“พนิตา” รอ “สุชาติ” ตั้งเป็นประธานสรรหาฯ ก่อน เริ่มกระบวนการสรรหาและเสนอชื่อประธานคุรุสภา ใหม่อีกรอบ คาดเสร็จภายในเดือน ต.ค.นี้คงไม่ทัน 15 วันตามที่ รมว.ศึกษาฯ กำหนด ชี้ หากดำเนินการใหม่แล้วยังมีปัญหาร้องเรียนอีกอาจจะเสนอให้ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงเพื่อความโปร่งใส พร้อมเล็งไปตรวจเยี่ยมโรงพิมพ์องค์การค้า ของ สกสค.เพื่อรับฟังปัญหา
วันนี้ (3 ต.ค.) นางพนิตา กำภู ณ อยุธยา ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ตนได้เข้าพบ ศ.ดร.สุชาติธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เพื่อรับฟังนโยบายการทำงาน ซึ่ง รมว.ศึกษาธิการ ได้มอบหมายให้ช่วยขยายผลการทำงานใน 31 นโยบายของ ศธ.ให้เห็นผลเป็นรูปธรรม พร้อมกันนี้ได้ขอให้ช่วยแก้ไขปัญหาการสรรหาหนี้สินองค์การค้า ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ที่มีอยู่ประมาณ 3,000 กว่าล้านบาท มีพนักงานมากกว่า 1,500 คน และยังทราบว่ามีการค้างจ่ายเงินเดือนพนักงานบางส่วนอยู่ด้วย ดังนั้น จะต้องเร่งเข้าไปแก้ไขปัญหาโดยอาจจะลดขนาดขององค์กรให้เล็กลง เพื่อให้สามารถบริหารจัดการได้คล่องตัวขึ้น เพราะเข้าใจว่าคนทำงานแล้วไม่ได้เงินย่อมจะมีความอึดอัด โดยเร็วๆ นี้ ตนจะเดินทางไปตรวจเยี่ยมยังโรงพิมพ์องค์การค้า ของ สกสค.รวมทั้งจะเข้าไปรับฟังปัญหาต่างๆ จาก นายสมมาตร มีศิลป์ ผู้อำนวยการองค์การค้า ของ สกสค.อีกครั้ง เพื่อจะได้วางแผนแนวทางแก้ไขปัญหา
อีกเรื่องหนึ่งที่ รมว.ศึกษาธิการ มอบหมายให้เร่งดำเนินการ คือ การสรรหาประธานคุรุสภา ที่ยังมีปัญหาค้างไว้ ให้เรียบร้อยภายใน 15 วัน แต่ตนไม่แน่ใจว่าจะดำเนินการทันตามเวลาที่กำหนดไว้หรือไม่ เนื่องจากก่อนหน้านั้น น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ อดีตปลัด ศธ.ทำหน้าที่ประธานสรรหา แต่ตอนนี้ไปเป็นเลขาธิการสภาการศึกษา แล้ว เพราะฉะนั้นต้องมีการตั้งประธานสรรหาฯ คนใหม่แทน ซึ่ง พ.ร.บ.สภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2546 ใน ม.18 ให้อำนาจ รมว.ศึกษาธิการ เป็นผู้คัดประธานสรรหาเอง แต่ไม่ได้กำหนดว่า ปลัด ศธ.จะต้องเป็นประธานสรรหาโดยตำแหน่ง เพราะฉะนั้นต้องรอให้ รมว.ศึกษาธิการ แต่งตั้งประธานสรรหาคนใหม่ก่อนจึงจะเริ่มกระบวนการสรรหาประธานคุรุสภาได้อีกครั้ง แต่ในส่วนของกรรรมการสรรหา คงไม่มีการเปลี่ยนแปลง และคาดว่า กระบวนการทั้งหมดจะเสร็จสิ้นภายในเดือนตุลาคมนี้
“ทราบจากข่าวว่า การสรรหาประธานคุรุสภา ที่มีปัญหานั้น เพราะมีผู้ถูกเสนอชื่อ 4 คน แต่มาแสดงวิสัยทัศน์เพียงคนเดียว คือ นายพฤกษ์ ศิริบรรณพิทักษ์ อดีตคณะบดีคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แต่อีก 3 คนที่ได้รับการเสนอชื่อไม่ได้มาแสดงวิสัยทัศน์ ซึ่งอาจคิดไปได้ว่าเหมือนเป็นการบีบให้ รมว.ศึกษาธิการ เลือกบุคคลที่มาแสดงวิสัยทัศน์ ดังนั้น เมื่อตั้งประธานสรรหาแล้วก็ต้องเริ่มเสนอชื่อใหม่ โดยจะมาพิจารณากันอีกครั้ง และคิดว่า 3 คนที่ไม่ได้มาแสดงวิสัยทัศน์ก็ไม่น่าจะได้รับการเสนอชื่อเข้ารับการสรรหาอีก อย่างไรก็ตาม มองว่าหากมีการสรรหาและเสนอชื่อใหม่แล้วยังมีผู้ร้องเรียนอีก ก็อาจจะเสนอให้ รมว.ศึกษาธิการ ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงถึงความโปร่งใสของกระบวนการสรรหาทั้งหมด” นางพนิตา กล่าว
