แฉ! พฤติกรรม กก.บอร์ดอาชีวะ เผด็จการ-ล็อกสเปก กก.สภาสถาบัน

ทนไม่ไหว กรรมการบอร์ดอาชีวะแฉ! พฤติกรรมกรรมการเสียงข้างมากในบอร์ดเผด็จการ ล็อกสเปกกรรมการสภาสถาบันอาชีวศึกษา ไม่เปิดโอกาสให้คนนอกร่วมสังฆกรรม หวังกั้นเก้าอี้ไว้ให้พรรคพวกของตัวเอง

นายอุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม ประธานคณะกรรมการกลางกลุ่มเกษตรกรแห่งประเทศไทย ในฐานะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) เปิดเผยภายหลังเข้ายื่นหนังสือต่อ นายศักดา คงเพชร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า หลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไฟเขียวให้มีการจัดตั้งสถาบันการอาชีวศึกษา 19 แห่งทั่วประเทศ เปิดสอนสายอาชีพถึงระดับปริญญาตรี ซึ่งขณะนี้ ร่าง พ.ร.บ.สถาบันการอาชีวศึกษา อยู่ระหว่างการตรวจสอบร่างโดยคณะกรรมการกฤษฎีกา ส่วนบอร์ดอาชีวศึกษา ก็กำลังยกร่างกฎกระทรวงกำหนดคุณสมบัติผู้ดำรงตำแหน่งนายกสภาสถาบัน กรรมการสภาสถาบัน และหลักเกณฑ์วิธีการเลือก/สรรหากรรมการสภาสถาบัน เพื่อใช้ในการสรรหากรรมสภาสถาบันอาชีวศึกษาทั้ง 19 แห่ง

นายอุบลศักดิ์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ใน พ.ร.บ.การอาชีวศึกษา มาตรา 23(3) ไม่ได้คุณสมบัติของผู้ที่จะเป็นกรรมการสภาสถาบันไว้อย่างเฉพาะเจาะจง แค่กำหนดให้กรรมการสภาสถาบันคัดเลือกจากบุคคลที่ให้ สอศ.เสนอชื่อ ตรงนี้เป็นเจตนารมณ์ของกฎหมายที่ต้องการให้คนนอกมีโอกาสร่วมเป็นกรรกการสภาสถาบันได้ เพื่อให้มีบอร์ดมีความหลากหลาย จึงเปิดให้ สอศ.เสนอชื่อบุคคลที่มีคุณสมบัติ มีความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ในด้านต่างๆ เป็นกรรมการสภาสถาบันได้ และในส่วนของบอร์ดสภาสถาบันการอาชีวศึกษานั้น จะมีการกรรมการทั้งหมด 16 คน เป็นกรรมการโดยตำแหน่ง 12 คน ที่เหลืออีก 4 คน ก็ควรเป็นคนนอก แต่ปรากฏว่า เสียงข้างมากในบอร์ดอาชีวศึกษาใช้ความเป็นเผด็จการ พยายามกีดกัน ไม่ให้คนนอกมาเป็นกรรมการสภาสถาบัน โดยไประบุเจาะจงคุณสมบัติของกรรมการเพิ่มเติมไว้ในข้อ 3(3) จนทำให้คนนอกแทบไม่มีโอกาสหลุดเข้ามาเป็นกรรมการได้

ทั้งนี้ ในร่างกฎกระทรวง ข้อ 3(3) กำหนดไว้ดังนี้ กรรมการสภาสถาบันต้องมีคุณสมบัติอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ ดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่า ผู้อำนวยการสำนัก หรือเทียบเท่าในส่วนราชการ สอศ., ดำรงตำแหน่งผอ.สถานศึกษาที่มีวิทยาฐานะไม่ต่ำกว่าชำนาญการพิเศษสังกัด สอศ., ดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าเชี่ยวชาญ สังกัด สอศ., เป็นผู้แทนจากหอการค้าไทย, เป็นผู้แทนจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือเป็นผู้ปฏิบัติหรือเคยปฏิบัติราชการทางด้านกฎหมายไม่น้อยกว่า 10 ปี

“ถ้ากำหนดหลักเกณฑ์กันไว้อย่างนี้แล้ว อย่างสายวิทยาลัยเกษตร จะมีคุณสมบัติใดมาเป็นกรรมการสภาสถาบันได้ คนนอกที่เขามีความรู้ ความสามารถ ก็หมดสิทธิ์มาเป็นกรรมการ ได้เฉพาะคนในวงราชการและคนจากหอการค้าไทยและสภาอุตสาหกรรม ซึ่งผมอยากถามว่า หอการค้าไทยและสภาอุตสาหกรรมก็ไม่ใช่เจ้าของอาชีวะ ทำไมต้องกำหนดเป็นการเฉพาะเจาะจงให้มีคุณสมบัติเป็นกรรมการสภาสถาบันได้”นายอุบลศักดิ์ กล่าว

นายอุบลศักดิ์ ตั้งข้อสังเกตด้วยว่า การพยายามล็อกสเปกกรรมการสภาสถาบันนั้น อาจเพื่อต้องการกั้นพื้นที่ให้คนของตัวเอง อย่างไรก็ตาม นายศักดา ได้รับเรื่องไว้แล้ว และจะเรียก นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ไปชี้แจ้งในเร็วๆ นี้ ส่วนตนนั้น ก็จะต่อสู้ในเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด หลังจากนี้ จะไปยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการกฤษฎีกาต่อไป