รพ.เด็ก แถลงอาการ ด.ช.วันใหม่ พบสมองตาย ติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ แต่ตับ ไต เริ่มกลับมาทำงานปกติ คณะแพทย์ลงความเห็นยังมีความหวังรักษาต่อใกล้ชิด
วันนี้ (24 ส.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่ รพ.เด็ก นพ.อนันต์ เสรฐภักดี รองอธิบดีกรมการแพทย์
กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณี ด.ช.วันใหม่ ดอกสุทัศน์ วัย 3 ขวบ 4 เดือน ซึ่ง นางวรารัตน์ ดอกสุทัศน์ มารดา ได้เข้าร้องเรียนต่อนายกรัฐมนตรี และขอย้ายมารักษาที่สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี (รพ.เด็ก) เนื่องจากได้รับความเสียหายจากการรักษา โดยแพทย์วินิจฉันโรคและผ่าตัดลำไส้ผิดพลาด จนกลายเจ้าชายนิทรา ว่า ขณะนี้มีคณะแพทย์คอยดูแลอาการเด็กอย่างใกล้ชิด โดยพบว่า ตับ ไต เริ่มกลับมาทำงานปกติ แต่ยังมีปัญหา 2 เรื่อง คือ เด็กยังไม่รู้สึกตัว และ มีอาการติดเชื้อที่ทางเดินปัสสาวะ ซึ่งคณะแพทย์ได้วางแผนรักษาตามอาการไปก่อน เพื่อให้อาการทั่วไปของเด็กดีขึ้นในทุกทาง และไม่ให้เกิดการติดเชื้อเพิ่มเติม ส่วนเรื่องการฟื้นตัวยังต้องรอดูอาการของสมองอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้พบว่า เด็กมีอาการสมองตาย ไม่สามารถหายใจได้เอง ม่านตาไม่ตอบสนอง ซึ่งจะต้องใช้การวิเคราะห์คลื่นสมองเพิ่มเติมประกอบด้วย ก่อนที่จะสรุปและวางแผนการรักษาต่อ โดยเบื้องต้นเวลาในช่วง 2 เดือนนี้คงยังไม่สามารถตอบอะไรได้มาก
“การเจ็บป่วยในเด็กและผู้ใหญ่จะมีความแตกต่างเรื่องการฟื้นตัว ฉะนั้น ภาวะสมองตายในเด็กนั้น ทางการแพทย์ จะยังถือว่ามีความหวังอยู่ว่าเด็กจะมีพัฒนาการฟื้นตัวได้ ภาวะสมองตายในเด็กจึงยังไม่สามารถสรุปได้ว่าอาการต่อไปจะเป็นอย่างไร ซึ่งทีมแพทย์จะสรุปผลและติดตามอาการเพื่อรักษาต่อไป โดยกรมการแพทย์ รพ.เด็ก จะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่” นพ.อนันต์ กล่าว
พญ.ศิราภรณ์ สวัสดิวร ผอ.รพ.เด็ก กล่าวว่า รพ.เด็ก ได้มีคณะแพทย์ในการดูแลรักษาอาการ ด.ช.วันใหม่ 5 คน ทั้งด้านสมอง ประสาท โรคติดเชื้อ จิตเวช และ ทีมพยาบาล ซึ่งจะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ทั้งนี้ แม่ของด.ช.วันใหม่ ได้พาเด็กมา รพ.เด็ก ในวันที่ 17 มิ.ย.และแพทย์พบว่าเด็กมีอาการท้องเสีย อาเจียนมีไข้ แพทย์สั่งเอกซเรย์ และยังไม่พบอาการการอุดตันของทางเดินอาหาร แต่มีอาการเสียน้ำมาก ถือว่ามีอาการหนักและให้ผู้ป่วยนอนรักษาในรพ. แต่ญาติขอนำตัวเด็กไปรักษา รพ.ที่มีสิทธิบัตรทองใกล้บ้าน จึงเขียนใบส่งตัวพร้อมแผ่นเอกซเรย์ไปให้ด้วย ซึ่งอาการไข้อาจเป็นไปได้ หรือไม่ได้ว่าเกิดจากการติดเชื้อ โดยเชื่อว่า รพ.ชลประทาน ก็ได้ให้การรักษาดูแล ด.ช.วันใหม่ อย่างเต็มที่ และดีที่สุดแล้วเช่นกัน แต่ในช่วงเวลาในช่วงดังกล่าวผู้ป่วยคงอยู่ในช่วงวิกฤตของวิกฤตทำให้เกิดอาการดังกล่าวขึ้น
นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ อธิการบดีมหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ (มศว) กล่าวว่า เนื่องจากโรงพยาบาลชลประทานรังสฤษฎ์ได้ย้ายมาอยู่ภายใต้สังกัด มศว ฉะนั้น เรื่องที่เกิดขึ้นกับเด็กชายวันใหม่ จึงอยู่ในความรับผิดชอบของ มศว ด้วย เราจึงตั้งคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เพื่อทำให้เกิดความกระจ่างและความโปร่งใสต่อทุกฝ่าย ทั้งนี้ ทาง มศว จะมีการเยียวยาโดยที่ไม่ต้องมีการพิสูจน์ถูกผิด ภายใต้วงเงิน 2 แสนบาท ตามมาตรา 41 พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพ ซึ่งจะเยียวยาความเสียหายทางการแพทย์ โดยไม่ต้องมีการพิสูจน์ถูกผิด โดยเป็นการรีบให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น
"มศว มีความตั้งใจที่จะให้การเยียวยาเด็กชายวันใหม่ โดยไม่สนใจว่า ความผิดพลาดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะเกิดจากฝ่ายใดก็ตาม เราจะให้การเยียวยาด้วยมาตรฐานเดียวกัน เพื่อแสดงความจริงใจต่อครอบครัวของผู้ป่วย ส่วนการตรวจยงสอบข้อเท็จจริงก็จะว่าไปตามกระบวนการที่มีอยู่" อธิการบดี มศว กล่าว
นพ.เฉลิมชัย กล่าวอีกว่า ทาง มศว ยินดีีให้ความร่วมมือและพร้อมชี้แจงต่อแพทยสภา ส่วนเรื่องของทางด้านการแพทย์จะดูแลทั้งสองมุม คือ ทางด้านข้อเท็จจริง และด้านความรู้สึก อย่างไรก็ตามทาง มศว ยินดีที่จะให้ความร่วมมือกับ รพ.เด็กในการช่วยเหลือเด็กชายวันใหม่ต่อไป
วันนี้ (24 ส.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่ รพ.เด็ก นพ.อนันต์ เสรฐภักดี รองอธิบดีกรมการแพทย์
กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณี ด.ช.วันใหม่ ดอกสุทัศน์ วัย 3 ขวบ 4 เดือน ซึ่ง นางวรารัตน์ ดอกสุทัศน์ มารดา ได้เข้าร้องเรียนต่อนายกรัฐมนตรี และขอย้ายมารักษาที่สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี (รพ.เด็ก) เนื่องจากได้รับความเสียหายจากการรักษา โดยแพทย์วินิจฉันโรคและผ่าตัดลำไส้ผิดพลาด จนกลายเจ้าชายนิทรา ว่า ขณะนี้มีคณะแพทย์คอยดูแลอาการเด็กอย่างใกล้ชิด โดยพบว่า ตับ ไต เริ่มกลับมาทำงานปกติ แต่ยังมีปัญหา 2 เรื่อง คือ เด็กยังไม่รู้สึกตัว และ มีอาการติดเชื้อที่ทางเดินปัสสาวะ ซึ่งคณะแพทย์ได้วางแผนรักษาตามอาการไปก่อน เพื่อให้อาการทั่วไปของเด็กดีขึ้นในทุกทาง และไม่ให้เกิดการติดเชื้อเพิ่มเติม ส่วนเรื่องการฟื้นตัวยังต้องรอดูอาการของสมองอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้พบว่า เด็กมีอาการสมองตาย ไม่สามารถหายใจได้เอง ม่านตาไม่ตอบสนอง ซึ่งจะต้องใช้การวิเคราะห์คลื่นสมองเพิ่มเติมประกอบด้วย ก่อนที่จะสรุปและวางแผนการรักษาต่อ โดยเบื้องต้นเวลาในช่วง 2 เดือนนี้คงยังไม่สามารถตอบอะไรได้มาก
“การเจ็บป่วยในเด็กและผู้ใหญ่จะมีความแตกต่างเรื่องการฟื้นตัว ฉะนั้น ภาวะสมองตายในเด็กนั้น ทางการแพทย์ จะยังถือว่ามีความหวังอยู่ว่าเด็กจะมีพัฒนาการฟื้นตัวได้ ภาวะสมองตายในเด็กจึงยังไม่สามารถสรุปได้ว่าอาการต่อไปจะเป็นอย่างไร ซึ่งทีมแพทย์จะสรุปผลและติดตามอาการเพื่อรักษาต่อไป โดยกรมการแพทย์ รพ.เด็ก จะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่” นพ.อนันต์ กล่าว
พญ.ศิราภรณ์ สวัสดิวร ผอ.รพ.เด็ก กล่าวว่า รพ.เด็ก ได้มีคณะแพทย์ในการดูแลรักษาอาการ ด.ช.วันใหม่ 5 คน ทั้งด้านสมอง ประสาท โรคติดเชื้อ จิตเวช และ ทีมพยาบาล ซึ่งจะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ทั้งนี้ แม่ของด.ช.วันใหม่ ได้พาเด็กมา รพ.เด็ก ในวันที่ 17 มิ.ย.และแพทย์พบว่าเด็กมีอาการท้องเสีย อาเจียนมีไข้ แพทย์สั่งเอกซเรย์ และยังไม่พบอาการการอุดตันของทางเดินอาหาร แต่มีอาการเสียน้ำมาก ถือว่ามีอาการหนักและให้ผู้ป่วยนอนรักษาในรพ. แต่ญาติขอนำตัวเด็กไปรักษา รพ.ที่มีสิทธิบัตรทองใกล้บ้าน จึงเขียนใบส่งตัวพร้อมแผ่นเอกซเรย์ไปให้ด้วย ซึ่งอาการไข้อาจเป็นไปได้ หรือไม่ได้ว่าเกิดจากการติดเชื้อ โดยเชื่อว่า รพ.ชลประทาน ก็ได้ให้การรักษาดูแล ด.ช.วันใหม่ อย่างเต็มที่ และดีที่สุดแล้วเช่นกัน แต่ในช่วงเวลาในช่วงดังกล่าวผู้ป่วยคงอยู่ในช่วงวิกฤตของวิกฤตทำให้เกิดอาการดังกล่าวขึ้น
นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ อธิการบดีมหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ (มศว) กล่าวว่า เนื่องจากโรงพยาบาลชลประทานรังสฤษฎ์ได้ย้ายมาอยู่ภายใต้สังกัด มศว ฉะนั้น เรื่องที่เกิดขึ้นกับเด็กชายวันใหม่ จึงอยู่ในความรับผิดชอบของ มศว ด้วย เราจึงตั้งคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เพื่อทำให้เกิดความกระจ่างและความโปร่งใสต่อทุกฝ่าย ทั้งนี้ ทาง มศว จะมีการเยียวยาโดยที่ไม่ต้องมีการพิสูจน์ถูกผิด ภายใต้วงเงิน 2 แสนบาท ตามมาตรา 41 พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพ ซึ่งจะเยียวยาความเสียหายทางการแพทย์ โดยไม่ต้องมีการพิสูจน์ถูกผิด โดยเป็นการรีบให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น
"มศว มีความตั้งใจที่จะให้การเยียวยาเด็กชายวันใหม่ โดยไม่สนใจว่า ความผิดพลาดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะเกิดจากฝ่ายใดก็ตาม เราจะให้การเยียวยาด้วยมาตรฐานเดียวกัน เพื่อแสดงความจริงใจต่อครอบครัวของผู้ป่วย ส่วนการตรวจยงสอบข้อเท็จจริงก็จะว่าไปตามกระบวนการที่มีอยู่" อธิการบดี มศว กล่าว
นพ.เฉลิมชัย กล่าวอีกว่า ทาง มศว ยินดีีให้ความร่วมมือและพร้อมชี้แจงต่อแพทยสภา ส่วนเรื่องของทางด้านการแพทย์จะดูแลทั้งสองมุม คือ ทางด้านข้อเท็จจริง และด้านความรู้สึก อย่างไรก็ตามทาง มศว ยินดีที่จะให้ความร่วมมือกับ รพ.เด็กในการช่วยเหลือเด็กชายวันใหม่ต่อไป
