ปลัด ศธ.คนใหม่ รับงานวันแรก เผยนายกฯฝาก 3 สางปัญหาเยาวชน ครู และต่อยอดนโยบายโอทอป ผุดแนวคิดพัฒนาครูเป็นพ่อแม่ทดแทนช่วยพ่อแม่ดูแลเด็ก เล็งประสานความร่วมมือทุกแท่งใน ศธ.ร่วมมือทำงานให้เป็นภาพเดียวกัน ยันกรณีถูกตั้งกรรมการสอบจบแล้ว เพราะบริสุทธิ์รัฐบาลถึงคืนความเป็นธรรมให้
วันนี้ (2 ต.ค.) เวลา 05.50 ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางพนิตา กำภู ณ อยุธยา เดินทางเข้ารับตำแหน่งปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) อย่างเป็นทางการ โดยมีผู้บริหาร ข้าราชการสังกัดสำนักงานปลัด ศธ.รอให้การต้อนรับ โดยเวลา 06.20 น. นางพนิตา เดินทางถึงกระทรวงฯ และเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวง พระพุทธบารมีศักดิ์สิทธิ์ สยามิศรจักรี สัฎฐีอนุสรณ์ ศึกษาทรรังสรรค์ พระภูมิเจ้าที่ พระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 6 และศาลปู่เจียม ข้างสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ก่อนจะเดินทางเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในห้องทำงาน ปลัด ศธ. และรับมอบแจกันดอกไม้ ของที่ระลึกจากหน่วยงานต่างๆ ที่มาร่วมแสดงความยินดี
ต่อมาเวลา 10.00 น.นางพนิตา ได้ประชุมร่วมกับผู้บริหาร สป.ศธ.เพื่อรับฟังข้อมูลการทำงานของหน่วยงานในสังกัด และมอบนโยบายในการทำงานให้กับข้าราชการ ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ฝากให้ตนมาดูแลใน 3 เรื่องสำคัญ คือ 1.ปัญหา เด็กและเยาวชน ซึ่งตอนที่อยู่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ตนจะคอยเป็นตัวกลางบอกให้หน่วยงานอื่นทำ ดังนั้นเมื่อตนมานั่งทำงานที่ ศธ.เองก็ถือเป็นกลุ่มเป้าหมายในการแก้ปัญหาโดยตรง โดยเฉพาะปัญหาท้องก่อนวัยอันควร ที่ขณะนี้พบว่ามีเด็กที่ท้องก่อนวัยอันควรอายุน้อยลงเรื่อยๆ ล่าสุด อายุเพียง 11 ปี และที่สำคัญพบว่า เด็กที่คลอดออกมาส่วนใหญ่จะไม่สมประกอบ ทำให้มีบุคลากรที่ด้อยคุณภาพออกมาเพิ่มขึ้น นอกจากนั้น ยังมีปัญหาเด็กแว้น ปัญหานักเรียนตีกัน โดยตนมีแนวคิดจะสร้างครูให้เป็นพ่อแม่ทดแทน เพื่อช่วยดูแลเด็กเหล่านี้แทนพ่อแม่จริง ๆ โดยเฉพาะในต่างจังหวัด ที่เด็กส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่กับตา ยาย ซึ่งเป็นคนแก่ ที่อาจตามไม่ทันเด็ก ดังนั้นหากครูเป็นพ่อแม่ทดแทนได้เด็กก็จะมีที่พึ่งไม่ทำอะไรนอกลู่นอกทาง
2.การพัฒนาครูให้มีมาตรฐานเท่าเทียมกันทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นครูของรัฐและครูเอกชน เพื่อให้นักเรียนได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพเท่าเทียมกันทั่วประเทศ และ3 จะต่อยอดโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ หรือโอทอป ของรัฐบาล เชื่อมโยงฝึกอาชีพให้นักเรียนผ่านทางสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการ ศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) เพื่อเป็นรายได้ให้นักเรียนใช้สำหรับการศึกษาโดยไม่ต้องเดือดร้อน พร้อมกันนี้ จะประสานกันสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) และสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ขอความร่วมมือผู้หญิงที่อายุ 15 ปี เข้ามาสมัครเป็นสมาชิกกองทุนบทบาทสตรี เพื่อที่เด็กและเยาวชนที่ขาดโอกาสจะได้ใช้เงินจากกองทุนนี้พัฒนาศักยภาพตนเองได้
“ยังนโยบายสำคัญอีกเรื่อง คือ การแก้ปัญหาการศึกษาในสามจังหวัดชายแดนใต้ ทั้งในส่วนของเด็กพุทธและมุสลิมต้องได้รับการศึกษาที่เท่าเทียมเพื่อจะได้มีความเข้าใจซึ่งกันและกัน และสามารถอยู่ร่วมกันได้ในทุกที่ ดิฉัน อยากทำงานโดยการประสานขอความร่วมมือกับทุกองค์กรหลักของศธ. เพราะภาพการทำงาน ศธ.จากสังคมทั่วไปมองไม่ออกว่าปลัดศธ.ต้องทำอะไรบ้าง และไม่ได้มองแบ่งออกเป็นแต่ละหน่วยงาน เพราะฉะนั้น เราจึงต้องจับมือร่วมกันทำงานในรูปแบบครอบครัวเดียวกัน เพื่อให้ภาพการทำงานของ ศธ.ออกมาอย่างชัดเจน ซึ่งดิฉันเชื่อว่าเราอยู่ในรั้วเสมาเดียวกัน เป็นครอบครัวเดียวกันจะพูดคุยและร่วมมือกันได้ง่าย” นางพนิตา กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่ถูกตั้งตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยสมัยดำรงตำแหน่งปลัด พม.จะกระทบกับการทำงานในตำแหน่งใหม่หรือไม่ นางพนิตา กล่าวว่า เรื่องนี้คิดว่าหากรัฐบาลแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งใหม่ก็ถือว่าจบแล้ว และตนบริสุทธิ์รัฐบาลจึงคืนความเป็นธรรมให้