“ผู้พันเบิร์ด” ฟุ้งโครงการสุภาพบุรุษอาชีวะเปลี่ยนพฤติกรรมเด็กได้ แต่ยังอยู่ในอัตราส่วนที่จำกัด เผย 12 ส.ค.เตรียมจัดงานวันแม่ให้เด็กอาชีวะได้พบญาติครั้งแรกหลังร่วมโครงการฯ
วันนี้ (2 ส.ค.) พ.ท.วันชนะ สวัสดี รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงความคืบหน้าการฝึกนักเรียนอาชีวะในโครงการสุภาพบุรุษอาชีวะ ว่า โครงการดังกล่าวสามารถสร้างความสามัคคีให้กับนักเรียนอาชีวะที่เข้าร่วมโครงการได้จริง โดยเฉพาะทางด้านจิตใจ คือ 1.มีระเบียบวินัยมากขึ้น 2.มีการช่วยเหลือเกื้อกูลกันมากขึ้น 3.เห็นความสำคัญของครอบครัวมากขึ้น และ4.มีทัศนะที่ดีในการทำความดีต่อสังคมและไม่ใช้ความรุนแรง โดยเห็นได้จากนักเรียนที่มีลักษณะเป็นผู้นำกลุ่มที่ยอมรับว่าเป็นโครงการที่ดี แต่มีความเห็นว่า การฝึกนักเรียนหลายสถาบันร่วมกันจะทำให้โควตาในการส่งนักเรียนเข้ามาร่วมอบรมนั้นมีจำนวนจำกัด เช่น บางสถาบันส่งตัวแทนมาได้เพียงแค่ 3 คนจากนักเรียนทั้งหมด 3,000 คน ซึ่งใน 3 คนนั้นมีความคิดที่เปลี่ยนไปในเรื่องการใช้ความรุนแรง ซึ่งถือว่าเป็นส่วนน้อย จึงเสนอแนะว่าควรจะจัดให้นักเรียนสถาบันที่อยู่ใกล้เคียงกันมาเข้าร่วมโครงการฯก่อน
พ.ท.วันชนะ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ในส่วนของปัญหาหรืออุปสรรคอื่นนั้นยังไม่มีในขณะนี้ เนื่องจากนักเรียนอาชีวะที่เข้าร่วมโครงการสามารถปรับตัวเรื่องของสถาบันได้มากขึ้น อย่างไรก็ตามโครงการฯได้เปิดการอบรมมาตั้งแต่วันที่ 17 ก.ค. และจะสิ้นสุดในวันที่ 30 ก.ย.นี้ ขณะนี้เหลือนักเรียนที่เข้าร่วมจำนวน 141 คน จากเดิม157 คน นอกจากนี้ในวันที่ 12 ส.ค.นี้จะมีการจัดกิจกรรมวันแม่ โดยให้นักเรียนได้พบกับผู้ปกครองเป็นครั้งแรกหลังจากที่เข้าร่วมโครงการฯซึ่งจะมีผู้ใหญ่ของกองทัพบกและกระทรวงศึกษาธิการเข้าร่วมงานด้วย
วันนี้ (2 ส.ค.) พ.ท.วันชนะ สวัสดี รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงความคืบหน้าการฝึกนักเรียนอาชีวะในโครงการสุภาพบุรุษอาชีวะ ว่า โครงการดังกล่าวสามารถสร้างความสามัคคีให้กับนักเรียนอาชีวะที่เข้าร่วมโครงการได้จริง โดยเฉพาะทางด้านจิตใจ คือ 1.มีระเบียบวินัยมากขึ้น 2.มีการช่วยเหลือเกื้อกูลกันมากขึ้น 3.เห็นความสำคัญของครอบครัวมากขึ้น และ4.มีทัศนะที่ดีในการทำความดีต่อสังคมและไม่ใช้ความรุนแรง โดยเห็นได้จากนักเรียนที่มีลักษณะเป็นผู้นำกลุ่มที่ยอมรับว่าเป็นโครงการที่ดี แต่มีความเห็นว่า การฝึกนักเรียนหลายสถาบันร่วมกันจะทำให้โควตาในการส่งนักเรียนเข้ามาร่วมอบรมนั้นมีจำนวนจำกัด เช่น บางสถาบันส่งตัวแทนมาได้เพียงแค่ 3 คนจากนักเรียนทั้งหมด 3,000 คน ซึ่งใน 3 คนนั้นมีความคิดที่เปลี่ยนไปในเรื่องการใช้ความรุนแรง ซึ่งถือว่าเป็นส่วนน้อย จึงเสนอแนะว่าควรจะจัดให้นักเรียนสถาบันที่อยู่ใกล้เคียงกันมาเข้าร่วมโครงการฯก่อน
พ.ท.วันชนะ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ในส่วนของปัญหาหรืออุปสรรคอื่นนั้นยังไม่มีในขณะนี้ เนื่องจากนักเรียนอาชีวะที่เข้าร่วมโครงการสามารถปรับตัวเรื่องของสถาบันได้มากขึ้น อย่างไรก็ตามโครงการฯได้เปิดการอบรมมาตั้งแต่วันที่ 17 ก.ค. และจะสิ้นสุดในวันที่ 30 ก.ย.นี้ ขณะนี้เหลือนักเรียนที่เข้าร่วมจำนวน 141 คน จากเดิม157 คน นอกจากนี้ในวันที่ 12 ส.ค.นี้จะมีการจัดกิจกรรมวันแม่ โดยให้นักเรียนได้พบกับผู้ปกครองเป็นครั้งแรกหลังจากที่เข้าร่วมโครงการฯซึ่งจะมีผู้ใหญ่ของกองทัพบกและกระทรวงศึกษาธิการเข้าร่วมงานด้วย