แท็บเล็ตล็อต 3 กว่า 6 หมื่นเครื่องถึงไทยเข้าคิวรอตรวจสอบแล้ว ส่วนล็อต 2 เริ่มจัดส่งตั้งแต่ต้นสัปดาห์ขณะที่ล็อต 3 คาดจัดส่งได้สัปดาห์ถัดไป ขณะที่ ผอ.สทร.รับการอบรมมีปัญหาล่าช้า เพราะครู ป.1 ส่วนใหญ่เป็น ครูป้า อาจจะล่าช้าในการเรียนรู้เทคโนโลยี ยันเร่งมืออบรมเตรียมพร้อมให้ครูสอนเด็กด้วยแท็บเล็ตได้อย่างมีประสิทธิภาพ คาด อบรมแล้วเสร็จภายในเดือน ก.ย.
นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ บริษัทพัสดุภัณฑ์ไทย จำกัด ซึ่งได้รับการว่าจ้างจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ให้จัดส่งเครื่องแท็บเล็ตตามโครงการ One Tablet per Child ไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) ทั่วประเทศ ได้ทยอยจัดส่งเครื่องแท็บเล็ต ล็อต 2 จำนวน 73,000 เครื่อง ซึ่งผ่านการตรวจสอบจากคณะกรรมการตรวจรับของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที ) แล้ว โดยเริ่มจัดส่งตั้งแต่วันที่ 6 ส.ค.ที่ผ่านมา ไปยังจังหวัดลำดับถัดไป ได้แก่ จังหวัดชลบุรี ชัยนาท ชัยภูมิ ชุมพร เชียงราย เชียงใหม่ ตรัง ตราด ตาก นครนายก และ นครปฐม
อย่างไรก็ตาม ในภาพรวม ได้มีการจัดส่งแท็บเล็ตไปแล้วกว่า 100,000 เครื่อง จากยอดสั่งซื้อทั้งหมด ประมาณ 800,000 เครื่อง โดยจัดส่งล็อตแรกไป 55,000 เครื่อง ล็อต 2 จำนวน 73,000 เครื่อง และขณะนี้ แท็บเล็ต ล็อต 3 อีกจำนวน 63,000 เครื่อง มาถึงไทยแล้ว กำลังรอเข้าสู่การตรวจสอบของคณะกรรมการตรวจรับของไอซีที คาดว่า จะตรวจสอบเสร็จภายในสัปดาห์นี้ และเริ่มจัดส่งได้ภายในสัปดาห์หน้า ซึ่งจังหวัดที่จะได้รับแท็บเล็ต ล็อต 3 ได้แก่ นครพนม นครราชสีมา นครศรีธรรมราช นครสวรรค์ นนทบุรี นราธิวาส น่าน บึงกาฬ และบุรีรัมย์
ด้านนายเอนก รัตน์ปิยะภาภรณ์ ผู้อำนวยการสำนักเทคโนโลยีเพื่อการเรียนการสอนแทน (สทร.) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ สพฐ.ได้เร่งจัดส่งเครื่องแท็บเล็ตเต็มที่ คาดว่า จะกระจายเครื่องแทบเล็ตในระยะ 1 จำนวน 380,000 เครื่อง ได้ครบถึงจังหวัดอุบลราชธานี ภายในเดือนตุลาคมนี้ ทั้งนี้ จะช้าหรือเร็วก็ต้องขึ้นอยู่กับระยะเวลาการสุ่มตรวจเครื่องแท็บเล็ต และการตรวจรับของไอซีทีด้วย ส่วนการเตรียมพร้อมให้ครูนั้น ขณะนี้วิทยากรแกนนำขั้นเทพที่ สพฐ.ได้ทำการอบรมไปแล้วนั้น กำลังเริ่มอบรมศึกษานิเทศก์ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น และจังหวัดพิษณุโลก ส่วนจังหวัดที่ได้อบรมศึกษานิเทศก์ไปแล้วนั้น จะเริ่มทยอยอบรมครู ป.1 จนครบทุกโรงเรียนให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายนนี้
“การอบรมครู สพฐ.ยังไม่พบปัญหาใหญ่ เนื่องจากเข้าใจว่า ครูชั้น ป.1 ส่วนใหญ่เป็นครูอาวุโส หรือ ครูป้า การเรียนรู้เทคโนโลยีย่อมมีความล่าช้าอยู่บาง แต่ก็เชื่อว่า ครูที่ผ่านการอบรมแล้ว จะสามารถนำเครื่องแท็บเล็ตไปใช้สอนนักเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ว่าจะช้าไปบ้าง ส่วนปัญหาที่พบหลังจากการจัดอบรมครู คือ เรื่องของงบประมาณที่ สพฐ.ได้จัดสรรจำนวน 170 ล้านบาท เพื่อดำเนินการเฉพาะอบรมครูในสังกัด สพฐ.เท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว สพฐ.ต้องอบรมครูทุกสังกัดตามมติคณะรัฐมนตรี ได้แก่โรงเรียนเอกชน โรงเรียนสังกัดเทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบล และโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ซึ่ง สพฐ.ได้จัดอบรมให้ แต่ค่าเดินทางและค่าใช้จ่ายอื่นต้นสังกัดนั้นๆ ต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง” นายเอนก กล่าว
นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ บริษัทพัสดุภัณฑ์ไทย จำกัด ซึ่งได้รับการว่าจ้างจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ให้จัดส่งเครื่องแท็บเล็ตตามโครงการ One Tablet per Child ไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) ทั่วประเทศ ได้ทยอยจัดส่งเครื่องแท็บเล็ต ล็อต 2 จำนวน 73,000 เครื่อง ซึ่งผ่านการตรวจสอบจากคณะกรรมการตรวจรับของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที ) แล้ว โดยเริ่มจัดส่งตั้งแต่วันที่ 6 ส.ค.ที่ผ่านมา ไปยังจังหวัดลำดับถัดไป ได้แก่ จังหวัดชลบุรี ชัยนาท ชัยภูมิ ชุมพร เชียงราย เชียงใหม่ ตรัง ตราด ตาก นครนายก และ นครปฐม
อย่างไรก็ตาม ในภาพรวม ได้มีการจัดส่งแท็บเล็ตไปแล้วกว่า 100,000 เครื่อง จากยอดสั่งซื้อทั้งหมด ประมาณ 800,000 เครื่อง โดยจัดส่งล็อตแรกไป 55,000 เครื่อง ล็อต 2 จำนวน 73,000 เครื่อง และขณะนี้ แท็บเล็ต ล็อต 3 อีกจำนวน 63,000 เครื่อง มาถึงไทยแล้ว กำลังรอเข้าสู่การตรวจสอบของคณะกรรมการตรวจรับของไอซีที คาดว่า จะตรวจสอบเสร็จภายในสัปดาห์นี้ และเริ่มจัดส่งได้ภายในสัปดาห์หน้า ซึ่งจังหวัดที่จะได้รับแท็บเล็ต ล็อต 3 ได้แก่ นครพนม นครราชสีมา นครศรีธรรมราช นครสวรรค์ นนทบุรี นราธิวาส น่าน บึงกาฬ และบุรีรัมย์
ด้านนายเอนก รัตน์ปิยะภาภรณ์ ผู้อำนวยการสำนักเทคโนโลยีเพื่อการเรียนการสอนแทน (สทร.) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ สพฐ.ได้เร่งจัดส่งเครื่องแท็บเล็ตเต็มที่ คาดว่า จะกระจายเครื่องแทบเล็ตในระยะ 1 จำนวน 380,000 เครื่อง ได้ครบถึงจังหวัดอุบลราชธานี ภายในเดือนตุลาคมนี้ ทั้งนี้ จะช้าหรือเร็วก็ต้องขึ้นอยู่กับระยะเวลาการสุ่มตรวจเครื่องแท็บเล็ต และการตรวจรับของไอซีทีด้วย ส่วนการเตรียมพร้อมให้ครูนั้น ขณะนี้วิทยากรแกนนำขั้นเทพที่ สพฐ.ได้ทำการอบรมไปแล้วนั้น กำลังเริ่มอบรมศึกษานิเทศก์ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น และจังหวัดพิษณุโลก ส่วนจังหวัดที่ได้อบรมศึกษานิเทศก์ไปแล้วนั้น จะเริ่มทยอยอบรมครู ป.1 จนครบทุกโรงเรียนให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายนนี้
“การอบรมครู สพฐ.ยังไม่พบปัญหาใหญ่ เนื่องจากเข้าใจว่า ครูชั้น ป.1 ส่วนใหญ่เป็นครูอาวุโส หรือ ครูป้า การเรียนรู้เทคโนโลยีย่อมมีความล่าช้าอยู่บาง แต่ก็เชื่อว่า ครูที่ผ่านการอบรมแล้ว จะสามารถนำเครื่องแท็บเล็ตไปใช้สอนนักเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ว่าจะช้าไปบ้าง ส่วนปัญหาที่พบหลังจากการจัดอบรมครู คือ เรื่องของงบประมาณที่ สพฐ.ได้จัดสรรจำนวน 170 ล้านบาท เพื่อดำเนินการเฉพาะอบรมครูในสังกัด สพฐ.เท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว สพฐ.ต้องอบรมครูทุกสังกัดตามมติคณะรัฐมนตรี ได้แก่โรงเรียนเอกชน โรงเรียนสังกัดเทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบล และโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ซึ่ง สพฐ.ได้จัดอบรมให้ แต่ค่าเดินทางและค่าใช้จ่ายอื่นต้นสังกัดนั้นๆ ต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง” นายเอนก กล่าว