ครม.ไฟเขียว ร่าง กม.รวมสถานศึกษา ตั้งเป็นสถาบันการอาชีวศึกษาเกษตร 4 สถาบัน “สุชาติ” แจงโยกย้ายซี 10 อีกรอบ ย้ำไม่ได้คิดเองเป็นความต้องการของผู้บริหารแต่ละหน่วยงาน
ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ว่า ที่ประชุมเห็นชอบร่างกฎกระทรวงการรวมสถานศึกษาอาชีวศึกษาเพื่อจัดตั้งสถาบันการอาชีวศึกษาเกษตร จำนวน 4 สถาบัน ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) เสนอ โดยการรวมสถานศึกษาอาชีวศึกษาประเภทวิชาเกษตรและประมงที่มีเขตพื้นที่ติดต่อกันในแต่ละภูมิภาค คือ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ นอกจากนี้ ครม.ยังเห็นชอบงบประมาณค่าใช้จ่ายต่อหัวในการจัดการศึกษานอกระบบ ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานสำหรับคนพิการ เช่นเดียวกับนักเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ขณะเดียวกัน ที่ประชุม ครม.ยังเห็นชอบแผนยุทธศาสตร์ชาติด้านเด็กปฐมวัย ตั้งแต่แรกเกิดถึงก่อน เข้า ป.1 ตามนโยบายด้านเด็กปฐมวัย พ.ศ.2555-2559 ซึ่งมี 7 กระทรวงหลัก 35 หน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน และองค์การชุมชนเกี่ยวข้อง โดยทำงานแบบบูรณาการ มี 4 ยุทธศาสตร์ คือ 1.เด็กทุกคนได้รับบริการในการพัฒนาเต็มศักยภาพ 2.ไอโอดีนกับการพัฒนาเด็กปฐมวัย 3.การอบรมเลี้ยงดูเด็กปฐมวัย และ 4.กลไกการดำเนินงานพัฒนาเด็กปฐมวัย รวมทั้งรับทราบผลการเดินทางที่ตนไปประชุมรัฐมนตรีศึกษาอาเซียน ครั้งที่ 7 และอนุญาตให้ ศธ.เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสภารัฐมนตรีศึกษาแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ สภาซีเมค ครั้งที่ 48 ในปี 2558 ด้วย
ศ.ดร.สุชาติ กล่าวถึงเหตุผลการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับ 10 ในส่วนของ ศธ.ว่า การแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้ได้มีการปรึกษาผู้บริหารระดับ 11 ของทุกแห่งมาโดยตลอด และได้มีการนำเสนอรายชื่อให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาตั้งแต่เดือนสิงหาคม ซึ่งขั้นตอนการนำเข้าเป็นเรื่องสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) และได้มีการนำรายชื่อโยกย้าย ข้าราชการระดับ11 เข้าสู่การพิจารณาของ ครม.ก่อน ขณะเดียวกัน ขณะนั้นนายกฯก็ติดภารกิจ เดินทางไปประชุมต่างประเทศ ดังนั้น จึงยังไม่เข้า ครม.ในช่วงนั้น
“ที่มีคนบอกว่าการโยกย้ายครั้งนี้ ผมไม่ได้ปรึกษาใคร และบอกว่า จะมีผลกระทบต่อการสอบวินัยร้ายแรง น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ เลขาธิการสภาการศึกษานั้นก็ไม่เป็นความจริง เพราะคณะกรรมการชุดดังกล่าวสามารถดำเนินการสอบวินัยต่อไปได้ ส่วนการที่ให้ นายพินิติ รตะนานุกูล รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) ไปเป็น ผู้ตรวจราชการ ศธ.นั้น เพราะเห็นว่าได้ทำงานในตำแหน่งรองเลขาธิการ กกอ.มาพอสมควรแล้ว จึงต้องการให้สลับสับเปลี่ยนบ้าง ซึ่งการแต่งตั้งโยกย้ายทั้งหมดได้ถามความเห็นชอบของหัวหน้าแต่ละแท่งแล้ว” รมว.ศึกษาธิการ กล่าว
ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ว่า ที่ประชุมเห็นชอบร่างกฎกระทรวงการรวมสถานศึกษาอาชีวศึกษาเพื่อจัดตั้งสถาบันการอาชีวศึกษาเกษตร จำนวน 4 สถาบัน ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) เสนอ โดยการรวมสถานศึกษาอาชีวศึกษาประเภทวิชาเกษตรและประมงที่มีเขตพื้นที่ติดต่อกันในแต่ละภูมิภาค คือ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ นอกจากนี้ ครม.ยังเห็นชอบงบประมาณค่าใช้จ่ายต่อหัวในการจัดการศึกษานอกระบบ ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานสำหรับคนพิการ เช่นเดียวกับนักเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ขณะเดียวกัน ที่ประชุม ครม.ยังเห็นชอบแผนยุทธศาสตร์ชาติด้านเด็กปฐมวัย ตั้งแต่แรกเกิดถึงก่อน เข้า ป.1 ตามนโยบายด้านเด็กปฐมวัย พ.ศ.2555-2559 ซึ่งมี 7 กระทรวงหลัก 35 หน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน และองค์การชุมชนเกี่ยวข้อง โดยทำงานแบบบูรณาการ มี 4 ยุทธศาสตร์ คือ 1.เด็กทุกคนได้รับบริการในการพัฒนาเต็มศักยภาพ 2.ไอโอดีนกับการพัฒนาเด็กปฐมวัย 3.การอบรมเลี้ยงดูเด็กปฐมวัย และ 4.กลไกการดำเนินงานพัฒนาเด็กปฐมวัย รวมทั้งรับทราบผลการเดินทางที่ตนไปประชุมรัฐมนตรีศึกษาอาเซียน ครั้งที่ 7 และอนุญาตให้ ศธ.เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสภารัฐมนตรีศึกษาแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ สภาซีเมค ครั้งที่ 48 ในปี 2558 ด้วย
ศ.ดร.สุชาติ กล่าวถึงเหตุผลการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับ 10 ในส่วนของ ศธ.ว่า การแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้ได้มีการปรึกษาผู้บริหารระดับ 11 ของทุกแห่งมาโดยตลอด และได้มีการนำเสนอรายชื่อให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาตั้งแต่เดือนสิงหาคม ซึ่งขั้นตอนการนำเข้าเป็นเรื่องสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) และได้มีการนำรายชื่อโยกย้าย ข้าราชการระดับ11 เข้าสู่การพิจารณาของ ครม.ก่อน ขณะเดียวกัน ขณะนั้นนายกฯก็ติดภารกิจ เดินทางไปประชุมต่างประเทศ ดังนั้น จึงยังไม่เข้า ครม.ในช่วงนั้น
“ที่มีคนบอกว่าการโยกย้ายครั้งนี้ ผมไม่ได้ปรึกษาใคร และบอกว่า จะมีผลกระทบต่อการสอบวินัยร้ายแรง น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ เลขาธิการสภาการศึกษานั้นก็ไม่เป็นความจริง เพราะคณะกรรมการชุดดังกล่าวสามารถดำเนินการสอบวินัยต่อไปได้ ส่วนการที่ให้ นายพินิติ รตะนานุกูล รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) ไปเป็น ผู้ตรวจราชการ ศธ.นั้น เพราะเห็นว่าได้ทำงานในตำแหน่งรองเลขาธิการ กกอ.มาพอสมควรแล้ว จึงต้องการให้สลับสับเปลี่ยนบ้าง ซึ่งการแต่งตั้งโยกย้ายทั้งหมดได้ถามความเห็นชอบของหัวหน้าแต่ละแท่งแล้ว” รมว.ศึกษาธิการ กล่าว
