไม่อยากให้คิดเช่นนั้น อยากให้มองเป็นเรื่องของธรรมชาติ และเป็นอุบัติเหตุจากอุปกรณ์สายล่อฟ้าเก่าชำรุด แต่หากมองอีกมุมเทวดาอาจจะมาอนุโมทนาที่ทางรัฐบาล และทุกฝ่าย มาบูรณะพระปรางค์วัดอรุณฯ ซึ่งภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็เป็นได้ นอกจากนี้ ทาง นายสหวัฒน์ แน่นหนา อธิบดีกรมศิลปากร ได้หารือกับตนว่า ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวและคนไทย นุ่งสั้นมาวัดสำคัญๆ เป็นจำนวนมาก ทั้งยังสวมใส่รองเท้าขึ้นไปบนพระปรางค์ หรือศาสนสถานสำคัญต่างๆ ด้วย ดังนั้น ทางวัดและกรมศิลปากรจะหามาตรการในการดูแลเรื่องดังกล่าว เช่น จัดหาสถานที่เปลี่ยนเสื้อผ้าให้นักท่องเที่ยว เป็นต้น เพื่อให้เกิดเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ ในการเคารพศาสนสถานด้วย
ด้านนายสหวัฒน์ กล่าวว่า ขณะนี้กรมศิลปากร ได้เข้าไปตั้งนั่งร้านเพื่อบูรณะเศียรยักษ์บนพระปรางค์องค์เล็กของวัดอรุณฯแล้ว โดยจะเร่งดำเนินการให้เสร็จสมบูรณ์ พร้อมทั้งจะตรวจสอบระบบสายล่อฟ้า ว่า มีจุดใดชำรุดหรือไม่ เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เกิดซ้ำอีก ขณะเดียวกัน ตนยังได้หารือกับ พระครูอรุณธรรมานุวัตร เกี่ยวกับการจัดระบบการเข้าเขตพุทธาวาสของวัดอรุณฯ เนื่องจากมีนักท่องเที่ยว หรือแม้แต่วัยรุ่นบางส่วน นุ่งสั้น และแต่งกายไม่เหมาะสม เข้าเขตวัดเป็นจำนวนมากขึ้น กรมศิลปากร จึงเห็นว่า ควรจะจัดสร้างห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าให้แก่นักท่องเที่ยว หรือคนไทยเอง ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าที่ทางวัดได้เตรียมไว้ เช่น ผ้าถุง หรือเสื้อคลุ่มต่างๆ ที่สำคัญ ทางวัดและกรมศิลปากร เห็นด้วยกับการให้นักท่องเที่ยว หรือพุทธศาสนิกชน ถอดรองเท้าในเขตพุทธาวาส โดยเฉพาะการขึ้นบริเวณพระปรางค์ของวัดอรุณฯ เพราะพระปรางค์เป็นสถานที่ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งตามธรรมเนียมปฏิบัติของคนไทยให้ความเคารพอย่างสูง ให้กลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติทั้งของคนไทยและชาวต่างชาติในการเข้าวัด ทั้งนี้ แนวทางดังกล่าวในหลายประเทศที่มีพุทธศาสนสถาน หรือวัด ก็ปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เช่น ในประเทศพม่า ต้องถอดรองเท้าตั้งแต่ทางเข้าวัด เป็นต้น
“เรื่องการนุ่งสั้น มีตัวอย่างให้เห็นที่วัดพระแก้ว หากคนไทย หรือชาวต่างชาติ แต่งกายไม่เหมาะสม ก็จะไม่ให้เข้าเขตพระบรมมหาราชวัง ส่วนบริเวณวัดพระแก้ว ก็จะมีบางจุดที่ต้องถอดรองเท้า ซึ่งผมคิดว่า การถอดรองเท้าเข้าเขตพุทธาวาส เป็นสิ่งที่ดี และจะมีการนำร่องที่วัดอรุณฯเป็นแห่งแรกก่อน หลังจากนั้น จะประสานกับวัดสำคัญๆ ในเขตกรุงเทพมหานคร ให้ใช้เป็นแนวปฏิบัติเดียวกัน รวมทั้งจะต้องมีการให้ความรู้แก่นักท่องเที่ยวให้เข้าใจธรรมเนียมปฏิบัติดังกล่าวด้วย หากทุกฝ่ายร่วมกันปฏิบัติไปในทิศทางเดียวกัน ก็จะมีการขอความร่วมมือทุกวัดทั่วประเทศ ร่วมกันใช้แนวทางดังกล่าว” อธิบดีกรมศิลปากร กล่าว
ด้านพระมหาศาสนมุนี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ กล่าวว่า การให้ถอดรองเท้าเข้าวัด นับเป็นเรื่องที่ดี อย่างที่วัดปากน้ำ พุทธศาสนิกชนต้องถอดรองเท้าตั้งแต่เข้าวัด โดยทางวัดจะทำชั้นวางรองเท้า หรือบางคนอาจจะใช้การหิ้วติดตัวไปด้วย เพื่อป้องกันการสูญหาย แต่ในพื้นที่ที่ไม่อำนวยทางวัดก็จะอนุโลมให้ใส่ได้ ส่วนบริเวณเจดีย์ คนที่จะขึ้นไปก็ต้องถอดรองเท้าทั้งหมด เพื่อเป็นการเคารพสถานที่และเคารพแด่พระพุทธองค์ อย่างไรก็ตาม บางวัดพื้นที่ไม่เอื้ออำนวยก็ต้องดูตามความเหมาะสมด้วย
วันนี้ (20 ต.ค.) พระครูอรุณธรรมนุวัตร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดอรุณราชวราราม เปิดเผยความคืบหน้ากรณีเศียรยักษ์หัก ว่า ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่มีความห่วงใยวัดอรุณ โดยตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมามีประชาชนให้ความสนใจความเสียหายของเศียรยักษ์ ซึ่งทั้งสื่อและประชาชนอาจจะมองถึงเหตุอาเพศ หรือลางร้าย แต่ก็ไม่อยากให้คิดเช่นนั้น อยากให้มองเป็นเรื่องของธรรมชาติ และเป็นอุบัติเหตุจากอุปกรณ์สายล่อฟ้าเก่าชำรุด แต่หากมองอีกมุมเทวดาอาจจะมาอนุโมทนาที่ทางรัฐบาล และทุกฝ่าย มาบูรณะพระปรางค์วัดอรุณฯ ซึ่งภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็เป็นได้ นอกจากนี้ ทาง นายสหวัฒน์ แน่นหนา อธิบดีกรมศิลปากร ได้หารือกับตนว่า ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวและคนไทย นุ่งสั้นมาวัดสำคัญๆ เป็นจำนวนมาก ทั้งยังสวมใส่รองเท้าขึ้นไปบนพระปรางค์ หรือศาสนสถานสำคัญต่างๆ ด้วย ดังนั้น ทางวัดและกรมศิลปากรจะหามาตรการในการดูแลเรื่องดังกล่าว เช่น จัดหาสถานที่เปลี่ยนเสื้อผ้าให้นักท่องเที่ยว เป็นต้น เพื่อให้เกิดเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ ในการเคารพศาสนสถานด้วย
ด้านนายสหวัฒน์ กล่าวว่า ขณะนี้กรมศิลปากร ได้เข้าไปตั้งนั่งร้านเพื่อบูรณะเศียรยักษ์บนพระปรางค์องค์เล็กของวัดอรุณฯแล้ว โดยจะเร่งดำเนินการให้เสร็จสมบูรณ์ พร้อมทั้งจะตรวจสอบระบบสายล่อฟ้า ว่า มีจุดใดชำรุดหรือไม่ เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เกิดซ้ำอีก ขณะเดียวกัน ตนยังได้หารือกับ พระครูอรุณธรรมานุวัตร เกี่ยวกับการจัดระบบการเข้าเขตพุทธาวาสของวัดอรุณฯ เนื่องจากมีนักท่องเที่ยว หรือแม้แต่วัยรุ่นบางส่วน นุ่งสั้น และแต่งกายไม่เหมาะสม เข้าเขตวัดเป็นจำนวนมากขึ้น กรมศิลปากร จึงเห็นว่า ควรจะจัดสร้างห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าให้แก่นักท่องเที่ยว หรือคนไทยเอง ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าที่ทางวัดได้เตรียมไว้ เช่น ผ้าถุง หรือเสื้อคลุ่มต่างๆ ที่สำคัญ ทางวัดและกรมศิลปากร เห็นด้วยกับการให้นักท่องเที่ยว หรือพุทธศาสนิกชน ถอดรองเท้าในเขตพุทธาวาส โดยเฉพาะการขึ้นบริเวณพระปรางค์ของวัดอรุณฯ เพราะพระปรางค์เป็นสถานที่ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งตามธรรมเนียมปฏิบัติของคนไทยให้ความเคารพอย่างสูง ให้กลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติทั้งของคนไทยและชาวต่างชาติในการเข้าวัด ทั้งนี้ แนวทางดังกล่าวในหลายประเทศที่มีพุทธศาสนสถาน หรือวัด ก็ปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เช่น ในประเทศพม่า ต้องถอดรองเท้าตั้งแต่ทางเข้าวัด เป็นต้น
“เรื่องการนุ่งสั้น มีตัวอย่างให้เห็นที่วัดพระแก้ว หากคนไทย หรือชาวต่างชาติ แต่งกายไม่เหมาะสม ก็จะไม่ให้เข้าเขตพระบรมมหาราชวัง ส่วนบริเวณวัดพระแก้ว ก็จะมีบางจุดที่ต้องถอดรองเท้า ซึ่งผมคิดว่า การถอดรองเท้าเข้าเขตพุทธาวาส เป็นสิ่งที่ดี และจะมีการนำร่องที่วัดอรุณฯเป็นแห่งแรกก่อน หลังจากนั้น จะประสานกับวัดสำคัญๆ ในเขตกรุงเทพมหานคร ให้ใช้เป็นแนวปฏิบัติเดียวกัน รวมทั้งจะต้องมีการให้ความรู้แก่นักท่องเที่ยวให้เข้าใจธรรมเนียมปฏิบัติดังกล่าวด้วย หากทุกฝ่ายร่วมกันปฏิบัติไปในทิศทางเดียวกัน ก็จะมีการขอความร่วมมือทุกวัดทั่วประเทศ ร่วมกันใช้แนวทางดังกล่าว” อธิบดีกรมศิลปากร กล่าว
ด้านพระมหาศาสนมุนี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ กล่าวว่า การให้ถอดรองเท้าเข้าวัด นับเป็นเรื่องที่ดี อย่างที่วัดปากน้ำ พุทธศาสนิกชนต้องถอดรองเท้าตั้งแต่เข้าวัด โดยทางวัดจะทำชั้นวางรองเท้า หรือบางคนอาจจะใช้การหิ้วติดตัวไปด้วย เพื่อป้องกันการสูญหาย แต่ในพื้นที่ที่ไม่อำนวยทางวัดก็จะอนุโลมให้ใส่ได้ ส่วนบริเวณเจดีย์ คนที่จะขึ้นไปก็ต้องถอดรองเท้าทั้งหมด เพื่อเป็นการเคารพสถานที่และเคารพแด่พระพุทธองค์ อย่างไรก็ตาม บางวัดพื้นที่ไม่เอื้ออำนวยก็ต้องดูตามความเหมาะสมด้วย
