“สุชาติ” นัดถกเลื่อนเปิดเทอมใหม่เป็นวันที่ 11 ก.ย.นี้ พร้อมหยิบประเด็นที่ สพฐ.ยันไม่เลื่อนเปิดเทอมหวังหาทางออกร่วมกันไม่ให้เกิดปัญหาบานปลายระยะยาว
รศ.นพ.กำจร ตติยกวี รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (รองเลขาธิการ กกอ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการเลื่อนเปิดภาคเรียน ให้สอดคล้องกับประเทศอาเซียน และประเทศสากล ว่า การประชุมดังกล่าวได้เลื่อนออกไป จากเดิมกำหนดมีกำหนดจะประชุมเมื่อวันที่ 5 กันยายน ไปเป็นวันที่ 11 กันยายน เนื่องจาก ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ติดภารกิจด่วน ทั้งนี้ ในวันที่ 11 กันยายน ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องการการศึกษาทั้งระบบเข้าร่วมหารือ ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.)สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏแห่งประเทศไทย (ทปอ.มรภ.) ที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (ทปอ.มทร.) และที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย(ทปอ.)
นพ.กำจร กล่าวต่อว่า สำหรับหัวข้อการหารือนั้น ตนจะเสนอปัญหา ซึ่งเป็นข้อห่วงใยของแต่ละหน่วยงาน อาทิ ในส่วนของโรงเรียนสาธิตต่างๆ ซึ่งอยู่ในสังกัดมหาวิทยาลัย เพราะหากมหาวิทยาลัยเลื่อนเปิดเทอมออกไป โรงเรียนสาธิต ก็อาจจะต้องเลื่อนตามไปด้วย แต่จะติดปัญหาว่าใช้หลักสูตรการเรียนเดียวกับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ขณะเดียวกันกรณีถ้าโรงเรียนสาธิตไม่เลื่อน ครูผู้สอนในโรงเรียนสาธิตเองก็จะมีปัญหาเรื่องการทำงานได้ ขณะที่ในส่วนของกลุ่ม มทร.ซึ่งส่วนใหญ่จะรับเด็กจากอาชีวศึกษาเข้าเรียน หาก สอศ.ไม่เลื่อนเปิดเทอมให้ตรงกับมหาวิทยาลัย เด็กก็อาจไม่เลือกเรียน มทร.ซึ่งแต่ละหน่วยงานก็จะมีปัญหาแตกต่างกันไป
“คงต้องนำข้อห่วงใยทั้งหมดมาหาข้อสรุปร่วมกันอีกครั้ง ว่าจะมีแนวทางไปในลักษณะใด แต่อยากให้เดินสายกลาง เพื่อไม่ให้นักเรียนและผู้ปกครองเกิดความสับสน ซึ่งที่ผ่านมา รมว.ศึกษาธิการ ค่อนข้างเห็นด้วย ที่อุดมศึกษาจะเลื่อนเปิดเทอมออกไป แต่ในส่วนของระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานที่ยังยืนยันว่าไม่เลื่อนเปิดเทอมนั้น ก็คงต้องมารับฟังความคิดเห็นหลาย ๆ ด้านด้วย เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในระยะยาว” รศ.นพ.กำจร กล่าว
รศ.นพ.กำจร ตติยกวี รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (รองเลขาธิการ กกอ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการเลื่อนเปิดภาคเรียน ให้สอดคล้องกับประเทศอาเซียน และประเทศสากล ว่า การประชุมดังกล่าวได้เลื่อนออกไป จากเดิมกำหนดมีกำหนดจะประชุมเมื่อวันที่ 5 กันยายน ไปเป็นวันที่ 11 กันยายน เนื่องจาก ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ติดภารกิจด่วน ทั้งนี้ ในวันที่ 11 กันยายน ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องการการศึกษาทั้งระบบเข้าร่วมหารือ ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.)สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏแห่งประเทศไทย (ทปอ.มรภ.) ที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (ทปอ.มทร.) และที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย(ทปอ.)
นพ.กำจร กล่าวต่อว่า สำหรับหัวข้อการหารือนั้น ตนจะเสนอปัญหา ซึ่งเป็นข้อห่วงใยของแต่ละหน่วยงาน อาทิ ในส่วนของโรงเรียนสาธิตต่างๆ ซึ่งอยู่ในสังกัดมหาวิทยาลัย เพราะหากมหาวิทยาลัยเลื่อนเปิดเทอมออกไป โรงเรียนสาธิต ก็อาจจะต้องเลื่อนตามไปด้วย แต่จะติดปัญหาว่าใช้หลักสูตรการเรียนเดียวกับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ขณะเดียวกันกรณีถ้าโรงเรียนสาธิตไม่เลื่อน ครูผู้สอนในโรงเรียนสาธิตเองก็จะมีปัญหาเรื่องการทำงานได้ ขณะที่ในส่วนของกลุ่ม มทร.ซึ่งส่วนใหญ่จะรับเด็กจากอาชีวศึกษาเข้าเรียน หาก สอศ.ไม่เลื่อนเปิดเทอมให้ตรงกับมหาวิทยาลัย เด็กก็อาจไม่เลือกเรียน มทร.ซึ่งแต่ละหน่วยงานก็จะมีปัญหาแตกต่างกันไป
“คงต้องนำข้อห่วงใยทั้งหมดมาหาข้อสรุปร่วมกันอีกครั้ง ว่าจะมีแนวทางไปในลักษณะใด แต่อยากให้เดินสายกลาง เพื่อไม่ให้นักเรียนและผู้ปกครองเกิดความสับสน ซึ่งที่ผ่านมา รมว.ศึกษาธิการ ค่อนข้างเห็นด้วย ที่อุดมศึกษาจะเลื่อนเปิดเทอมออกไป แต่ในส่วนของระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานที่ยังยืนยันว่าไม่เลื่อนเปิดเทอมนั้น ก็คงต้องมารับฟังความคิดเห็นหลาย ๆ ด้านด้วย เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในระยะยาว” รศ.นพ.กำจร กล่าว