คิดแปลก! “สุชาติ” โยน สพฐ.ถกไอเดียขยาย ร.ร.ดัง รองรับความต้องการของผู้ปกครอง โดยไม่ต้องสร้างอาคารเพิ่มใหม่ แต่ดึง ร.ร.เล็กที่เต็มใจให้รวมเป็นส่วนหนึ่งของ ร.ร.ดัง ให้มี ผอ.บริหารจัดการคนเดียว เชื่อวางระบบดีๆ จะทำได้ ชี้ วิธีนี้ช่วยเพิ่มที่นั่งรับ นร.ให้มากขึ้น หวังแก้ปัญหาฝากเด็ก
ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ. ) กล่าวว่า เพื่อแก้ปัญหาผู้ปกครองแห่กันนำบุตรหลานเข้าเรียนโรงเรียนมัธยมศึกษาชื่อดัง ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จนทำให้เกิดปัญหาฝากเด็กตามมานั้น ตนจึงได้มีประเด็นให้ สพฐ.ไปพิจารณาดูว่า ควรมีการขยายโรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูง หรือโรงเรียนดังทั้ง 280 แห่ง เพื่อรองรับความนิยมของผู้ปกครอง ซึ่งปัจจุบันปริมาณเด็กที่ต้องการเข้าโรงเรียนดังนั้น มีมากกว่าจำนวนที่นั่งในโรงเรียนกว่า 10 เท่า
อย่างไรก็ตาม ตนมองว่าการขยายโรงเรียนดังนั้นไม่จำเป็นต้องใช้วิธีสร้างอาคารเรียนเพิ่มในสถานที่เก่า เพราะเข้าใจว่าโรงเรียนดังหลายแห่งโดยเฉพาะที่อยู่ในเมืองนั้นคงขยายตัวได้ยาก เพราะมีข้อจำกัดเรื่องพื้นที่ แต่ความจริงแล้วยังมีอาคารในสถานศึกษาอีกหลายแห่งที่ไม่ได้ใช้ โดยเฉพาะในสถานศึกษาที่มีจำนวนนักเรียนน้อย
“ผมคิดว่า ถ้าโรงเรียนเล็กแห่งใดเต็มใจให้ใช้อาคารสถานที่ ก็ให้โรงเรียนแห่งนั้นๆ เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของโรงเรียนดัง โดยให้รวมเป็นโรงเรียนเดียวกัน ใช้ชื่อเดียวกัน บริหารจัดการภายใต้ผู้อำนวยการคนเดียวกัน รับนักเรียนพร้อมกัน แล้วก็บริหารจัดการเองว่าจะแบ่งเด็กไปเรียนที่ไหนอย่างไร ถ้าทำแบบนี้จะทำให้ ร.ร.ดังมีที่นั่งเพิ่มสำหรับรองรับความต้องการของผู้ปกครองนักเรียน ” รมว.ศึกษาธิการกล่าว และว่า หากวางระบบบริหารจัดการดีๆ แล้วโรงเรียนไม่จำเป็นอยู่ในรั้วเดียวกัน และก็ไม่ต้องกังวลเรื่องขนาดของโรงเรียนที่ใหญ่เพิ่มขึ้น ดูอย่างโรงเรียนในต่างประเทศหลายแห่งมีจำนวนนักเรียนถึง 5,000 คน หรือแม้แต่โรงเรียนเอกชนบางแห่งในประเทศ มีจำนวนนักเรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานถึงเกือบ 10,000 คน ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการ ถ้าทำได้ดีก็สามารถจัดการเรียนการสอนที่มีคุณภาพได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า การเพิ่มที่นั่งในโรงเรียนดัง อาจส่งผลกระทบต่อโรงเรียนเอกชน โรงเรียนขนาดกลาง ศ.ดร.สุชาติกล่าวว่า ตนเห็นว่าเป็นเรื่องธรรมดาของการแข่งขัน โรงเรียนที่ไม่ได้รับความนิยมก็ต้องปรับตัว โรงเรียนที่ได้รับความนิยมก็ต้องขยายเพิ่ม แต่ในส่วนของ ศธ.นั้น สามารถสร้างความเป็นธรรมให้กับทุกโรงเรียนได้ โดยการนำระบบคูปองการศึกษามาใช้ในอนาคต ซึ่งจะทำให้นักเรียนสามารถเลือกเรียนในโรงเรียนสังกัดใดก็ได้ตามความต้องการ และโรงเรียนนั้นก็จะได้รับงบประมาณตามตัวผู้เรียน