วิจัยพบ วัยรุ่นหญิงนิยมใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินแบบเพียวๆ ไม่เอาถุงยาง เหตุหาซื้อง่าย เพื่อนแนะนำ และยังมีความเข้าใจเรื่องการใช้ยาแบบผิดๆ ศูนย์อนามัยที่ 5 โคราช เล็งนำเข้าโปรแกรมธรรมะปรับวิธีคิดการมีเพศสัมพันธ์
ภญ.ปุญชรัสมิ์ ศิริทรัพย์ เภสัชกรชำนาญการศูนย์อนามัยที่ 5 จ.นครราชสีมา เสนอผลการวิจัยเรื่อง “การใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินในนักเรียนหญิงระดับมัธยมศึกษา เขตนครชัยบุรินทร์” ในการประชุมวิชาการกระทรวงสาธารณสุข ประจำปี 2555 ว่า ปัจจุบันวัยรุ่นนิยมใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินเพิ่มมากขึ้น จากการทำแบบสอบถามเบื้องต้นทำให้ทราบวัยรุ่นมีความรู้ในเรื่องการคุมกำเนิดในระดับปานกลาง แต่มีความรู้ในทางปฏิบัติต่ำ เนื่องจากส่วนใหญ่ยังไม่ทราบข้อมูลที่แท้จริงของยา รวมทั้งเข้าใจว่าสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ผล 100 เปอร์เซ็นต์ จึงทำการวิจัยต่อเนื่องโดยเจาะลึกในเรื่องการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินในกลุ่มนักเรียนหญิงระดับมัธยมศึกษาในเขตนครชัยบุรินทร์ จำนวน 1,275 คน โดยใช้แบบสอบถามวัดความรู้และพฤติกรรมในการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน
ภญ.ปุญชรัสมิ์ กล่าวอีกว่า ผลจากการศึกษา พบว่า นักเรียนหญิงมีการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ ร้อยละ 63.50 โดยเตรียมยาไว้ใช้ทุกครั้งก่อนมีเพศสัมพันธ์ร้อยละ 56.61 เนื่องจากสามารถหาซื้อได้ง่าย และมีความเข้าใจว่าการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ร้อยละ 38.97 สามารถใช้ป้องกันการตั้งครรภ์ได้เหมือนยาคุมกำเนิดปกติทั่วไปร้อยละ 57.02 ทั้งนี้ จำนวนเฉลี่ยการใช้ยาอยู่ที่ 4.16 เม็ดต่อเดือน และนิยมใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินอย่างเดียวโดยไม่ใช้วิธีคุมกำเนิดใดๆ ร่วมเลย นอกจากนี้ พบว่า ได้รับข้อมูลข่าวสารมาจากเพื่อนมากที่สุด โดยร้อยละ 80.74 ระบุว่า เพื่อนเป็นผู้แนะนำให้ใช้
“นักเรียนหญิงยังคงมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการใช้ยา วิธีการใช้ยา กลไกการออกฤทธิ์ รวมไปถึงพฤติกรรมการใช้ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลให้เกิดปัญหาขึ้นตามมา อาทิ การตั้งครรภ์ในวัยเรียน การเป็นมะเร็งมดลูกในอนาคต นับเป็นเรื่องที่น่าห่วง ดังนั้น ทางคณะวิจัยจึงเตรียมที่จะนำข้อมูลดังกล่าวไปใช้ในการจัดทำแผนพัฒนายุทธศาสตร์พัฒนาสุขภาพและอนามัยการเจริญพันธุ์ในวัยรุ่นระดับเขตนครชัยบุรินทร์ต่อไป” ภญ.ปุญชรัสมิ์ กล่าว
ภญ.ปุญชรัสมิ์ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ทางคณะวิจัยเตรียมที่จะนำนักเรียนหญิงโดยเฉพาะที่มีการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินมาเข้าโปรแกรมอบรมปฏิบัติในเรื่องของธรรมะ การมีสติ และการใช้ชีวิต โดยเฉพาะแนวทางการคุมกำเนิดระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ จากนั้นจะมีการติดตามต่อว่ามีแนวทางการใช้ชีวิตที่ถูกต้องขึ้นหรือไม่ เมื่อทำการวิจัยในส่วนนี้เสร็จแล้ว คาดว่าจะนำแนวทางดังกล่าวไปทำวิจัยในระดับประเทศ เพื่อพัฒนาสุขภาพและอนามัยเจริญพันธุ์ในระดับประเทศด้วย
ภญ.ปุญชรัสมิ์ ศิริทรัพย์ เภสัชกรชำนาญการศูนย์อนามัยที่ 5 จ.นครราชสีมา เสนอผลการวิจัยเรื่อง “การใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินในนักเรียนหญิงระดับมัธยมศึกษา เขตนครชัยบุรินทร์” ในการประชุมวิชาการกระทรวงสาธารณสุข ประจำปี 2555 ว่า ปัจจุบันวัยรุ่นนิยมใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินเพิ่มมากขึ้น จากการทำแบบสอบถามเบื้องต้นทำให้ทราบวัยรุ่นมีความรู้ในเรื่องการคุมกำเนิดในระดับปานกลาง แต่มีความรู้ในทางปฏิบัติต่ำ เนื่องจากส่วนใหญ่ยังไม่ทราบข้อมูลที่แท้จริงของยา รวมทั้งเข้าใจว่าสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ผล 100 เปอร์เซ็นต์ จึงทำการวิจัยต่อเนื่องโดยเจาะลึกในเรื่องการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินในกลุ่มนักเรียนหญิงระดับมัธยมศึกษาในเขตนครชัยบุรินทร์ จำนวน 1,275 คน โดยใช้แบบสอบถามวัดความรู้และพฤติกรรมในการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน
ภญ.ปุญชรัสมิ์ กล่าวอีกว่า ผลจากการศึกษา พบว่า นักเรียนหญิงมีการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ ร้อยละ 63.50 โดยเตรียมยาไว้ใช้ทุกครั้งก่อนมีเพศสัมพันธ์ร้อยละ 56.61 เนื่องจากสามารถหาซื้อได้ง่าย และมีความเข้าใจว่าการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ร้อยละ 38.97 สามารถใช้ป้องกันการตั้งครรภ์ได้เหมือนยาคุมกำเนิดปกติทั่วไปร้อยละ 57.02 ทั้งนี้ จำนวนเฉลี่ยการใช้ยาอยู่ที่ 4.16 เม็ดต่อเดือน และนิยมใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินอย่างเดียวโดยไม่ใช้วิธีคุมกำเนิดใดๆ ร่วมเลย นอกจากนี้ พบว่า ได้รับข้อมูลข่าวสารมาจากเพื่อนมากที่สุด โดยร้อยละ 80.74 ระบุว่า เพื่อนเป็นผู้แนะนำให้ใช้
“นักเรียนหญิงยังคงมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการใช้ยา วิธีการใช้ยา กลไกการออกฤทธิ์ รวมไปถึงพฤติกรรมการใช้ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลให้เกิดปัญหาขึ้นตามมา อาทิ การตั้งครรภ์ในวัยเรียน การเป็นมะเร็งมดลูกในอนาคต นับเป็นเรื่องที่น่าห่วง ดังนั้น ทางคณะวิจัยจึงเตรียมที่จะนำข้อมูลดังกล่าวไปใช้ในการจัดทำแผนพัฒนายุทธศาสตร์พัฒนาสุขภาพและอนามัยการเจริญพันธุ์ในวัยรุ่นระดับเขตนครชัยบุรินทร์ต่อไป” ภญ.ปุญชรัสมิ์ กล่าว
ภญ.ปุญชรัสมิ์ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ทางคณะวิจัยเตรียมที่จะนำนักเรียนหญิงโดยเฉพาะที่มีการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินมาเข้าโปรแกรมอบรมปฏิบัติในเรื่องของธรรมะ การมีสติ และการใช้ชีวิต โดยเฉพาะแนวทางการคุมกำเนิดระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ จากนั้นจะมีการติดตามต่อว่ามีแนวทางการใช้ชีวิตที่ถูกต้องขึ้นหรือไม่ เมื่อทำการวิจัยในส่วนนี้เสร็จแล้ว คาดว่าจะนำแนวทางดังกล่าวไปทำวิจัยในระดับประเทศ เพื่อพัฒนาสุขภาพและอนามัยเจริญพันธุ์ในระดับประเทศด้วย
