สอศ.เปิดเวทีโชว์ผลงานนวัตกรรมนานาชาติ จับมือ 5 ชาติ หนุนสร้างนักเทคโนโลยีรุ่นใหม่
ดร.ชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เป็นประธานเปิดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการนานาชาติโรงเรียนเทคโนโลยีฐานวิทยาศาสตร์ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เป็นเจ้าภาพจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 13-16 กันยายน 2555 ณ โรงแรมบ่อแสนวิลล่า จังหวัดพังงา โดยเป็นเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านทฤษฎีและด้านปฏิบัติ เน้นแสดงโครงงานการประดิษฐ์คิดค้นและสร้างนวัตกรรมที่เกิดจากการจัดการเรียนการสอนวิชาชีพในรูปแบบ Project-based Learning จากนักศึกษาในโครงการโรงเรียนเทคโนโลยีฐานวิทยาศาสตร์ 5 แห่ง ได้แก่ วิทยาลัยเทคโนโลยีฐานวิทยาศาสตร์ (ชลบุรี) วิทยาลัยเทคนิคสุรนารี วิทยาลัยเทคนิคพังงา วิทยาลัยอาชีวศึกษาสิงห์บุรี และวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีลำพูน รวมจำนวน 9 ทีม นักศึกษาตัวแทนจากสถาบันการศึกษาจากประเทศสิงคโปร์ 9 ทีม มาเลเซีย 2 ทีม ไต้หวัน 2 ทีม ญี่ปุ่น 10 ทีม และมีทีมเสริมจากภูเก็ตวิทยาลัย โรงเรียนดีบุกพังงา และโรงเรียนตะกั่วป่าเสนานุกูล แห่งละ 1 ทีม รวมทั้งสิ้น 35 ทีม
เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เปิดเผยว่า ปัจจุบันผู้ประกอบการมีความต้องการทรัพยากรบุคลากรที่มีทักษะด้านวิจัยและพัฒนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มของนักเทคโนโลยีหรือนักประดิษฐ์คิดค้น ที่มีความสามารถสร้างนวัตกรรมในด้านต่างๆ เพื่อใช้สำหรับการพัฒนากระบวนการผลิต การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ และการให้บริการรูปแบบใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคอย่างไร้ขีดจำกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) จึงได้จัดหลักสูตรเฉพาะรองรับเพื่อผลิตบุคลากรสายเทคโนโลยี โดยร่วมมือกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สวทช.) และมหาวิทยาลัยเครือข่าย เปิดรับนักเรียนเข้าเรียนในโครงการโรงเรียนเทคโนโลยีฐานวิทยาศาสตร์ ขึ้นในวิทยาลัยสังกัด สอศ.นำร่อง จำนวน 5 แห่ง เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีความสามารถพิเศษด้านการประดิษฐ์คิดค้น และสร้างนวัตกรรม โดยอาศัยการประยุกต์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มีระบบการเรียนรู้ด้วยการปฏิบัติจริงผ่านการจัดทำโครงงาน (Project Based Learning) อย่างหลากหลาย ซึ่งการจัดสัมมนาครั้งนี้ เป็นการเปิดโอกาสให้นักศึกษาไทยนำผลงานที่ประดิษฐ์คิดค้นที่เกิดจากการเรียนกการสอนมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับนักศึกษานานาชาติ เพื่อยกระดับความรู้ความสามารถในการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นสอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานการประกอบอาชีพและรองรับการก้าวเข้าสู่ตลาดของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนและตลาดโลกด้วย
ดร.ชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เป็นประธานเปิดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการนานาชาติโรงเรียนเทคโนโลยีฐานวิทยาศาสตร์ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เป็นเจ้าภาพจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 13-16 กันยายน 2555 ณ โรงแรมบ่อแสนวิลล่า จังหวัดพังงา โดยเป็นเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านทฤษฎีและด้านปฏิบัติ เน้นแสดงโครงงานการประดิษฐ์คิดค้นและสร้างนวัตกรรมที่เกิดจากการจัดการเรียนการสอนวิชาชีพในรูปแบบ Project-based Learning จากนักศึกษาในโครงการโรงเรียนเทคโนโลยีฐานวิทยาศาสตร์ 5 แห่ง ได้แก่ วิทยาลัยเทคโนโลยีฐานวิทยาศาสตร์ (ชลบุรี) วิทยาลัยเทคนิคสุรนารี วิทยาลัยเทคนิคพังงา วิทยาลัยอาชีวศึกษาสิงห์บุรี และวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีลำพูน รวมจำนวน 9 ทีม นักศึกษาตัวแทนจากสถาบันการศึกษาจากประเทศสิงคโปร์ 9 ทีม มาเลเซีย 2 ทีม ไต้หวัน 2 ทีม ญี่ปุ่น 10 ทีม และมีทีมเสริมจากภูเก็ตวิทยาลัย โรงเรียนดีบุกพังงา และโรงเรียนตะกั่วป่าเสนานุกูล แห่งละ 1 ทีม รวมทั้งสิ้น 35 ทีม
เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เปิดเผยว่า ปัจจุบันผู้ประกอบการมีความต้องการทรัพยากรบุคลากรที่มีทักษะด้านวิจัยและพัฒนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มของนักเทคโนโลยีหรือนักประดิษฐ์คิดค้น ที่มีความสามารถสร้างนวัตกรรมในด้านต่างๆ เพื่อใช้สำหรับการพัฒนากระบวนการผลิต การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ และการให้บริการรูปแบบใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคอย่างไร้ขีดจำกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) จึงได้จัดหลักสูตรเฉพาะรองรับเพื่อผลิตบุคลากรสายเทคโนโลยี โดยร่วมมือกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สวทช.) และมหาวิทยาลัยเครือข่าย เปิดรับนักเรียนเข้าเรียนในโครงการโรงเรียนเทคโนโลยีฐานวิทยาศาสตร์ ขึ้นในวิทยาลัยสังกัด สอศ.นำร่อง จำนวน 5 แห่ง เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีความสามารถพิเศษด้านการประดิษฐ์คิดค้น และสร้างนวัตกรรม โดยอาศัยการประยุกต์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มีระบบการเรียนรู้ด้วยการปฏิบัติจริงผ่านการจัดทำโครงงาน (Project Based Learning) อย่างหลากหลาย ซึ่งการจัดสัมมนาครั้งนี้ เป็นการเปิดโอกาสให้นักศึกษาไทยนำผลงานที่ประดิษฐ์คิดค้นที่เกิดจากการเรียนกการสอนมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับนักศึกษานานาชาติ เพื่อยกระดับความรู้ความสามารถในการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นสอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานการประกอบอาชีพและรองรับการก้าวเข้าสู่ตลาดของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนและตลาดโลกด้วย