สถิติคนไทยดื่มนมแค่ 14.19 ลิตรต่อคนต่อปี แต่กลับดื่มเหล้ามากกว่า 3 เท่า สสส.-สคล.จับมือ อ.ส.ค.หนุนกิจกรรม “ธรรมะในฟาร์ม ตักบาตรนมสดแห่งแรกของไทย” สานต่อกิจกรรมงดเหล้าเข้าพรรษา ชวนคนไทยงดเหล้าหันมาดื่มนม สร้างภูมิคุ้มกันให้ชีวิต พ่อเมืองโคนม ผลักนโยบายเที่ยวเชิงเกษตร หนุนงานวัฒนธรรม ย้ำ!! ไม่นำอบายมุขมาเกี่ยวข้อง
วันนี้ (28 ก.ย.) ที่ฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ค อ.มวกเหล็ก จ. สระบุรี นายถาวร พรหมมีชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี ประธานในพิธีเปิดงาน “ธรรมะในฟาร์มและตักบาตรนมสด” เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จัดโดยสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) พร้อมรณรงค์เชิญชวนให้คนไทยงดเหล้าหันมาดื่มนม เพื่อเสริมสร้างสุขภาพกายใจที่แข็งแรงมากขึ้น
นายถาวร กล่าวว่า จังหวัดสระบุรี มีวัฒนธรรมประเพณีที่ดีงาม คือ ประเพณีตักบาตรดอกไม้ ถือเป็นประเพณีหนึ่งเดียวในโลก ในครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่จัดการร่วมตักบาตรนมสด เป็นอีกหนึ่งทางของการทำบุญ เนื่องจากสระบุรีเป็นเมืองโคนม เป็นฐานในการผลิตน้ำนมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ การร่วมบุญ ในครั้งนี้เป็นการร่วมสร้างความดีให้มากขึ้น มีการรักษาศีลอย่างน้อย ศีล 5 ก็จะช่วยขจัดความมัวเมาหลงผิดของเราได้ นอกจากนี้ยังเป็นการสนับสนุนให้เกิดเป็นการท่องเที่ยวเชิงเกษตร ซึ่งเป็นการสนับสนุนโยบายของทางจังหวัด
ภก.สงกรานต์ ภาคโชคดี ผู้อำนวยการ สคล.กล่าวถึงความสำคัญของความร่วมมือและการจัดกิจกรรมรณรงค์ในช่วงงดเหล้าเข้าพรรษา ว่า ปีนี้ได้ตั้งเป้าหมายเชิญชวนองค์กร ครอบครัวและบุคคล เข้าร่วม โดยทาง อ.ส.ค.เป็นอีกหนึ่งในองค์กรที่ร่วมโครงการรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษามหากุศล ทั้งนี้ มีข้อมูลของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ระบุว่า ประเทศไทย คือ ฐานการผลิตน้ำนมดิบมากที่สุด แต่คนไทยกลับดื่มนมไม่มากนัก ประมาณ 14.19 ลิตรต่อคนต่อปี ขณะที่อัตราบริโภคนมโดยเฉลี่ยของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อยู่ที่ 60 ลิตรต่อคนต่อปี ส่วนข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข พบว่า คนไทยดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 2, 699 ล้านลิตร ประมาณ 53 ลิตรต่อคนต่อปี ถือเป็นตัวเลขที่น่าเป็นห่วงมากระหว่างการเสริมสร้างสุขภาพและการทำลายสุขภาพ ทั้งนี้ ทางเครือข่ายขอให้กำลังใจและเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยผลักดันและก่อให้เกิดบุคคล ครอบครัวและองค์กรต้นแบบมากขึ้น
ด้านนายนพดล ตันวิเชียร รองผู้อำนวยการทำการแทนผู้อำนวยการ อ.ส.ค.กล่าวว่า การเข้าร่วมกิจกรรมโครงการงดเหล้าเข้าพรรษามหากุศลในครั้งนี้ ได้ใช้ประโยชน์จากพื้นที่ภายในฟาร์ม เนื่องจากมีพื้นที่กว้างใหญ่สามารถนำมาใช้ในการจัดกิจกรรมร่วมสร้างประโยชน์ให้สังคมได้ โดยมีการจัดธรรมะบรรยายให้กับพนักงานและผู้ที่สนใจทั่วไปเข้าร่วมรับฟังท่ามกลางธรรมชาติ พร้อมร่วมทำบุญตักบาตรนมสด แห่งเดียวในประเทศไทย ที่ผ่านมาได้ยึดหลักการบริหารงานภายใต้หลักเกณฑ์ 6 ข้อ คือ ความเชื่อมั่นความน่าเชื่อถือในตราสินค้าที่ผู้บริโภคไว้วางใจมาอย่างยาวนาน, คุณภาพนม, คุณค่า, ความเข้าใจในความต้องการของผู้บริโภค, ความรับผิดชอบต่อสังคม และความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ในการที่เสนอสินค้าหรือบริการใหม่ๆ สู่ตลาดเสมอ ซึ่งกิจกรรมที่มีประโยชน์ต่อสังคมก็จะพยายามที่จะให้ความร่วมมือ เพราะเห็นถึงความสุขที่เกิดจากกิจกรรมนั้นๆ รวมทั้งยังช่วยเหลือและส่งเสริมอาชีพให้กับกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมในประเทศให้สามารถขายน้ำนมดิบได้มากขึ้น
กิจกรรมภายในงานมีการตักบาตรพระสงฆ์จำนวน 85 รูป การสวดเจริญพระพุทธมนต์ โชว์การผสมเครื่องดื่ม Healthy drink จากนมสด การบรรยายธรรมเรื่อง “การปฏิบัติตนให้เข้าถึงธรรมะ ในธรรมชาติได้อย่างไร” โดยพระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต นอกจากนี้ได้มีการรับบริจาคหนังสือหรือสื่อซีดีธรรมะมือสอง เพื่อนำส่งห้องสมุดในทัณฑสถาน วัดที่ประสบอุทกภัย และสื่อซีดีธรรมะจะนำส่งโรงเรียนผู้พิการทางสายตา หรือมูลนิธิต่างๆ
วันนี้ (28 ก.ย.) ที่ฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ค อ.มวกเหล็ก จ. สระบุรี นายถาวร พรหมมีชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี ประธานในพิธีเปิดงาน “ธรรมะในฟาร์มและตักบาตรนมสด” เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จัดโดยสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) พร้อมรณรงค์เชิญชวนให้คนไทยงดเหล้าหันมาดื่มนม เพื่อเสริมสร้างสุขภาพกายใจที่แข็งแรงมากขึ้น
นายถาวร กล่าวว่า จังหวัดสระบุรี มีวัฒนธรรมประเพณีที่ดีงาม คือ ประเพณีตักบาตรดอกไม้ ถือเป็นประเพณีหนึ่งเดียวในโลก ในครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่จัดการร่วมตักบาตรนมสด เป็นอีกหนึ่งทางของการทำบุญ เนื่องจากสระบุรีเป็นเมืองโคนม เป็นฐานในการผลิตน้ำนมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ การร่วมบุญ ในครั้งนี้เป็นการร่วมสร้างความดีให้มากขึ้น มีการรักษาศีลอย่างน้อย ศีล 5 ก็จะช่วยขจัดความมัวเมาหลงผิดของเราได้ นอกจากนี้ยังเป็นการสนับสนุนให้เกิดเป็นการท่องเที่ยวเชิงเกษตร ซึ่งเป็นการสนับสนุนโยบายของทางจังหวัด
ภก.สงกรานต์ ภาคโชคดี ผู้อำนวยการ สคล.กล่าวถึงความสำคัญของความร่วมมือและการจัดกิจกรรมรณรงค์ในช่วงงดเหล้าเข้าพรรษา ว่า ปีนี้ได้ตั้งเป้าหมายเชิญชวนองค์กร ครอบครัวและบุคคล เข้าร่วม โดยทาง อ.ส.ค.เป็นอีกหนึ่งในองค์กรที่ร่วมโครงการรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษามหากุศล ทั้งนี้ มีข้อมูลของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ระบุว่า ประเทศไทย คือ ฐานการผลิตน้ำนมดิบมากที่สุด แต่คนไทยกลับดื่มนมไม่มากนัก ประมาณ 14.19 ลิตรต่อคนต่อปี ขณะที่อัตราบริโภคนมโดยเฉลี่ยของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อยู่ที่ 60 ลิตรต่อคนต่อปี ส่วนข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข พบว่า คนไทยดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 2, 699 ล้านลิตร ประมาณ 53 ลิตรต่อคนต่อปี ถือเป็นตัวเลขที่น่าเป็นห่วงมากระหว่างการเสริมสร้างสุขภาพและการทำลายสุขภาพ ทั้งนี้ ทางเครือข่ายขอให้กำลังใจและเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยผลักดันและก่อให้เกิดบุคคล ครอบครัวและองค์กรต้นแบบมากขึ้น
ด้านนายนพดล ตันวิเชียร รองผู้อำนวยการทำการแทนผู้อำนวยการ อ.ส.ค.กล่าวว่า การเข้าร่วมกิจกรรมโครงการงดเหล้าเข้าพรรษามหากุศลในครั้งนี้ ได้ใช้ประโยชน์จากพื้นที่ภายในฟาร์ม เนื่องจากมีพื้นที่กว้างใหญ่สามารถนำมาใช้ในการจัดกิจกรรมร่วมสร้างประโยชน์ให้สังคมได้ โดยมีการจัดธรรมะบรรยายให้กับพนักงานและผู้ที่สนใจทั่วไปเข้าร่วมรับฟังท่ามกลางธรรมชาติ พร้อมร่วมทำบุญตักบาตรนมสด แห่งเดียวในประเทศไทย ที่ผ่านมาได้ยึดหลักการบริหารงานภายใต้หลักเกณฑ์ 6 ข้อ คือ ความเชื่อมั่นความน่าเชื่อถือในตราสินค้าที่ผู้บริโภคไว้วางใจมาอย่างยาวนาน, คุณภาพนม, คุณค่า, ความเข้าใจในความต้องการของผู้บริโภค, ความรับผิดชอบต่อสังคม และความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ในการที่เสนอสินค้าหรือบริการใหม่ๆ สู่ตลาดเสมอ ซึ่งกิจกรรมที่มีประโยชน์ต่อสังคมก็จะพยายามที่จะให้ความร่วมมือ เพราะเห็นถึงความสุขที่เกิดจากกิจกรรมนั้นๆ รวมทั้งยังช่วยเหลือและส่งเสริมอาชีพให้กับกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมในประเทศให้สามารถขายน้ำนมดิบได้มากขึ้น
กิจกรรมภายในงานมีการตักบาตรพระสงฆ์จำนวน 85 รูป การสวดเจริญพระพุทธมนต์ โชว์การผสมเครื่องดื่ม Healthy drink จากนมสด การบรรยายธรรมเรื่อง “การปฏิบัติตนให้เข้าถึงธรรมะ ในธรรมชาติได้อย่างไร” โดยพระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต นอกจากนี้ได้มีการรับบริจาคหนังสือหรือสื่อซีดีธรรมะมือสอง เพื่อนำส่งห้องสมุดในทัณฑสถาน วัดที่ประสบอุทกภัย และสื่อซีดีธรรมะจะนำส่งโรงเรียนผู้พิการทางสายตา หรือมูลนิธิต่างๆ