xs
xsm
sm
md
lg

วธ.เตรียมตั้งวัฒนธรรมอำเภอ 33 แห่ง 3 จว.ใต้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วธ.ชงตั้งวัฒนธรรมอำเภอ 33 แห่ง 3 จังหวัดใต้ เป็นกลไกประสานชุมชนและประชาชนในพื้นที่มากขึ้น

นายสมชาย เสียงหลาย ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า นายเขมชาติ เทพไชย หัวหน้าผู้ตรวจราชการ วธ.ในฐานะประธานคณะทำงานย่อยเพื่อพิจารณาและจัดทำข้อมูลการขอจัดตั้งสำนักงานวัฒนธรรมอำเภอใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จ.ยะลา ปัตตานีและนราธิวาส ได้รายงานผลการประชุมของคณะทำงานชุดดังกล่าว ในการจัดตั้งสำนักงานวัฒนธรรมอำเภอให้สอดคล้องกับข้อเสนอแนะตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา รวมทั้งปรับแก้ตามที่ระเบียบของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) กำหนดไว้

นายสมชาย กล่าวอีกว่า จากนี้ไปจะนำรายละเอียดดังกล่าวเสนอต่อคณะกรรมการยุทธศาสตร์ ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) เพื่อพิจารณา และให้ กพต.นำเรื่องดังกล่าวเสนอ ครม.เห็นชอบกำหนดตำแหน่งวัฒนธรรมอำเภอทั้งหมด 33 อำเภอ ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งนี้ การตั้งวัฒนธรรมอำเภอนั้นได้แบ่งตามขนาดใหญ่และเล็กของอำเภอ ซึ่งพิจารณาจาก 5 หลักเกณฑ์ต่างๆ ได้แก่ 1.อำเภอที่มีนายอำเภอดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการระดับสูง 2.จำนวนประชากร 3.จำนวนกิจกรรมด้านวัฒนธรรมที่ได้ดำเนินการ 4.สถานการณ์ความมั่นคง และ 5.เป็นสถานที่ตั้งมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมดีเด่นและแสดงอัตลักษณ์ของท้องถิ่นนั้นๆ

ปลัด วธ.กล่าวต่อว่า โดยสำนักงานวัฒนธรรมอำเภอขนาดใหญ่ มีทั้งหมด 21 อำเภอ โดยบรรจุอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ดำเนินงาน ดังนี้ นักวิชาการวัฒนธรรมปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าสำนักงาน 1 คน ข้าราชการ 1 คน และพนักงานราชการ 1 คน ได้แก่ จ.ยะลา 5 อำเภอ เมืองยะลา, เบตง, บันนังสตา, รามัน และ ยะหา จ.ปัตตานี 8 อำเภอ เมืองปัตตานี, โคกโพธิ์, หนองจิก, ปะนาเระ,สายบุรี, ยะหริ่ง, ยะรัง และมายอ จ.นราธิวาส 8 อำเภอ ได้แก่ เมืองนราธิวาส, ตากใบ, ระแงะ, รือเสาะ, สุไหงโก-ลก, แว้ง, สุไหงปาดี และ บาเจาะ

ส่วนอำเภอขนาดเล็กมี 12 อำเภอ ประกอบด้วย นักวิชาการวัฒนธรรมปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าสำนักงานฯ 1 คน และพนักงานราชการ 1 คน ได้แก่ จ.ยะลา 3 อำเภอ คือ ธารโต, กาบัง และกรงปินัง จ.ปัตตานี 4 อำเภอ ได้แก่ ทุ่งยางแดง, ไม้แก่น, แม่ลาน และ กะพ้อ และ จ.นราธิวาส 5 อำเภอ คือ ยี่งอ, ศรีสาคร, สุคิริน, จะแนะ และเจาะไอร้อง ทั้งนี้ การจัดตั้งวัฒนธรรมอำเภอขึ้น เพื่อทำหน้าที่ประสานงานระดับท้องถิ่นเพื่อให้กลไกการแก้ไขปัญหาเข้าถึงชุมชนและประชาชนในพื้นที่มากขึ้นอีก
กำลังโหลดความคิดเห็น