ศธ.เตรียมดึงเด็กอาชีวะปลูกป่าไผ่ ทำกำแพงธรรมชาติกั้นช้างป่าเข้าทำลายผลผลิตเกษตรกร พร้อมจับขาโจ๋อาชีวะร่วมปลูกป่าไผ่กับชาวบ้านเพื่อสัมผัสธรรมชาติ สร้างสำนึกจิตสาธารณะ
นายศักดา คงเพชร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวภายหลังการประชุมหารือเพื่อแก้ปัญหาช้างป่าบุกรุกทำลายพืชผลเกษตรกร ร่วมกันระหว่าง สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และมูลนิธิต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์และดูแลช้าง ว่า ตามที่ได้มีข่าวช้างป่าบุกทำลายผลิตผลทางการเกษตรของชาวบ้านในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ รวมถึงการทำร้ายช้างป่าจนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตนั้น ที่ประชุมมีข้อสรุปร่วมกันว่าจะมีการทำบันทึกข้อตกร่วมกับกระทรวงทรัพยากรฯ เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยจะให้นักศึกษาอาชีวะจากวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีมาช่วยเพาะต้นไผ่ให้ เพื่อสร้างเป็นแนวรั้วป้องกันช้างป่าไม่ให้เข้ามาทำลายพืชผลการเกษตรของชาวบ้าน โดยต้นไผ่ที่จะนำมาใช้เป็นแนวรั้วนั้นมีทั้งพันธุ์ไผ่รวก และไผ่ด้ามขวานชนิดมีหนาม อย่างไรก็ตาม ทราบว่าที่ผ่านมาชาวบ้านและกรมป่าไม้ได้สร้างแนวรั้วกันพื้นที่ด้วยลวดหนามไฟฟ้า แต่ไม่มีความปลอดภัยเท่าที่ควร เพราะมีชาวบ้านบางคนถูกไฟดูด อีกทั้งช้างป่าก็มาทำลายรั้วไฟฟ้าจนเสียหาย
“หากเราใช้ไผ่ทั้ง 2 ชนิดทำเป็นแนวรั้วเราจะได้กำแพงไผ่หนามและไผ่ที่เป็นอาหารให้แก่ช้างด้วย อีกทั้ง ยังใช้ต้นไผ่กำหนดแนวพื้นป่าได้ดีกว่ารั้วไฟฟ้าที่ไม่เป็นระบบธรรมชาติด้วย ซึ่งเชื่อว่าจะไม่มีใครมาทำลายรื้อแนวต้นไผ่ได้ ทั้งนี้โครงการเพาะต้นไผ่เพื่อกันเป็นแนวรั้วป้องกันช้างป่าทำลายพืชผลการเกษตรนั้นคาดว่าจะเริ่มภายในสัปดาห์หน้าที่จังหวัดเพชรบุรี และต้องทำอย่างเร่งด่วน” รมช.ศึกษาธิการ กล่าว
นายศักดา กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ในส่วนการนำต้นไผ่ไปปลูกนั้น สอศ.อาจจะนำกลุ่มนักเรียนอาชีวะที่ชอบก่อเหตุทะเลาะวิวาทไปช่วยชาวบ้านปลูกเพื่อให้เขาได้เรียนรู้และสัมผัสกับธรรมชาติเป็นการใช้ธรรมชาติบำบัด สร้างเด็กให้มีจิตสาธารณะ ขณะเดียวกันก็จะขอความร่วมมือจากกลุ่มคน หน่วยงานที่มีจิตอาสามาร่วมมือกันด้วยและวิทยาลัยเกษตรฯ พร้อมช่วยให้การสนับสนุน ขณะเดียวกันจะประสานให้ทางวิทยาลัยเทคนิค ซึ่งมีความเชี่ยวชาญเรื่องไฟฟ้าหรือหน่วย Fix it Center เข้าไปช่วยตรวจสอบระบบไฟฟ้าของแนวรั้วไฟฟ้าเพื่อความปลอดภัยและทำให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด
นายศักดา คงเพชร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวภายหลังการประชุมหารือเพื่อแก้ปัญหาช้างป่าบุกรุกทำลายพืชผลเกษตรกร ร่วมกันระหว่าง สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และมูลนิธิต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์และดูแลช้าง ว่า ตามที่ได้มีข่าวช้างป่าบุกทำลายผลิตผลทางการเกษตรของชาวบ้านในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ รวมถึงการทำร้ายช้างป่าจนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตนั้น ที่ประชุมมีข้อสรุปร่วมกันว่าจะมีการทำบันทึกข้อตกร่วมกับกระทรวงทรัพยากรฯ เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยจะให้นักศึกษาอาชีวะจากวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีมาช่วยเพาะต้นไผ่ให้ เพื่อสร้างเป็นแนวรั้วป้องกันช้างป่าไม่ให้เข้ามาทำลายพืชผลการเกษตรของชาวบ้าน โดยต้นไผ่ที่จะนำมาใช้เป็นแนวรั้วนั้นมีทั้งพันธุ์ไผ่รวก และไผ่ด้ามขวานชนิดมีหนาม อย่างไรก็ตาม ทราบว่าที่ผ่านมาชาวบ้านและกรมป่าไม้ได้สร้างแนวรั้วกันพื้นที่ด้วยลวดหนามไฟฟ้า แต่ไม่มีความปลอดภัยเท่าที่ควร เพราะมีชาวบ้านบางคนถูกไฟดูด อีกทั้งช้างป่าก็มาทำลายรั้วไฟฟ้าจนเสียหาย
“หากเราใช้ไผ่ทั้ง 2 ชนิดทำเป็นแนวรั้วเราจะได้กำแพงไผ่หนามและไผ่ที่เป็นอาหารให้แก่ช้างด้วย อีกทั้ง ยังใช้ต้นไผ่กำหนดแนวพื้นป่าได้ดีกว่ารั้วไฟฟ้าที่ไม่เป็นระบบธรรมชาติด้วย ซึ่งเชื่อว่าจะไม่มีใครมาทำลายรื้อแนวต้นไผ่ได้ ทั้งนี้โครงการเพาะต้นไผ่เพื่อกันเป็นแนวรั้วป้องกันช้างป่าทำลายพืชผลการเกษตรนั้นคาดว่าจะเริ่มภายในสัปดาห์หน้าที่จังหวัดเพชรบุรี และต้องทำอย่างเร่งด่วน” รมช.ศึกษาธิการ กล่าว
นายศักดา กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ในส่วนการนำต้นไผ่ไปปลูกนั้น สอศ.อาจจะนำกลุ่มนักเรียนอาชีวะที่ชอบก่อเหตุทะเลาะวิวาทไปช่วยชาวบ้านปลูกเพื่อให้เขาได้เรียนรู้และสัมผัสกับธรรมชาติเป็นการใช้ธรรมชาติบำบัด สร้างเด็กให้มีจิตสาธารณะ ขณะเดียวกันก็จะขอความร่วมมือจากกลุ่มคน หน่วยงานที่มีจิตอาสามาร่วมมือกันด้วยและวิทยาลัยเกษตรฯ พร้อมช่วยให้การสนับสนุน ขณะเดียวกันจะประสานให้ทางวิทยาลัยเทคนิค ซึ่งมีความเชี่ยวชาญเรื่องไฟฟ้าหรือหน่วย Fix it Center เข้าไปช่วยตรวจสอบระบบไฟฟ้าของแนวรั้วไฟฟ้าเพื่อความปลอดภัยและทำให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด
