ศธ.ปล่อยคาราวานแท็บเล็ตล็อตแรก 5.5 หมื่นเครื่อง ส่งตรง 8 จังหวัดแรกตามตัวอักษร มั่นใจได้รับของภายใน 18-20 ก.ค.นี้ “สุชาติ” เล็งซื้อแท็บเล็ต ม.1 พ.ย.นี้ อีก 7 แสนเครื่อง พร้อมชวนเอกชนร่วม CSR บริจาคแท็บเล็ต-คอมพิวเตอร์ ให้เด็ก ป.2 ตั้งเป้าภายใน 3-5 ปี ทุกชั้นเรียนมีแท็บเล็ตใช้ “ชินภัทร” ลุ้นร่าง พ.ร.บ.งบ 56 เตรียมซื้อแท็บเล็ต ม.1 อีก 2 พันล้านบาท ด้าน “อนุดิษฐ์” สุ่มตรวจแท็บเล็ต พบปัญหาระบบหน้าจอและความสว่าง 7 เครื่อง แต่ยอมรับได้ตามมาตรฐานสากล ย้ำ เครื่องชำรุดมีศูนย์บริการกระจายถึง 30 จุด และหากเสียภายใต้เงื่อนไข พร้อมเปลี่ยนเครื่องใหม่ให้ทันที
วันนี้ (18 ก.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น.ที่บริเวณหน้ากระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการ ศธ.เป็นประธานพิธีปล่อยคาราวานแท็บเล็ตพีซีเพื่อการศึกษาไทย โดยมี น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัด ศธ.ผู้บริหารจาก ศธ.และไอซีที ร่วมเป็นสักขีพยาน
ศ.ดร.สุชาติ กล่าวภายหลังเป็นประธาน ว่า คาราวานแท็บเล็ตนั้น มีจำนวน 30 คัน เพื่อจัดส่งเครื่องแท็บเล็ต จำนวน 55,712 เครื่อง ไปยังโรงเรียนระดับประถมศึกษาสำหรับใช้ในการเรียนการสอนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ใน 8 จังหวัด โดยเรียงตามตัวอักษร ตั้งแต่ ก.ไก่ คือ กระบี่ กรุงเทพมหานคร กาญจนบุรี กาฬสินธุ์ กำแพงเพชร ขอนแก่น จันทบุรี และ ฉะเชิงเทรา ซึ่งมีกำหนดจะจัดส่งระหว่างวันที่ 18-20 ก.ค.นี้ ทั้งนี้ เครื่องแท็บเล็ตดังกล่าวจะช่วยในการปฏิรูปการเรียนการสอน ทำให้การจัดการศึกษาในชนบททัดเทียมกับในเมือง อย่างไรก็ตาม ทาง ศธ.ได้เตรียมความพร้อมรองรับไว้เรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าจะเป็นความพร้อมของครูผู้สอน ซึ่งได้มีการจัดอบรมครูให้มีทักษะในการใช้แท็บเล็ตมาพัฒนาการเรียนการสอน ส่วนความพร้อมด้านสื่อที่จะใช้กับเครื่องแท็บเล็ตนั้น ในแท็บเล็ตจะมีบทเรียนครบทั้ง 5 กลุ่มสาระ รวมทั้งมี learning object อีก 336 เรื่อง รวมความจุ 4 กิกะไบต์จากความจุของเครื่อง 8 กิกะไบต์ นอกจากนั้น ยังได้ทำสื่อการเรียนการสอนของนักเรียนชั้น ป.2-4 ใส่ไว้ในระบบคลาวด์คอมพิวเตอร์ (Cloud computing) เผื่อให้เด็กเข้าไปเรียนรู้ด้วยตนเองได้
“ในเดือน พ.ย.นี้ ศธ.จะเริ่มทำโครงการจัดซื้อเครื่องแท็บเล็ตให้นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 700,000 เครื่อง ขณะเดียวกัน ศธ.จะเชิญชวนให้ภาคเอกชนมาทำ CSR เพื่อการศึกษาบริจาคเครื่องแท็บเล็ต หรือเครื่องคอมพิวเตอร์ให้กับนักเรียน ซึ่งน่าจะได้ปริมาณที่มากพอสมควร โดยแท็บเล็ตที่ได้ในส่วนนี้ อาจจะนำมาให้นักเรียนชั้น ป.2 ใช้ เพราะ ศธ.ต้องการจะนำระบบดิจิตอลเข้าสู่ระบบการเรียนการสอนให้เร็วที่สุด เพราะฉะนั้นแม้จะไม่ได้เครื่องครบทุกคน แต่จะพยายามบริหารจัดการในรูปแบบต่างๆ เพื่อให้นักเรียน ป.2 ได้มีโอกาสใช้แท็บเล็ต และภายใน 3-5 ปี ได้ตั้งเป้าว่า นักเรียนทุกชั้นปีจะมีเครื่องแท็บเล็ตใช้” ศ.ดร.สุชาติ กล่าวและว่า สำหรับเครื่องแท็บเล็ตที่ใช้เรียนนั้น จะให้นักเรียนและผู้ปกครองทำสัญญา เพื่อยืมเครื่องใช้ปีต่อปี และเมื่อครบระยะเวลา 3 ปี จะยกให้เป็นสมบัติของเด็ก
ขณะที่ น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า เครื่องแท็บเล็ตล็อตแรกที่ได้มีการตรวจรับไปจำนวน 35,000 เครื่อง พบว่า มีเครื่องที่มีปัญหา 7 เครื่อง ซึ่งมีปัญหาในระบบสัมผัสของหน้าจอ และปัญหาเรื่องของความสว่างของหน้าจอที่มืดไป อย่างไรก็ตาม จำนวนเครื่องที่มีปัญหา ยังถือว่าไม่มากอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานสากลที่ยอมรับได้ เพราะว่าการประกอบเครื่องมือดิจิตอลทั้งหลายต้องใช้มนุษย์เป็นผู้ประกอบย่อมที่จะมีเครื่องที่ผิดพลาด แม้แต่บริษัทคอมพิวเตอร์แบรนด์ดังระดับโลกก็ยังมีเครื่องที่ตกมาตรฐานเป็นแสนเป็นล้านเครื่อง
“การดูแลรักษาเครื่องแท็บเล็ตนั้น ถ้าหากเครื่องเสีย ไม่ว่าจะอยู่ภายในการรับประกันหรือไม่ ก็จะมีการจัดหาเครื่องใหม่ให้นักเรียนนำไปใช้งาน อย่างไรก็ตาม ถ้าการชำรุดบกพร่องอยู่ภายใต้เงื่อนไขการรับประกันสามารถส่งซ่อมตามศูนย์ซ่อมที่มีอยู่ 30 แห่งทั่วประเทศได้ แต่ถ้าไม่ได้อยู่ภายใต้เงื่อนไขการรับประกันก็อยู่ที่การพิจารณาเหตุและผลของ ศธ.และโรงเรียน ว่า การชำรุดบกพร่องเกิดจากความตั้งใจหรือไม่ ถ้าไม่มีปัญหาอะไรก็จะมีการจัดหาเครื่องใหม่ให้” รมว.ไอซีที กล่าว
ด้าน นายชินภัทร กล่าวว่า วานนี้ (17 ก.ค.) ทางไอซีทีได้ส่งมอบเครื่องแท็บเล็ตให้ทั้งหมด 60,522 เครื่อง ปล่อยในขบวนคาราวานไปยังโรงเรียน 55,712 เครื่อง ที่เหลือจะสมทบกับการแจกในล็อตที่ 2 เพื่อแจกในจังหวัดถัดไป ทั้งนี้ คอมพิวเตอร์ที่จัดซื้อตามสัญญาการจัดซื้อรอบแรกจะจัดส่งให้ครบทุกจังหวัดในจำนวน 48% ของจำนวนเด็ก ป.1 ในจังหวัดทั้งหมด เมื่อเครื่องที่ทำรีพีทออเดอร์ อีก 400,000 เครื่องมาถึงก็จะจัดส่งต่อให้อีก 52% ที่เหลือส่วนการจัดซื้อเครื่องแท็บเล็ตให้นักเรียน ม.1 นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำงบประมาณปี 2556 คาดว่า จะใช้วงเงินประมาณ 2,000 ล้านบาท ถ้าหากร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2556 ผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมสภา สพฐ.ก็พร้อมจะดำเนินการได้ทันทีเพราะมีข้อมูลนักเรียนอยู่แล้ว และการจัดซื้อจะทำในลักษณะเดียวกับการจัดซื้อครั้งแรกจึงไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
อย่างไรก็ตาม สำหรับบัญชีจัดส่งของ บริษัท พัสดุภัณฑ์ไทย จำกัด ที่ขบวนคาราวานจะจัดส่งเครื่องแท็บเล็ตไปยังโรงเรียนสังกัด สพฐ.สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) และโรงเรียนสาธิต สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ระยะที่ 1 ปีการศึกษา 2555 นั้นไปยัง 8 จังหวัด ในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) 20 เขต มีรายละเอียด ดังนี้
1.สพป.กระบี่ ได้รับจัดสรรทั้งหมด 4,176 เครื่อง แบ่งเป็นให้โรงเรียน สพฐ.2,880 เครื่อง โรงเรียน สช.1,296 เครื่อง โดย สพป.กระบี่ จะได้รับของในวันที่ 18 ก.ค.
2.สพป.กรุงเทพมหานคร ได้รับจัดสรรทั้งหมด 16,288 เครื่อง แบ่งเป็นโรงเรียน สพฐ.1,982 เครื่อง โรงเรียน สช.12,992 เครื่อง และโรงเรียนสาธิต สังกัด สกอ.1,314 เครื่อง โดยจะได้รับของในวันที่ 18 ก.ค.
3.สพป.กาญจนบุรี เขต 1 ได้รับจัดสรรทั้งหมด 2,288 เครื่อง แบ่งเป็นให้โรงเรียน สพฐ. 1,664 เครื่อง โรงเรียน สช.624 เครื่อง โดยจะได้รับของในวันที่ 18 ก.ค.
4.สพป.กาญจนบุรี เขต 2 ได้รับจัดสรรทั้งหมด 1,440 เครื่อง แบ่งเป็นให้โรงเรียน สพฐ. 1,152 เครื่อง โรงเรียน สช.288 เครื่อง โดยจะได้รับของในวันที่ 18 ก.ค.
5.สพป.กาญจนบุรี เขต 3 ได้รับจัดสรรทั้งหมด 1,552 เครื่อง แบ่งเป็นให้โรงเรียน สพฐ. 1,488 เครื่อง โรงเรียน สช.64 เครื่อง โดยจะได้รับของในวันที่ 18 ก.ค.
6.สพป.กาญจนบุรี เขต 4 ได้รับจัดสรรทั้งหมด 1,008 เครื่อง และมีเพียงโรงเรียน สพฐ.เท่านั้นโดยจะได้รับของในวันที่ 18 ก.ค.
7.สพป.กาฬสินธุ์ เขต 1 ได้รับจัดสรรทั้งหมด 1,984 เครื่อง แบ่งเป็นให้โรงเรียน สพฐ.1,552 เครื่อง โรงเรียน สช.432 เครื่อง โดยจะได้รับของในวันที่ 18 ก.ค.
8.สพป.กาฬสินธุ์ เขต 2 ได้รับจัดสรรทั้งหมด 1,760 เครื่อง แบ่งเป็นให้โรงเรียน สพฐ. 1,296 เครื่อง โรงเรียน สช.464 เครื่อง โดยจะได้รับของในวันที่ 18 ก.ค.
9.สพป.กาฬสินธุ์ เขต 3 ได้รับจัดสรรทั้งหมด 2,144 เครื่อง แบ่งเป็นให้โรงเรียน สพฐ.1,824 เครื่อง โรงเรียน สช.320 เครื่อง โดยจะได้รับของในวันที่ 18 ก.ค.
10.สพป.กำแพงเพชร เขต 1 ได้รับจัดสรรทั้งหมด 2,688 เครื่อง แบ่งเป็นให้โรงเรียน สพฐ.2,048 เครื่อง โรงเรียน สช.640 เครื่อง โดยจะได้รับของในวันที่ 19 ก.ค.
11.สพป.กำแพงเพชร เขต 2 ได้รับจัดสรรทั้งหมด 2,144 เครื่อง แบ่งเป็นให้โรงเรียน สพฐ. 1,488 เครื่อง โรงเรียน สช.656 เครื่อง โดยจะได้รับของในวันที่ 19 ก.ค.
12.สพป.ขอนแก่น เขต 1 ได้รับจัดสรรทั้งหมด 2,752 เครื่อง แบ่งเป็นให้โรงเรียน สพฐ. 1,559 เครื่อง โรงเรียน สช.896 เครื่อง โรงเรียนสาธิต สกอ.297 เครื่อง โดยจะได้รับของในวันที่ 20 ก.ค.
13.สพป.ขอนแก่น เขต 2 ได้รับจัดสรรทั้งหมด 1,664 เครื่อง แบ่งเป็นให้โรงเรียน สพฐ. 1,328 เครื่อง โรงเรียน สช.336 เครื่อง โดยจะได้รับของในวันที่ 20 ก.ค.
14.สพป.ขอนแก่น เขต 3 ได้รับจัดสรรทั้งหมด 1,456 เครื่อง แบ่งเป็นให้โรงเรียน สพฐ. 1,120 เครื่อง โรงเรียน สช.336 เครื่อง โดยจะได้รับของในวันที่ 20 ก.ค.
15.สพป.ขอนแก่น เขต 4 ได้รับจัดสรรทั้งหมด 1,744 เครื่อง แบ่งเป็นให้โรงเรียน สพฐ. 1,344 เครื่อง โรงเรียน สช.400 เครื่อง โดยจะได้รับของในวันที่ 20 ก.ค.
16.สพป.ขอนแก่น เขต 5 ได้รับจัดสรรทั้งหมด 2,704 เครื่อง แบ่งเป็นให้โรงเรียน สพฐ. 2,224 เครื่อง โรงเรียน สช.480 เครื่อง โดยจะได้รับของในวันที่ 20 ก.ค.
17.สพป.จันทบุรี เขต 1 ได้รับจัดสรรทั้งหมด 2,000 เครื่อง แบ่งเป็นให้โรงเรียน สพฐ. 1,184 เครื่อง โรงเรียน สช.816 เครื่อง โดยจะได้รับของในวันที่ 19 ก.ค.
18.สพป.จันทบุรี เขต 2 ได้รับจัดสรรทั้งหมด 1,472 เครื่อง แบ่งเป็นให้โรงเรียน สพฐ. 1,296 เครื่อง โรงเรียน สช.176 เครื่อง โดยจะได้รับของในวันที่ 19 ก.ค.
19.สพป.ฉะเชิงเทรา เขต 1 ได้รับจัดสรรทั้งหมด 2,560 เครื่อง แบ่งเป็นให้โรงเรียน สพฐ. 1,955 เครื่อง โรงเรียน สช.560 เครื่อง โรงเรียนสาธิต สกอ.45 เครื่อง โดยจะได้รับของในวันที่ 19 ก.ค.
20.สพป.ฉะเชิงเทรา เขต 2 ได้รับจัดสรรทั้งหมด 1,888 เครื่อง แบ่งเป็นให้โรงเรียน สพฐ. 1,664 เครื่อง โรงเรียน สช.224 เครื่อง โดยจะได้รับของในวันที่ 19 ก.ค.