“สุชาติ” บินต่างประเทศ เลี่ยงผู้ปกครอง-นร.บดินทรฯ หลังถูกขึ้นป้ายโจมตีเปิดรับแป๊ะเจี๊ยะเสรี ส่งที่ปรึกษาเผชิญหน้าเจรจาหาข้อยุติรับนักเรียน ม.4 แทน “พรพิชิต” เผยผลสรุปให้ ร.ร.บดินทรฯ ทบทวนกฎเกณฑ์การรับนักเรียน ม.4 ทั้ง 57 คน พร้อมตั้ง คกก.สอบสอน ผอ.โรงเรียน ด้านเด็กสวนกุหลาบปทุมฯ เอาบ้าง ขอ ศธ.ขยายห้องเรียนรับเด็ก ม.1 และ ม.4
วันนี้ (21 พ.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ห้องปฏิบัติการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กลุ่มเครือข่ายผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) พร้อมด้วยนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เดิมกว่า 20 คน เดินทางมายัง ศธ.เพื่อมาร่วมเจรจาหาข้อยุติกรณีการรับนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนบดินทรเดชาฯ ภายหลังจากที่มีตัวแทนนักเรียน 3 คนอดข้าวประท้วงอยู่บริเวณประตูที่ 4 ทำเนียบรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เนื่องจาก ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ต้องเดินทางไปปฏิบัติราชการที่ต่างประเทศ จึงได้มอบหมายให้ นายพรพิชิต สุกัญนาญ ที่ปรึกษา รมว.ศึกษาธิการ เป็นตัวแทนเจรจากับผู้ปกครอง พร้อมด้วย ศ.ดร.บุญทัน ดอกไธสง ในฐานะนักวิชาการ สถาบันบัณฑิตพัฒนศาสตร์ (นิด้า) ร่วมเจรจา และมี พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมสังเกตการณ์
โดย นายพรพิชิต กล่าวว่า รมว.ศึกษาธิการ ได้กำชับก่อนเดินทางว่า ให้แก้ไขปัญหาโดยนึกถึงเด็กเป็นสำคัญ โดยต้องหาที่เรียนให้แก่นักเรียนให้ได้ ดูแลอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ ตนไม่อยากให้มองว่าเป็นเรื่องการแบ่งพรรคแบ่งพวก ถือสีถือฝ่าย ตรงนี้จะไม่มีแน่นอน แต่เราจะร่วมกันหาทางออกให้ดีที่สุด
ด้าน ศ.ดร.บุญทัน กล่าวว่า ตนมาในฐานะนักวิชาการอิสระ ตนมองว่าขณะนี้เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาของครอบครัว คือ ครอบครัวบดินทร มีผู้ปกครอง นักเรียน และรวมถึงกระทรวงฯ เพราะฉะนั้นอยากให้ร่วมกันแก้ไขปัญหา และ ศ.ดร.สุชาติ ย้ำด้วยว่าไม่อยากให้ลูกหลานเราต้องไปอดข้าวและอยู่ข้างถนน นอกจากนี้ ไม่ค่อยสบายใจที่ได้เห็นป้ายที่แขวนอยู่ซึ่งมีข้อความรุนแรง ตนไม่อยากให้เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นการเมือง และไม่อยากให้ดึงเด็กไปเป็นเครื่องมือ
ขณะที่ พล.ต.ต.วิชัยกล่าวว่า ตนได้รับคำสั่งให้มาดูแลความเรียบร้อย และดูแลความปลอดภัยแก่นักเรียน อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการเจรจาจะหาทางออกได้ ทั้งนี้ ตนไม่อยากเห็นการฉวยโอกาสกับเด็กโดยเฉพาะป้ายข้อความที่แขวนไว้มีถ้อยคำที่เขียนแบบนั้น ดูไม่เหมาะสมและยิ่งมีเด็กนั่งอยู่หลังป้ายยิ่งเป็นภาพที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า การเจรจาในครั้งนี้ นายแทนคุณ จิตต์อิสระ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางมาร่วมสังเกตการณ์ ในช่วงระยะเวลาไม่นานก่อนจะเดินทางกลับไป โดยนายแทนคุณกล่าวว่า ตนมาในฐานะทูตพิทักษ์สิทธิเด็ก เพราะได้รับการติดต่อจากตัวแทนเครือข่ายผู้ปกครองว่าต้องการให้มาช่วยสังเกตการณ์ อย่างไรก็ตาม ตนเห็นว่าต้องแก้ไขปัญหาเรื่องนี้โดยเร็ว และต้องมีการตรวจสอบทุกขั้นตอนทั้งการดำเนินการของโรงเรียน และคุณสมบัติของเด็ก คือ ต้องตรวจสอบทั้ง 2 ฝ่ายอย่างเท่าเทียมกัน ส่วนกรณีปัญหาเรื่องระเบียบการรับนักเรียนของกระทรวงฯ อาจจะต้องเสนอให้คณะกรรมาธิการการศึกษา สภาผู้แทนราษฎร หรือนำเข้าสู่การพิจารณาของศาลปกครองด้วย ที่สำคัญตนไม่อยากให้เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องการเมือง และควรมีคณะกรรมการกลางมาตรวจสอบเพื่อความโปร่งใส
จากนั้น เวลาประมาณ 10.30 น. กลุ่มผู้ปกครองและนักเรียนจากโรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สวนกุหลาบวิทยาลัยปทุมธานี ซึ่งนำนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่บ้านอยู่ในเขตพื้นที่บริการและนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่จบจากโรงเรียนสวนกุหลาบฯ เดิมแต่ยังไม่มีที่เรียน ได้เดินทางมายัง ศธ.เพื่อขอให้ทางกระทรวงฯ ช่วยเหลือโดยระบุว่า ต้องการให้ทางโรงเรียนสวนกุหลาบฯ ขยายห้องเรียนเพิ่มเติมทั้งระดับชั้น ม.1 และ ม.4 ซึ่งปีที่แล้วนั้นโรงเรียนเปิดห้องเรียนในทั้ง 2 ระดับชั้นๆ ละ 8 ห้องแต่ในปีนี้ โรงเรียนลดเหลือ 6 ห้องและเปิดเป็นห้องเรียนพิเศษ 2 ห้อง อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านั้นได้ไปลงชื่อขอจัดสรรที่เรียนกับทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาแล้ว แต่เพราะได้รับการจัดสรรไปเรียนโรงเรียนที่ค่อนข้างไกล เช่น ย่านสามโคก ซึ่งไกลจากบ้านมาก เพราะฉะนั้นจึงได้ตัดสินใจเดินทางมาขอให้ ศธ. สั่งการให้มีการขยายห้องเรียนเพื่อให้เด็กได้มีที่เรียน
สำหรับผลสรุปการเจรจาในครั้งนี้ นายพรพิชิตได้กล่าวข้อสรุปเบื้องต้นว่า ให้โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ไปทบทวนกฎเกณฑ์การรับนักเรียนเข้าศึกษาต่อชั้น ม.3 ขึ้น ม.4 จำนวน 57 คน พร้อมให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนการปฏิบัติหน้าที่ของผู้อำนวยการโรงเรียน และในวันพรุ่งนี้ (22 พ.ค.) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ รวมถึงผู้ปกครองและนักเรียนที่มีปัญหาทั้ง 57 คน จะมีการแถลงอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
