“วิทยา” แจงลูกจ้างพยาบาลชุมนุมหน้าทำเนียบ โยนผิด “ยงยุทธ” ลาออก รมต.มหาดไทย ทำเรื่องบรรจุลูกจ้างชั่วคราวเป็นข้าราชการประจำล่าช้า ไม่แคร์หากมีการชุมนุมยืดเยื้อ บอกไม่รู้จะทำยังไง เพราะ สธ.ก็ทำเต็มที่มาตลอด ชี้ ต้องรอ มท.คนใหม่ เหตุการเพิ่มอัตราต้องแก้ทั้งระบบ ไม่ใช่ สธ.กระทรวงเดียว
วันนี้ (16 ต.ค.) นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีเครือข่ายพยาบาลวิชาชีพเกือบ 500 คน มาชุมนุมหน้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อเรียกร้องให้ปรับระเบียบการจ้างจากลูกจ้างชั่วคราวเป็นข้าราชการประจำ ว่า สธ.มีการดำเนินงานเรื่องดังกล่าวมาตลอด โดยได้จัดทำแผนระยะ 5 ปีไว้แล้ว ล่าสุด เรื่องได้เข้าสู่ระดับคณะกรรมการกลั่นกรองของกระทรวงมหาดไทยไปแล้ว แต่เนื่องจาก นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้ลาออกจากตำแหน่งไปก่อนหน้านี้ ทำให้เรื่องดังกล่าวยังไม่เสร็จสิ้น ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้รับปากแล้วว่าจะมีการปรับเรื่องอัตรากำลังคนให้เหมาะสมต่อไป
“อยากให้กลุ่มน้องๆพยาบาลวิชาชีพเข้าใจว่า สธ.พยายามดำเนินการในเรื่องดังกล่าวมาโดยตลอด และทราบดีว่าพยาบาลเป็นวิชาชีพหนึ่งที่ต้องดูแลให้ได้รับความมั่นคงและอยู่ในระบบ ไม่ให้เกิดปัญหาสมองไหล ซึ่งปัจจุบันมีสถานพยาบาลหลายแห่งขาดแคลนกำลังคน ส่วนหนึ่งเกิดจากจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มมากขึ้น ที่ผ่านมา ก็แก้ไขด้วยการพยายามหางบประมาณมาจ้างบุคลากรเพิ่ม แต่ต้องเข้าใจว่าการปรับอัตรากำลังบรรจุเป็นข้าราชการนั้นเป็นเรื่องที่ต้องแก้ปัญหาทั้งระบบไม่เฉพาะเพียง สธ.เท่านั้น” รมว.สาธารณสุข
นายวิทยา กล่าวอีกว่า สำหรับกรณีที่กลุ่มพยาบาลบอกว่ากระทรวงเตะถ่วงเรื่องนั้น เป็นความเข้าใจผิด เพราะแต่ละครั้งที่มาพบกับตน ก็มีความคืบหน้าของเรื่องโดยตลอดว่าดำเนินงานถึงขั้นตอนใดบ้างแล้ว หากยังยืนยันว่าจะมีการชุมนุมยืดเยื้อหลังจากนี้ ตนก็ไม่ทราบว่าจะทำอย่างไร เพราะพยายามอธิบายแล้วว่าเป็นเรื่องที่ต้องแก้ไขทั้งระบบ และ สธ.ก็กำลังพยายามเดินหน้าตามแผนที่วางไว้
ด้าน นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดสธ. กล่าวว่า รมว.สาธารณสุข ได้มอบหมายให้หารือเพื่อปรับข้อมูลครั้งสุดท้ายกับเลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (กพ.) เลขาธิการคณะรัฐมนตรี และเลขาธิการนายกรัฐมนตรีแล้ว เพื่อขออัตรากำลังสำหรับการแก้ไขปัญหาระยะสั้น ในจุดที่ขาดแคลนและวิกฤต ทั้งพื้นที่ ปริมาณงาน และอัตรากำลัง ในทุกวิชาชีพรวม 24,000 คน ในจำนวนนี้เป็นพยาบาลวิชาชีพ 13,000 คน ซึ่งภายในเดือนพฤศจิกายนนี้จะได้รับคำตอบแนวทางแก้ไขปัญหาจาก กพ. ส่วนแผนแก้ปัญหาระยะยาวจะต้องมีความเป็นธรรมกับทุกวิชาชีพและทุกระดับ ให้ทุกวิชาชีพเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา โดยจะมีความชัดเจนภายในเดือนมกราคม 2556
วันนี้ (16 ต.ค.) นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีเครือข่ายพยาบาลวิชาชีพเกือบ 500 คน มาชุมนุมหน้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อเรียกร้องให้ปรับระเบียบการจ้างจากลูกจ้างชั่วคราวเป็นข้าราชการประจำ ว่า สธ.มีการดำเนินงานเรื่องดังกล่าวมาตลอด โดยได้จัดทำแผนระยะ 5 ปีไว้แล้ว ล่าสุด เรื่องได้เข้าสู่ระดับคณะกรรมการกลั่นกรองของกระทรวงมหาดไทยไปแล้ว แต่เนื่องจาก นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้ลาออกจากตำแหน่งไปก่อนหน้านี้ ทำให้เรื่องดังกล่าวยังไม่เสร็จสิ้น ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้รับปากแล้วว่าจะมีการปรับเรื่องอัตรากำลังคนให้เหมาะสมต่อไป
“อยากให้กลุ่มน้องๆพยาบาลวิชาชีพเข้าใจว่า สธ.พยายามดำเนินการในเรื่องดังกล่าวมาโดยตลอด และทราบดีว่าพยาบาลเป็นวิชาชีพหนึ่งที่ต้องดูแลให้ได้รับความมั่นคงและอยู่ในระบบ ไม่ให้เกิดปัญหาสมองไหล ซึ่งปัจจุบันมีสถานพยาบาลหลายแห่งขาดแคลนกำลังคน ส่วนหนึ่งเกิดจากจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มมากขึ้น ที่ผ่านมา ก็แก้ไขด้วยการพยายามหางบประมาณมาจ้างบุคลากรเพิ่ม แต่ต้องเข้าใจว่าการปรับอัตรากำลังบรรจุเป็นข้าราชการนั้นเป็นเรื่องที่ต้องแก้ปัญหาทั้งระบบไม่เฉพาะเพียง สธ.เท่านั้น” รมว.สาธารณสุข
นายวิทยา กล่าวอีกว่า สำหรับกรณีที่กลุ่มพยาบาลบอกว่ากระทรวงเตะถ่วงเรื่องนั้น เป็นความเข้าใจผิด เพราะแต่ละครั้งที่มาพบกับตน ก็มีความคืบหน้าของเรื่องโดยตลอดว่าดำเนินงานถึงขั้นตอนใดบ้างแล้ว หากยังยืนยันว่าจะมีการชุมนุมยืดเยื้อหลังจากนี้ ตนก็ไม่ทราบว่าจะทำอย่างไร เพราะพยายามอธิบายแล้วว่าเป็นเรื่องที่ต้องแก้ไขทั้งระบบ และ สธ.ก็กำลังพยายามเดินหน้าตามแผนที่วางไว้
ด้าน นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดสธ. กล่าวว่า รมว.สาธารณสุข ได้มอบหมายให้หารือเพื่อปรับข้อมูลครั้งสุดท้ายกับเลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (กพ.) เลขาธิการคณะรัฐมนตรี และเลขาธิการนายกรัฐมนตรีแล้ว เพื่อขออัตรากำลังสำหรับการแก้ไขปัญหาระยะสั้น ในจุดที่ขาดแคลนและวิกฤต ทั้งพื้นที่ ปริมาณงาน และอัตรากำลัง ในทุกวิชาชีพรวม 24,000 คน ในจำนวนนี้เป็นพยาบาลวิชาชีพ 13,000 คน ซึ่งภายในเดือนพฤศจิกายนนี้จะได้รับคำตอบแนวทางแก้ไขปัญหาจาก กพ. ส่วนแผนแก้ปัญหาระยะยาวจะต้องมีความเป็นธรรมกับทุกวิชาชีพและทุกระดับ ให้ทุกวิชาชีพเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา โดยจะมีความชัดเจนภายในเดือนมกราคม 2556
