กทม.เตือนคณะกรรมการคดีพิเศษพิจารณาให้ถี่ถ้วนก่อนลงมติรับคดีบีทีเอส เพราะมีผลผูกพันทางกฎหมาย
นายอัศวัชร์ อภัยวงศ์ ที่ปรึกษา นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงกรณีที่ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ออกมาแถลงข่าวว่าคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.)ได้รับคดีสัญญาจ้างเดินรถไฟฟ้าบีทีเอสเป็นคดีพิเศษเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่า การแถลงข่าวของ นายธาริต ทำให้สื่อมวลชนเข้าใจว่า กคพ.ได้รับเรื่องนี้ไว้เป็นคดีพิเศษแล้ว แต่ข้อเท็จจริงจากการให้สัมภาษณ์ของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานการประชุม กคพ.วันนั้น ยังไม่ได้มีมติรับ เพียงแต่ให้ดีเอสไอสอบสวนข้อเท็จจริง หากพบว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐเกี่ยวข้องหรือมีหน่วยงานใดสอบสวนอยู่ก็ให้เป็นหน้าที่ของหน่วยงานนั้น ซึ่งเรื่องดังกล่าวส.ส.พรรคเพื่อไทย เคยยื่นเรื่องกับดีเอสไอและคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)เมื่อต้นเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา และมีการกล่าวหาผู้บริหาร กทม.ซึ่งหมายถึงผู้ว่าฯกทม.ดังนั้นจึงไม่อยู่ในอำนาจของดีเอสไอ อย่างไรเรื่องก็ต้องไป ป.ป.ช.
นายอัศวัชร์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ กทม.ทราบมาว่า ดีเอสไอกำลังเวียนรายงานการประชุมให้กรรมการใน กคพ.รับรองมติที่ประชุม ตนเองจึงขอฝากถึงกรรมการทุกท่าน ขอให้พิจารณาให้ดีก่อนว่าตรงกับข้อสรุปของประธานกคพ.หรือไม่ เพราะการลงมติรับหรือไม่รับเป็นคดีพิเศษ มีความแตกต่างกันมากในเรื่องความรับผิดชอบของกรรมการที่มีผลต่อการฟ้องร้องได้
นายอัศวัชร์ อภัยวงศ์ ที่ปรึกษา นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงกรณีที่ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ออกมาแถลงข่าวว่าคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.)ได้รับคดีสัญญาจ้างเดินรถไฟฟ้าบีทีเอสเป็นคดีพิเศษเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่า การแถลงข่าวของ นายธาริต ทำให้สื่อมวลชนเข้าใจว่า กคพ.ได้รับเรื่องนี้ไว้เป็นคดีพิเศษแล้ว แต่ข้อเท็จจริงจากการให้สัมภาษณ์ของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานการประชุม กคพ.วันนั้น ยังไม่ได้มีมติรับ เพียงแต่ให้ดีเอสไอสอบสวนข้อเท็จจริง หากพบว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐเกี่ยวข้องหรือมีหน่วยงานใดสอบสวนอยู่ก็ให้เป็นหน้าที่ของหน่วยงานนั้น ซึ่งเรื่องดังกล่าวส.ส.พรรคเพื่อไทย เคยยื่นเรื่องกับดีเอสไอและคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)เมื่อต้นเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา และมีการกล่าวหาผู้บริหาร กทม.ซึ่งหมายถึงผู้ว่าฯกทม.ดังนั้นจึงไม่อยู่ในอำนาจของดีเอสไอ อย่างไรเรื่องก็ต้องไป ป.ป.ช.
นายอัศวัชร์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ กทม.ทราบมาว่า ดีเอสไอกำลังเวียนรายงานการประชุมให้กรรมการใน กคพ.รับรองมติที่ประชุม ตนเองจึงขอฝากถึงกรรมการทุกท่าน ขอให้พิจารณาให้ดีก่อนว่าตรงกับข้อสรุปของประธานกคพ.หรือไม่ เพราะการลงมติรับหรือไม่รับเป็นคดีพิเศษ มีความแตกต่างกันมากในเรื่องความรับผิดชอบของกรรมการที่มีผลต่อการฟ้องร้องได้
