สธ.แจง ผลสอบวินัยซูโดฯ เลื่อนอีก 1 เดือน เหตุสอบวินัยไม่ร้ายแร งแต่กลับโยงกลุ่มวินัยร้ายแรง ต้องรอส่งข้อมูลทั้งหมด โยนแพทยสภาพิจารณาถอดใบประกอบฯ หากพบแพทย์กระทำผิด
วันนี้ (28 พ.ค.) นพ.โสภณ เมฆธน รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบรายงานการดำเนินการทางวินัยกรณีการจัดซื้อยา สูตรผสมซูโดอีเฟดรีน กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการชุดดังกล่าว ที่กระทรวงสาธารณสุข ว่า หลังจากพบมูลความผิดกรณีการจัดซื้อยาสูตรผสมซูโดอีเฟดรีนที่มากผิดปกติ และมียาหายไปจากระบบโดยไม่ทราบว่า หายไปไหนนั้น กระทั่งมีการตรวจสอบและพบผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจนต้องตั้งคณะกรรมการสอบวินัย ทั้งร้ายแรงและไม่ร้ายแรงในแต่ละจังหวัด รวมทั้งหมดมี 14 คน ซึ่งผลสอบปรากฏว่า ล่าสุดยังไม่ได้ข้อสรุป แม้เดิมทีกำหนดว่าการตรวจสอบกลุ่มวินัยไม่ร้ายแรงจะแล้วเสร็จภายใน 1 เดือน คือ ช่วงสัปดาห์นี้ ส่วนกลุ่มวินัยร้ายแรงคาดว่าผลสอบจะแล้วเสร็จในเดือนมิถุนายน แต่ปรากฏว่า จากการตรวจสอบกรณีวินัยไม่ร้ายแรงมีการเชื่อมโยงกับกลุ่มวินัยร้ายแรง จึงไม่สามารถแยกส่วนจากกันได้
นพ.โสภณ กล่าวอีกว่า ขณะนี้บุคคลที่ถูกสอบวินัยทั้งร้ายแรงและไม่ร้ายแรงนั้น อยู่ระหว่างทยอยส่งข้อมูล สว.3 หรือ เอกสารชี้แจงข้อกล่าวหา ไปยังคณะกรรมการแต่ละจังหวัดแล้ว โดยมีการส่งแล้วกว่าร้อยละ 50 เบื้องต้นคาดว่าผลสอบกรณีโรงพยาบาล (รพ.) ทองแสนขัน จ.อุตรดิตถ์ ซึ่งผู้อำนวยการ รพ.และเภสัชกร ที่ถูกสอบวินัยร้ายแรงทั้งคู่ จะทราบผลการสอบในสัปดาห์หน้า เนื่องจากเป็น รพ.แห่งแรกๆ ที่มีการตรวจสอบพบมูลความผิดปกติ ส่วน รพ.อื่นและบุคคลที่เกี่ยวข้องอื่นๆ จะทยอยทราบผล คาดว่า จะทราบผลชัดเจนภายในเดือนมิถุนายน 2555 ซึ่งกรณีสอบวินัยร้ายแรง หากพบว่ามีความผิดจริง และเกี่ยวข้องกับการทุจริตจะต้องโดนไล่ออกสถานเดียว ส่วนผู้กระทำผิด หากเป็นแพทย์จะมีการถอดใบประกอบวิชาชีพแพทย์หรือไม่นั้น เรื่องนี้อยู่ที่แพทยสภา อย่างไรก็ตาม เกี่ยวกับการตรวจสอบไม่ต้องกังวล เนื่องจากงานนี้ต้องมีคนผิดแน่นอน เพียงแต่ต้องขอเวลาในการตรวจสอบ เพราะเรื่องนี้เกี่ยวพันหลายฝ่าย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เพื่อติดตามความก้าวหน้าของการทำงานของคณะกรรมการตรวจสอบวินัยในแต่ละจังหวัด ทางคณะกรรมการตรวจสอบฯ ที่ผมเป็นประธานในชุดนี้นั้น ได้มีการส่งนิติกรเข้าทำงานร่วมกับคณะกรรมการตรวจสอบวินัยแต่ละจังหวัดอยู่แล้ว โดยคาดว่าจะมีการประชุมอีกครั้งสัปดาห์หน้า
สำหรับบุคคลที่ถูกสอบวินัยร้ายแรงและไม่ร้ายแรงนั้น แบ่งเป็นกลุ่มที่ถูกตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง 9 คน ได้แก่ 1.เภสัชกรชำนาญการโรงพยาบาล (รพ.) อุดรธานี 2.เภสัชกรชำนาญการ รพ.ทองแสนขัน จ.อุตรดิตถ์ 3.ผอ.รพ.ทองแสนขัน 4.เภสัชกรชำนาญ รพ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ 5.เจ้าพนักงานเภสัชกรรมชำนาญงาน รพ.กมลาไสย 6.เภสัชกรชำนาญการ รพ.ฮอด จ.เชียงใหม่ 7.เจ้าพนักงานเภสัชกรรมปฏิบัติงาน รพ.ฮอด 8.เภสัชกรชำนาญการ รพ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ และ 9.เภสัชกร รพ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ ส่วนกลุ่มที่ถูกตั้งคณะกรรมการสอบวินัยไม่ร้ายแรงมี 5 คน ประกอบด้วย 1.ผอ.รพ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ 2.เภสัชกรชำนาญการ รพ.กมลาไสย 3.เจ้าพนักงานเภสัชกรรมปฏิบัติงาน รพ.กมลาไสย 2 คน และ 4.ผอ.รพ. ฮอด
วันนี้ (28 พ.ค.) นพ.โสภณ เมฆธน รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบรายงานการดำเนินการทางวินัยกรณีการจัดซื้อยา สูตรผสมซูโดอีเฟดรีน กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการชุดดังกล่าว ที่กระทรวงสาธารณสุข ว่า หลังจากพบมูลความผิดกรณีการจัดซื้อยาสูตรผสมซูโดอีเฟดรีนที่มากผิดปกติ และมียาหายไปจากระบบโดยไม่ทราบว่า หายไปไหนนั้น กระทั่งมีการตรวจสอบและพบผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจนต้องตั้งคณะกรรมการสอบวินัย ทั้งร้ายแรงและไม่ร้ายแรงในแต่ละจังหวัด รวมทั้งหมดมี 14 คน ซึ่งผลสอบปรากฏว่า ล่าสุดยังไม่ได้ข้อสรุป แม้เดิมทีกำหนดว่าการตรวจสอบกลุ่มวินัยไม่ร้ายแรงจะแล้วเสร็จภายใน 1 เดือน คือ ช่วงสัปดาห์นี้ ส่วนกลุ่มวินัยร้ายแรงคาดว่าผลสอบจะแล้วเสร็จในเดือนมิถุนายน แต่ปรากฏว่า จากการตรวจสอบกรณีวินัยไม่ร้ายแรงมีการเชื่อมโยงกับกลุ่มวินัยร้ายแรง จึงไม่สามารถแยกส่วนจากกันได้
นพ.โสภณ กล่าวอีกว่า ขณะนี้บุคคลที่ถูกสอบวินัยทั้งร้ายแรงและไม่ร้ายแรงนั้น อยู่ระหว่างทยอยส่งข้อมูล สว.3 หรือ เอกสารชี้แจงข้อกล่าวหา ไปยังคณะกรรมการแต่ละจังหวัดแล้ว โดยมีการส่งแล้วกว่าร้อยละ 50 เบื้องต้นคาดว่าผลสอบกรณีโรงพยาบาล (รพ.) ทองแสนขัน จ.อุตรดิตถ์ ซึ่งผู้อำนวยการ รพ.และเภสัชกร ที่ถูกสอบวินัยร้ายแรงทั้งคู่ จะทราบผลการสอบในสัปดาห์หน้า เนื่องจากเป็น รพ.แห่งแรกๆ ที่มีการตรวจสอบพบมูลความผิดปกติ ส่วน รพ.อื่นและบุคคลที่เกี่ยวข้องอื่นๆ จะทยอยทราบผล คาดว่า จะทราบผลชัดเจนภายในเดือนมิถุนายน 2555 ซึ่งกรณีสอบวินัยร้ายแรง หากพบว่ามีความผิดจริง และเกี่ยวข้องกับการทุจริตจะต้องโดนไล่ออกสถานเดียว ส่วนผู้กระทำผิด หากเป็นแพทย์จะมีการถอดใบประกอบวิชาชีพแพทย์หรือไม่นั้น เรื่องนี้อยู่ที่แพทยสภา อย่างไรก็ตาม เกี่ยวกับการตรวจสอบไม่ต้องกังวล เนื่องจากงานนี้ต้องมีคนผิดแน่นอน เพียงแต่ต้องขอเวลาในการตรวจสอบ เพราะเรื่องนี้เกี่ยวพันหลายฝ่าย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เพื่อติดตามความก้าวหน้าของการทำงานของคณะกรรมการตรวจสอบวินัยในแต่ละจังหวัด ทางคณะกรรมการตรวจสอบฯ ที่ผมเป็นประธานในชุดนี้นั้น ได้มีการส่งนิติกรเข้าทำงานร่วมกับคณะกรรมการตรวจสอบวินัยแต่ละจังหวัดอยู่แล้ว โดยคาดว่าจะมีการประชุมอีกครั้งสัปดาห์หน้า
สำหรับบุคคลที่ถูกสอบวินัยร้ายแรงและไม่ร้ายแรงนั้น แบ่งเป็นกลุ่มที่ถูกตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง 9 คน ได้แก่ 1.เภสัชกรชำนาญการโรงพยาบาล (รพ.) อุดรธานี 2.เภสัชกรชำนาญการ รพ.ทองแสนขัน จ.อุตรดิตถ์ 3.ผอ.รพ.ทองแสนขัน 4.เภสัชกรชำนาญ รพ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ 5.เจ้าพนักงานเภสัชกรรมชำนาญงาน รพ.กมลาไสย 6.เภสัชกรชำนาญการ รพ.ฮอด จ.เชียงใหม่ 7.เจ้าพนักงานเภสัชกรรมปฏิบัติงาน รพ.ฮอด 8.เภสัชกรชำนาญการ รพ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ และ 9.เภสัชกร รพ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ ส่วนกลุ่มที่ถูกตั้งคณะกรรมการสอบวินัยไม่ร้ายแรงมี 5 คน ประกอบด้วย 1.ผอ.รพ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ 2.เภสัชกรชำนาญการ รพ.กมลาไสย 3.เจ้าพนักงานเภสัชกรรมปฏิบัติงาน รพ.กมลาไสย 2 คน และ 4.ผอ.รพ. ฮอด
