รมว.สธ.สั่งทีมสาธารณสุขปทุมธานี สอบสาเหตุเด็กหญิง 10 ขวบ หนัก 120 กก.เสียชีวิต คาดทราบผล 1 เดือน พร้อมเตือนประชาชนที่น้ำหนักเกิน ให้ควบคุมน้ำหนักอย่างถูกวิธี โดยเฉพาะการออกกำลังกาย การควบคุมอาหารและอารมณ์ ลั่นอย่าพึ่งยาลดความอ้วน ชี้ เสี่ยงอันตรายมากและจะกลับมาอ้วนมากกว่าเดิม
นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีที่มีเด็กหญิงวัย 10 ขวบ น้ำหนักตัว 120 กิโลกรัม ภูมิลำเนาอยู่ที่ตำบลบ้านกลาง อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี เสียชีวิตอยู่ในห้องนอน บ้านของตนเอง เมื่อประมาณ 04.00 น.วันนี้ (25 มิ.ย.) ว่า ได้สั่งการให้สำนักงานสาธารณสุข จังหวัดปทุมธานี ส่งทีมสอบสวนโรคเคลื่อนที่เร็วลงไปตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิตของเด็กรายนี้เป็นการด่วน โดยได้รับรายงานเบื้องต้นจากนายแพทย์ ณรงค์ ตั้งตรงไพโรจน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี ว่า ผู้เสียชีวิตมีประวัติหกล้มหน้าอกกระแทกก่อนเสียชีวิตประมาณ 1 สัปดาห์ แต่ไม่ได้พบแพทย์ และเมื่อวานนี้มีไข้ บิดาได้ซื้อยาแก้ปวดพาราเซตามอล และยาแก้อักเสบมาให้กิน ไม่ได้พบแพทย์เช่นกัน ยังไม่ทราบประวัติว่ากินยาลดความอ้วนหรือไม่ ขณะนี้ได้ส่งศพตรวจชันสูตรที่โรงพยาบาลศูนย์ธรรมศาสตร์รังสิต จะทราบผลประมาณ 1 เดือน
นายวิทยา กล่าวต่อว่า ขณะนี้ปัญหาโรคอ้วนในคนไทยเป็นเรื่องที่น่าห่วงมาก เนื่องจากการใช้ชีวิตไม่สมดุล ออกกำลังกายน้อย รับประทานอาหารมาก ทำให้เกิดการสะสมไปพอกเป็นไขมันตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย และมีผลต่อการทำงานของอวัยวะภายใน โดยไขมันจะไปเกาะในหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดตีบ หัวใจต้องทำงานหนักขึ้น เสี่ยงหัวใจวายตามมา ขณะเดียวกัน คนที่อ้วนก็มักจะไม่ชอบออกกำลังกาย มักให้เหตุผลว่าเหนื่อย และหันไปพี่งยาหรืออาหารเสริมที่โฆษณาว่ามีสรรพคุณลดความอ้วนได้ เพราะไม่อยากเหนื่อย เป็นเรื่องที่น่าห่วงมาก เนื่องจากเป็นวิธีที่เสี่ยงอันตราย และเมื่อหยุดยาน้ำหนักตัวจะกลับมามากยิ่งกว่าเดิมหลายเท่าตัว โดยเฉพาะผู้ที่สั่งซื้อทางอินเทอร์เน็ต หรือฝากเพื่อนรับยาคลินิกประจำ เพราะผู้ให้การรักษาจะไม่ได้ตรวจสุขภาพก่อนจ่ายยา โดยในปีนี้ กระทรวงสาธารณสุข จะรณรงค์ให้ประชาชนทุกพื้นที่ออกกำลังกายอย่างถูกวิธี ตามความถนัด หรือความชอบ ให้เหมาะสมกับวัย โดยให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และ อสม.เป็นตัวอย่าง และกระตุ้นนำการออกกำลังกายในชุมชนทุกเย็น
ด้านนายแพทย์ สมศักด์ ภัทรกุลวณิชย์ รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ในการลดน้ำหนักที่ดีที่สุด ขอแนะนำให้ประชาชนใช้หลัก 3 อ.ได้แก่ ออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ครั้งละ 30 นาที อ.ที่ 2 คือ อาหาร ให้รับประทานอาหารที่รสไม่หวาน มัน และเพิ่มผักผลไม้ให้ได้วันละ 4 ขีด เพราะในใยผักผลไม้จะเป็นตัวดูดซับไขมันที่อยู่ในอาหาร และขับถ่ายออกไปพร้อมกับอุจจาระ อ.ที่ 3 คือ การควบคุมอารมณ์ อ.ตัวนี้มีความสำคัญ โดยให้มีเพื่อนช่วย สะกิด สกัด สะกดใจ ไม่ให้กินพร่ำเพรื่อ หรือกินอาหารตามใจที่อยากกินเพราะเคยกิน โดยเฉพาะน้ำอัดลม น้ำหวาน น้ำหนักควรจะลดลงสัปดาห์ละประมาณครึ่งกิโลกรัมซึ่งไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย และหากปฏิบัติแล้วไม่ได้ผล แนะนำให้พบแพทย์เพื่อการควบคุมน้ำหนักที่ถูกวิธี
ทั้งนี้ ในการประเมินน้ำหนักตัวที่เหมาะสม มีสูตรง่ายคือผู้ชาย ให้ใช้ส่วนสูงเป็นเซนติเมตรลบด้วย 100 ส่วนผู้หญิงให้ใช้ส่วนสูงเช่นกันลบด้วย 110 และพยายามควบคุมน้ำหนักตัวไม่ให้เกินค่าดังกล่าว
นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีที่มีเด็กหญิงวัย 10 ขวบ น้ำหนักตัว 120 กิโลกรัม ภูมิลำเนาอยู่ที่ตำบลบ้านกลาง อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี เสียชีวิตอยู่ในห้องนอน บ้านของตนเอง เมื่อประมาณ 04.00 น.วันนี้ (25 มิ.ย.) ว่า ได้สั่งการให้สำนักงานสาธารณสุข จังหวัดปทุมธานี ส่งทีมสอบสวนโรคเคลื่อนที่เร็วลงไปตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิตของเด็กรายนี้เป็นการด่วน โดยได้รับรายงานเบื้องต้นจากนายแพทย์ ณรงค์ ตั้งตรงไพโรจน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี ว่า ผู้เสียชีวิตมีประวัติหกล้มหน้าอกกระแทกก่อนเสียชีวิตประมาณ 1 สัปดาห์ แต่ไม่ได้พบแพทย์ และเมื่อวานนี้มีไข้ บิดาได้ซื้อยาแก้ปวดพาราเซตามอล และยาแก้อักเสบมาให้กิน ไม่ได้พบแพทย์เช่นกัน ยังไม่ทราบประวัติว่ากินยาลดความอ้วนหรือไม่ ขณะนี้ได้ส่งศพตรวจชันสูตรที่โรงพยาบาลศูนย์ธรรมศาสตร์รังสิต จะทราบผลประมาณ 1 เดือน
นายวิทยา กล่าวต่อว่า ขณะนี้ปัญหาโรคอ้วนในคนไทยเป็นเรื่องที่น่าห่วงมาก เนื่องจากการใช้ชีวิตไม่สมดุล ออกกำลังกายน้อย รับประทานอาหารมาก ทำให้เกิดการสะสมไปพอกเป็นไขมันตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย และมีผลต่อการทำงานของอวัยวะภายใน โดยไขมันจะไปเกาะในหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดตีบ หัวใจต้องทำงานหนักขึ้น เสี่ยงหัวใจวายตามมา ขณะเดียวกัน คนที่อ้วนก็มักจะไม่ชอบออกกำลังกาย มักให้เหตุผลว่าเหนื่อย และหันไปพี่งยาหรืออาหารเสริมที่โฆษณาว่ามีสรรพคุณลดความอ้วนได้ เพราะไม่อยากเหนื่อย เป็นเรื่องที่น่าห่วงมาก เนื่องจากเป็นวิธีที่เสี่ยงอันตราย และเมื่อหยุดยาน้ำหนักตัวจะกลับมามากยิ่งกว่าเดิมหลายเท่าตัว โดยเฉพาะผู้ที่สั่งซื้อทางอินเทอร์เน็ต หรือฝากเพื่อนรับยาคลินิกประจำ เพราะผู้ให้การรักษาจะไม่ได้ตรวจสุขภาพก่อนจ่ายยา โดยในปีนี้ กระทรวงสาธารณสุข จะรณรงค์ให้ประชาชนทุกพื้นที่ออกกำลังกายอย่างถูกวิธี ตามความถนัด หรือความชอบ ให้เหมาะสมกับวัย โดยให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และ อสม.เป็นตัวอย่าง และกระตุ้นนำการออกกำลังกายในชุมชนทุกเย็น
ด้านนายแพทย์ สมศักด์ ภัทรกุลวณิชย์ รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ในการลดน้ำหนักที่ดีที่สุด ขอแนะนำให้ประชาชนใช้หลัก 3 อ.ได้แก่ ออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ครั้งละ 30 นาที อ.ที่ 2 คือ อาหาร ให้รับประทานอาหารที่รสไม่หวาน มัน และเพิ่มผักผลไม้ให้ได้วันละ 4 ขีด เพราะในใยผักผลไม้จะเป็นตัวดูดซับไขมันที่อยู่ในอาหาร และขับถ่ายออกไปพร้อมกับอุจจาระ อ.ที่ 3 คือ การควบคุมอารมณ์ อ.ตัวนี้มีความสำคัญ โดยให้มีเพื่อนช่วย สะกิด สกัด สะกดใจ ไม่ให้กินพร่ำเพรื่อ หรือกินอาหารตามใจที่อยากกินเพราะเคยกิน โดยเฉพาะน้ำอัดลม น้ำหวาน น้ำหนักควรจะลดลงสัปดาห์ละประมาณครึ่งกิโลกรัมซึ่งไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย และหากปฏิบัติแล้วไม่ได้ผล แนะนำให้พบแพทย์เพื่อการควบคุมน้ำหนักที่ถูกวิธี
ทั้งนี้ ในการประเมินน้ำหนักตัวที่เหมาะสม มีสูตรง่ายคือผู้ชาย ให้ใช้ส่วนสูงเป็นเซนติเมตรลบด้วย 100 ส่วนผู้หญิงให้ใช้ส่วนสูงเช่นกันลบด้วย 110 และพยายามควบคุมน้ำหนักตัวไม่ให้เกินค่าดังกล่าว
