ศธ.เดินหน้าตามนโยบายสร้างพลังครู ให้สอบเพียงภาค ก.และภาค ข.ไม่ต้องมีการสัมภาษณ์ พร้อมจัดอบรมผู้บริหาร 4 ภาค ก่อนนำครูเข้ารับนโยบายด้านการศึกษากับ “ยิ่งลักษณ์” เดือน มิ.ย.นี้
น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า ตามที่ ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) มีนโยบายว่า การสอบแข่งขันเพื่อบรรจุเป็นข้าราชการในสังกัดหน่วยงาน ศธ.นั้นให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จที่ส่วนกลาง และให้มีเพียงการสอบภาค ก.และ ข.เท่านั้นไม่ต้องมีการสอบสัมภาษณ์ซึ่งเป็นการตัดสินคนด้วยการใช้ดุลยพินิจ เพราะต้องการให้การดำเนินการทุกอย่างโปร่งใส เป็นธรรม และสร้างความเสมอภาค รวมถึงโอกาสให้แก่ครูและบุคลากรทางการศึกษาตามนโยบายสร้างพลังครู ซึ่งในปี 2555 นั้นกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) จะมีการบรรจุข้าราชการในตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษาและรองผู้อำนวยการสถานศึกษา ว่างอยู่ 1,136 อัตรา แบ่งเป็น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ซึ่งมีตำแหน่งว่างอยู่ จำนวน 1,018 อัตรา เป็นตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียน 219 อัตรา รองผู้อำนวยการโรงเรียน 799 อัตรา ซึ่งดำเนินการสอบคัดเลือกเมื่อวันที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมา และจะประกาศผลในวันที่ 30 พ.ค.นี้ ส่วนสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ซึ่งมีตำแหน่ง รอง ผอ.ว่างอยู่ 118 อัตรา ซึ่งไปจัดสอบคัดเลือกเสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 13 พ.ค.แล้วเช่นกัน และประกาศผลไปแล้วเมื่อวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ก่อนเข้ารับตำแหน่งทั้งหมดนั้น จะต้องผ่านการอบรมในหลักสูตรที่เกี่ยวข้องไม่น้อยกว่า 180 ชั่วโมง ทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ เพื่อเพิ่มความรู้ รวมถึงการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ราชการเกิดประสิทธิภาพ ตามที่กำหนดไว้ในกฎคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ทั้งนี้ ก่อนหน้านั้น การอบรมผู้บริหาร ข้าราชการส่วนใหญ่จะจัดที่สถาบันพัฒนาครูคณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษา (สคบศ.) ที่วัดไร่ขิง แต่เนื่องจากการอบรมต้องใช้ระยะเวลาและแต่ละรุ่นรับผู้เข้าอบรมไม่มาก ดังนั้น ในครั้งนี้จะกระจายการอบรมไปตาม 4 ภูมิภาค ภาคกลาง สพฐ.จัดอบรมระหว่างวันที่ 6-25 มิ.ย.ใน 4 หน่วยพัฒนา โดย ผอ.สถานศึกษา 219 คน จะอบรมที่สถาบันพัฒนาครูคณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษา (สคบศ.) วัดไร่ขิง ภาคเหนือจัดที่หน่วยพัฒนาสำนักงานเขตพื้นที่การประถมศึกษา (สพป.) พิษณุโลก เขต 1 เพื่อพัฒนารองผอ.สถานศึกษา 240 คน ภาคใต้ที่หน่วยพัฒนาของสำนักงานเขตพื้นที่การประถมศึกษา (สพป.) เพชรบุรี เขต 1 มีรองผอ.สถานศึกษาร่วมพัฒนา 259 คน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่สำนักงานเขตพื้นที่การประถมศึกษา (สพป.) นครราชสีมา เขต 1 พัฒนารอง ผอ.สถานศึกษา 300 คน ในส่วนของ สอศ.จะพัฒนาตำแหน่งรองผอ.สถานศึกษาทั้ง 118 คน ที่หน่วยพัฒนาของสำนักพัฒนาสมรรถนะครูและบุคลากรอาชีวศึกษาระหว่างวันที่ 4-27 มิ.ย.นี้
“ผู้บริหารสถานศึกษาถือเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา เมื่อผ่านการอบรมพัฒนาก่อนเข้ารับตำแหน่งเสร็จเรียบร้อยแล้ว รมว.ศธ.จะนำคณะผู้บริหารเหล่านี้ เข้าพบนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 28 มิ.ย.นี้ ด้วย เพื่อรับนโยบายทางด้านการศึกษา ก่อนที่ผู้บริหารเหล่านี้จะออกไปปฏิบัติหน้าที่ในสถานศึกษาที่ว่างอยู่ต่อไป” ปลัดศธ. กล่าว
น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า ตามที่ ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) มีนโยบายว่า การสอบแข่งขันเพื่อบรรจุเป็นข้าราชการในสังกัดหน่วยงาน ศธ.นั้นให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จที่ส่วนกลาง และให้มีเพียงการสอบภาค ก.และ ข.เท่านั้นไม่ต้องมีการสอบสัมภาษณ์ซึ่งเป็นการตัดสินคนด้วยการใช้ดุลยพินิจ เพราะต้องการให้การดำเนินการทุกอย่างโปร่งใส เป็นธรรม และสร้างความเสมอภาค รวมถึงโอกาสให้แก่ครูและบุคลากรทางการศึกษาตามนโยบายสร้างพลังครู ซึ่งในปี 2555 นั้นกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) จะมีการบรรจุข้าราชการในตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษาและรองผู้อำนวยการสถานศึกษา ว่างอยู่ 1,136 อัตรา แบ่งเป็น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ซึ่งมีตำแหน่งว่างอยู่ จำนวน 1,018 อัตรา เป็นตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียน 219 อัตรา รองผู้อำนวยการโรงเรียน 799 อัตรา ซึ่งดำเนินการสอบคัดเลือกเมื่อวันที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมา และจะประกาศผลในวันที่ 30 พ.ค.นี้ ส่วนสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ซึ่งมีตำแหน่ง รอง ผอ.ว่างอยู่ 118 อัตรา ซึ่งไปจัดสอบคัดเลือกเสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 13 พ.ค.แล้วเช่นกัน และประกาศผลไปแล้วเมื่อวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ก่อนเข้ารับตำแหน่งทั้งหมดนั้น จะต้องผ่านการอบรมในหลักสูตรที่เกี่ยวข้องไม่น้อยกว่า 180 ชั่วโมง ทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ เพื่อเพิ่มความรู้ รวมถึงการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ราชการเกิดประสิทธิภาพ ตามที่กำหนดไว้ในกฎคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ทั้งนี้ ก่อนหน้านั้น การอบรมผู้บริหาร ข้าราชการส่วนใหญ่จะจัดที่สถาบันพัฒนาครูคณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษา (สคบศ.) ที่วัดไร่ขิง แต่เนื่องจากการอบรมต้องใช้ระยะเวลาและแต่ละรุ่นรับผู้เข้าอบรมไม่มาก ดังนั้น ในครั้งนี้จะกระจายการอบรมไปตาม 4 ภูมิภาค ภาคกลาง สพฐ.จัดอบรมระหว่างวันที่ 6-25 มิ.ย.ใน 4 หน่วยพัฒนา โดย ผอ.สถานศึกษา 219 คน จะอบรมที่สถาบันพัฒนาครูคณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษา (สคบศ.) วัดไร่ขิง ภาคเหนือจัดที่หน่วยพัฒนาสำนักงานเขตพื้นที่การประถมศึกษา (สพป.) พิษณุโลก เขต 1 เพื่อพัฒนารองผอ.สถานศึกษา 240 คน ภาคใต้ที่หน่วยพัฒนาของสำนักงานเขตพื้นที่การประถมศึกษา (สพป.) เพชรบุรี เขต 1 มีรองผอ.สถานศึกษาร่วมพัฒนา 259 คน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่สำนักงานเขตพื้นที่การประถมศึกษา (สพป.) นครราชสีมา เขต 1 พัฒนารอง ผอ.สถานศึกษา 300 คน ในส่วนของ สอศ.จะพัฒนาตำแหน่งรองผอ.สถานศึกษาทั้ง 118 คน ที่หน่วยพัฒนาของสำนักพัฒนาสมรรถนะครูและบุคลากรอาชีวศึกษาระหว่างวันที่ 4-27 มิ.ย.นี้
“ผู้บริหารสถานศึกษาถือเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา เมื่อผ่านการอบรมพัฒนาก่อนเข้ารับตำแหน่งเสร็จเรียบร้อยแล้ว รมว.ศธ.จะนำคณะผู้บริหารเหล่านี้ เข้าพบนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 28 มิ.ย.นี้ ด้วย เพื่อรับนโยบายทางด้านการศึกษา ก่อนที่ผู้บริหารเหล่านี้จะออกไปปฏิบัติหน้าที่ในสถานศึกษาที่ว่างอยู่ต่อไป” ปลัดศธ. กล่าว